มารู้จักและใช้งานแผงควบคุมแอร์ในรถยนต์ให้ถูกต้องกันเถอะ

  • โดย : พิสน ลีละหุต
  • 27 เม.ย. 59
  • 546,851 อ่าน

เครื่องปรับอากาศ หรือแอร์ในรถยนต์ เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกที่ขาดไม่ได้แล้ว ยิ่งอากาศบ้านเราเริ่มร้อนขึ้นทุกวัน ยิ่งทำให้แอร์ต้องทำงานได้ดี มีประสิทธิภาพตลอดการใช้งานรถยนต์ แต่ยังมีอีกหลายๆคนเลยทีเดียว ที่ขึ้นรถได้เมื่อไหร่ ก็กดแต่ปุ่ม Auto แล้วตั้งอุณหภูมิ ที่เหลือก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของสมองกลในรถยนต์ไป จริงๆแล้วปุ่มควบคุมการทำงานระบบปรับอากาศในรถยนต์ ยังมีให้เลือกใช้งานอีกหลายรูปแบบ วันนี้เรามาค่อ

On Off Button

สวิตซ์ เปิด-ปิด

เป็นพื้นฐานสำคัญของการใช้งานเลยครับ สำหรับรถรุ่นที่เป็นตัวบิด ก็จะเป็นสัญลักษณ์ระบุว่า Off>1>2>3>4 หรือมากกว่านี้ในบางรุ่น โดยตัวเลขจะเป็นการระบุถึงความแรงของพัดลม ตัวเลขน้อยจะมีความแรงน้อยตามเลข โดยแอร์จะเริ่มทำงานเมื่อเราบิดไปที่ตัวเลข และจะหยุดทำงานเมื่อหมุนไปที่ Off แต่สำหรับรถรุ่นใหม่ๆ ที่มีแผงควบคุมเป็นแบบปุ่มกด จะเปิดการใช้งานด้วยการกดปุ่ม Auto ที่สมองกลจะเลือกความเร็วของพัดลมให้ โดยดูจากความแตกต่างของอุณหภูมิที่ตั้งไว้ กับอุณหภูมิจริงในห้องโดยสาร ยิ่งแตกต่างกันมาก ก็ยิ่งใช้ความแรงของพัดลมสูง แล้วจะลดลงอัตโนมัติ เมื่ออุณหภูมิที่แตกต่างลดลง หรือจะเปิดการทำงานด้วยการกดปุ่มหรือหมุนเร่งพัดลมก็ได้ครับ แต่พัดลมจะทำงานตามความแรงที่เรากำหนดไว้ ไม่เปลี่ยนเหมือนในระบบ Auto ส่วนการปิดการทำงาน ก็จะมีปุ่ม Off ที่มีแยกออกมาต่างหากครับ

Temp Control

ปุ่มควบคุมอุณหภูมิ

ปุ่มนี้จะเป็นตัวกำหนดความเย็นของห้องโดยสาร โดยจะมีเป็น 2 รูปแบบใหญ่ๆคือ เป็นสัญลักษณ์สีฟ้า และแบบระบุอุณหภูมิ โดยแบบสีฟ้า เมื่อหมุนหรือเลื่อนไปส่วนที่สีฟ้าหนามากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้อุณหภูมิเย็นมากขึ้นเท่านั้น ส่วนใหญ่จะหมุนไว้ที่ครึ่งนึง ส่วนแบบระบุอุณหภูมิ ก็สามารถหมุนหรือกดระบุได้เลยว่า เราต้องการให้ห้องโดยสารเย็นมากขนาดไหน ซึ่งส่วนใหญ่จะตั้งกันอยู่ที่ 24-26 องศาเซลเซียสครับ

Fan Control

ปุ่มควบคุมพัดลม

ปุ่มควบคุมพัดลมนี้ ถ้าเป็นรุ่นที่ใช้การบิด จะอยู่กับสวิตซ์เปิดปิดตามที่ได้กล่าวไปแล้ว แต่ถ้าเป็นแบบมีปุ่ม Auto จะมีแยกมาต่างหาก ซึ่งจะเป็นแบบกดปุ่มขึ้นลง, ลูกบิด หรือการเลื่อน ก็อยู่ที่แต่ละรุ่นครับ โดยเมื่อยิ่งเลื่อนไปที่เลขจำนวนมากขึ้น หรือสัญลักษณ์ขีดที่สูงขึ้น พัดลมก็จะยิ่งพัดแรงมากขึ้น โดยถ้าเรามีการเปิดระบบ Auto ไว้ แล้วมีการเลื่อนปรับความแรงพัดลม ระบบจะหยุดการทำงานของระบบ Auto ทันทีครับ

air recirculation

ปุ่มควบคุมช่องอากาศเข้า

เคยมีบางคนบ่นกับผมว่า “รถรุ่นนี้ไม่ดีเลย กลิ่นเข้ารถ เหม็นควันทั้งวันเลย” เมื่อไปดูปรากฏว่า เปิดช่องรับลมจากภายนอกไว้ แค่กดปุ่มเดียว อาการก็หายไปเลย โดยสัญลักษณ์นี้ จะมีทั้งแบบมี 2 ปุ่ม (หรือหมุน) หรือมีปุ่มเดียวคืออากาศหมุนเวียนภายในรถ ถ้าไฟดับ แปลว่ามีการเปิดรับอากาศจากภายนอกมาด้วย ซึ่งถ้าเป็นช่วงอากาศดีๆ รถไม่ติด วิ่งได้ยาวๆ การเปิดรับอากาศจากภายนอกมาด้วย จะช่วยให้ภายในห้องโดยสารมีออกซิเจนมากกว่าการปิดไว้ แต่ไม่ได้หมายความถ้าปิด แล้วจะทำให้ห้องโดยสารอากาศหมดไป เพราะห้องโดยสารยังมีช่องว่างตามจุดต่างๆเข้ามาได้อยู่ดีครับ ส่วนการเปิดรับอากาศ จะผ่านมาตรงจุดไหน คำตอบคือผ่านมาแถวฝากระโปรง ด้านล่างของกระจกหน้า จะมีช่องเล็กๆซ่อนอยู่ใต้ฝากระโปรง ตรงนั้นแหละครับที่เป็นจุดรับอากาศจากภายนอกครับ

Air Flow Control

ปุ่มเลือกทิศทางของลม

ส่วนใหญ่แล้วการที่ต้องการให้คนที่นั่งในรถรู้สึกเย็นสบายมากที่สุด เราก็จะเลือกการเป่าออกจากแผงคอนโซลด้านหน้า ลมเย็นก็จะสามารถกระจายได้ทั่วห้องโดยสารได้เร็วกว่า แต่เราก็สามารถเลือกที่จะเป่าลมให้ออกจากด้านล่างได้เช่นกันโดยกดที่ปุ่มนี้ (หรือหมุน) ให้เป็นสัญลักษณ์ที่มีลูกศรชี้ลงไปที่เท้า ตัวลมก็จะเป่าลงไปข้างล่างแทน หรือจะเลือกให้เป่าพร้อมกันทั้ง 2 ทิศก็ได้ แต่ความแรงของลมก็จะลดลง เพราะถูกแบ่งออกไปทั้ง 2 ช่องครับ อันนี้แล้วแต่ความชอบส่วนตัวว่าจะเลือกแบบไหนครับ

Defogger

ปุ่มเป่าลมที่กระจกบังลมหน้า-หลัง

ปุ่มนี้ขอแยกมาเป็นพิเศษ เพราะเชื่อว่าหลายคนยังไม่เคยได้ใช้ครับ บางยี่ห้อจะเรียกว่าปุ่มละลายฝ้า (Defogger)  โดยปุ่มนี้จะให้ลมเป่าออกตรงกระจกบังลมหน้า หรือกระจกหลัง (ในบางรุ่น เมื่อเปิดที่กระจกหลัง จะเป็นการเปิดความร้อนไปที่เส้นไล่ฝ้า)  เพื่อช่วยไล่ฝ้าที่เกิดขึ้นบนกระจก แต่ถ้าใช้แล้วฝ้าไม่หาย ให้ลองเลือกการรับอากาศจากภายนอกด้วย ก็จะช่วยให้ฝ้าที่กระจกหน้าลดลงได้เร็วขึ้นครับ

AC Button

ปุ่ม A/C

ปุ่มนี้เอาไว้ใช้ควบคุมการทำงานของคอมเพรสเซอร์ โดยเลือกให้ทำงานหรือหยุดทำงานได้ เอาไว้เวลาที่เราต้องการใช้พัดลมเพียงอย่างเดียว หรือจะใช้ปิดช่วงก่อนถึงที่หมาย เพื่อให้ลมเป่าความชื้นออกจากแผงคอยล์เย็น ลดการเกิดเชื้อราที่แผงได้ครับ แต่ปุ่มนี้ไม่ได้มีในรถทุกคัน ถ้าคันไหนไม่มีแต่ต้องการเปิดพัดลมอย่างเดียว ให้หมุนที่ปรับอุณหภูมิให้ไปซ้ายสุด หรือจุดที่มีเส้นสีฟ้าบางที่สุด คอมเพรสเซอร์ก็หยุดการทำงานได้เช่นกันครับ

 

ปุ่มควบคุมระบบปรับอากาศในรถส่วนใหญ่จะเป็นแบบนี้ครับ แต่ว่าอาจจะมีบางรุ่นที่มีมากกว่านี้ เช่น ปุ่มควบคุมแอร์หลัง, ปุ่มควบคุมอุณหภูมิแยกซ้ายขวา เป็นต้น ดังนั้นเมื่อซื้อรถมาใหม่ อยากให้ทุกคนได้อ่านคู่มือที่ติดมากับรถก่อนทุกครั้ง อย่างน้อยเราก็ได้รู้ว่ารถเราสามารถทำอะไรได้บ้าง จะได้ใช้รถได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุดครับ



 

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ