วิธีเช็คระดับน้ำมันเกียร์อัตโนมัติ ไม่ยากอย่างที่คิด

  • โดย : พิสน ลีละหุต
  • 18 ส.ค. 59
  • 228,772 อ่าน

รถยนต์ที่วิ่งอยู่บนถนนทุกวันนี้ จะใช้เกียร์อัตโนมัติกันเกินกว่าครึ่ง แต่เมื่อเปิดฝากระโปรงหน้าทีไร เราก็มักจะตรวจเช็คกันแต่ระดับน้ำหล่อเย็น, ระดับน้ำมันเครื่อง หรือระดับน้ำกลั่นในแบตเตอรี่ แต่กับก้านวัดระดับน้ำมันเกียร์ เราแทบจะไม่เคยชักออกมาดูกันเลย อาจเป็นเพราะดูไม่ออกหรือชักออกมาทีไรก็เลยขีดบนทุกที วันนี้เลยมาแนะนำวิธีการเช็คกันแบบง่ายๆกันครับ

การวัดระดับน้ำมันเกียร์อัตโนมัติ จะยุ่งยากกว่าน้ำมันเครื่องหน่อย เพราะระบบหล่อลื่นของเกียร์นั้นมีความซับซ้อนกว่าระบบหล่อลื่นของเครื่องยนต์พอสมควร ปกติเวลาเราดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องออกมา ก็จะเห็นระดับ E-F หรือ L-H อย่างชัดเจน และวัดตอนไหนก็ได้ ขอแค่ดับเครื่องมาแล้วเกินกว่า5 นาทีเป็นใช้ได้ แต่กับน้ำมันเกียร์อัตโนมัติมันไม่ใช่ ถ้าจอดไว้แล้วดึงออกมา มักจะเจอกับระดับน้ำมันที่ได้ระดับหรือเกินระดับที่ขีดไว้อยู่เสมอ แถมที่ก้านยังมีตัววัดไว้ 2 ช่วงอีกต่างหาก คือ Hot และ Cold (หรือ Cool) ยิ่งทำให้คนไม่รู้วิธียิ่งงงไปใหญ่

อธิบายง่ายๆว่า น้ำมันเกียร์ออโต้มันมีคุณสมบัติการใช้งานที่ต่างจากน้ำมันเครื่อง เพราะเมื่อน้ำมันมีความร้อนสะสม จะมีการขยายตัว ดังนั้นระดับที่วัดจึงมีอยู่ 2 ระดับ โดยระดับ Cold ใช้วัดตอนที่เครื่องมีการดับมาเกินกว่า 2-3 ชั่วโมง (เมื่อระดับความร้อนเครื่องยนต์ต่ำสุด) และระดับ Hot ใช้วัดตอนที่เครื่องยนต์มีการใช้งานแล้วเกินกว่า 15 นาที (ระดับความร้อนเครื่องยนต์ในระดับวิ่งปกติ) ซึ่งการวัดในช่วง Hot จะได้ผลดีกว่า ดังนั้นเราจึงอุ่นเครื่องรถด้วยการขับก่อนประมาณ 15 นาที (หรือวัดตอนใช้รถถึงที่หมายแล้วก็ดี) จากนั้นให้ทำตามขั้นตอนนี้ตามลำดับครับ

1. จอดรถตรงที่ราบ ไม่เอียงข้างหรือหน้า

2. ใส่เบรกมือเพื่อป้องกันอันตราย

3. เหยียบเบรกค้างไว้ จากนั้นเลื่อนเกียร์จากตำแหน่ง P มาตำแหน่ง R แล้วค้างไว้ประมาณ 5 วินาที (ท่องนะโมฯ 3 จบ) เมื่อครบแล้วก็เลื่อนลงมาทีละเกียร์ ค้างไว้เกียร์ละ 5 วินาที จนครบทุกตำแหน่ง (กรณีที่มีเกียร์แบบโหมดสปอร์ต (+,-) ไม่ต้องขยับเข้าไปในชุดนั้น)

4. เมื่อครบทุกเกียร์แล้ว ให้เลื่อนกลับมาที่เกียร์ P

5. เปิดฝากระโปรง โดยไม่ต้องดับเครื่องยนต์ ปล่อยให้เครื่องเดินเบาอีกซัก 1-2 นาที แล้วชักก้านวัดน้ำมันเกียร์ออกมา แล้วเช็ดด้วยผ้าสะอาด จากนั้นให้เสียบกลับลงไปให้สุดแล้วดึงออกมาทันที

ระดับน้ำมันเกียร์ควรอยู่ในช่วง Hot ให้อยู่ในระหว่าง E-F หรือ L-H ถ้าต่ำกว่าระดับ ควรต้องหามาเติมให้อยู่ในระดับ (เติมทางช่องที่เสียบก้านวัด แนะนำให้หากรวยกรอกขนาดเล็กมาด้วย) แต่ถ้าสูงเกิน ควรนำเครื่องเข้าที่อู่หรือศูนย์บริการ เพื่อนำน้ำมันเกียร์ออกให้ได้ระดับ เพราะอาจเป็นสาเหตุให้เกียร์เกิดความเสียหายได้

การตรวจเช็คน้ำมันเกียร์ ถ้าเป็นไปได้ก็ซักสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรือช้าที่สุดอย่าให้เกิน 1 เดือน เพราะถ้าปล่อยให้น้ำมันเกียร์แห้งจนเกียร์พังขึ้นมาเมื่อไหร่ บอกได้เลยครับว่าหายนะได้มาเยือนกระเป๋าตังค์แน่นอนครับ

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com 

5 เรื่องน่าสนใจ