Deft Interview : วัลลภ ตรีฤกษ์งาม เปิดใจ Suzuki กับอีโค่คาร์... อนาคตสดใส ดัน Celerio สร้างฐานลูกค้าหน้าใหม่

  • โดย : Autodeft
  • 10 ก.ค. 57
  • 36,098 อ่าน

เปิดใจการตลาดใหญ่ค่าย Suzuki มองไทยกำลังพลิกตลาดรถยนต์นั่งอีโค่คาร์มาแรงแน่ในอีก 2 ปี มั่นใจใน Suzuki Celrio สร้างปรากฏารณ์ได้เหมือน Suzuki Swift

 

 

ในช่วงหลายปีทีผ่านมา ถ้าถามถึงรถยนต์ที่เข้าสร้างปรากฏการณ์ด้วยการกลับมาอย่างรวดเร็วจากค่ายรถยนต์ที่มีน้อยคนมากจะนึกถึงแม้จะดำรงอยู่ในตลาดมายาวนาน แต่วันนี้เมื่อใครสักคนต้องการซื้อรถยนต์นั่งขนาดเล็ก หรือ อีโค่คาร์คงจะปฏิเสธไม่มองค่าย Suzuki  ไม่ได้ ด้วยการสร้างปรากฏการณ์สั่นสะเทือนจนแม้แต่ค่ายยักษ์ใหญ่ยังต้องมองถึงกระแสตอบรับที่ดีเกินคาด

การกลับมาผงาดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Suzuki  สามารถตอบโจทย์เรื่องของอีโค่คาร์ได้อย่างหมดเปลือก โดยเฉพาะ Suzuki Swift  พระเอกที่กลายเป็นม้ามืดมาแรงแซงทางโค้ง ไปอย่างไม่น่าเชื่อจนอยู่แถวหน้าอีโค่คาร์ ล่าสุดการสร้างปรากฏการณ์อีกครั้งในตลาดอีโค่คาร์ ด้วยการแนะนำ Suzuki Celerio   สู่ตลาด ยิ่งสร้างความประหลาดใจที่มันเป็นอีโค่คาร์  5  ประตู แถมยังเป็นรุ่นแรกที่มาพร้อมเครื่องยนต์ที่ฉีกกว่าคู่แข่งในตลาดด้วย ขุมพลัง  1.0  ลิตร  ที่ไม่มีใครเคยคิดจะทำ 

คุณวัลลภ ตรีฤกษ์งาม ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด (Director of  Marketing Division)
บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
 

แนวทางที่แปลกแตกต่างทำให้ Suzuki ก้าวขึ้นมาในตลาดอย่างเร็ว รวมถึงในตลาดโลก ยังยอมรับพวกเขาในการเป็นผู้เชี่ยวชาญรถยนต์นั่งขนาดเล็กนั้น จนทำให้เราสนใจ Suzuki  ในภาพใหม่ที่เปลี่ยนไปมากขึ้น จนเรา Autodeft อดไม่ได้ ต้องมาจับเขาคุยทุกเรื่องราวอีโค่คาร์ กับคุณวัลลภ ตรีฤกษ์งาม ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด (Director of  Marketing Division) บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด 

คำถามมาก เกิดขึ้นตั้งแต่การเปิดตัว Suzuki Celerio  ซึ่งพี่วัลลภเผยถึงการสร้างความแตกต่าง ด้วยการไม่ส่งรุ่นซีดานออกมาเหมือนค่ายอื่น แถมเลือกเครื่องยนต์ทีมีขนาดเล็กลง เหมาะต่อการใช้งานในเมืองมากขึ้นและประหยัดน้ำมันมากขึ้นว่า เหตุผลที่ Suzuki  เข้ามาจริงจังในไทย เพราะว่าเราเล็งเห็นแล้วว่า เมืองไทยเริ่มให้ความจริงจังกับตลาดรถยนต์นั่ง โดยเฉพาะรถยนต์นั่งขนาดเล็กและประหยัดน้ำมัน ฉะนั้น Suzuki จึงมั่นใจในการเข้ามาเปิดโรงงานผลิตรถยนต์อย่างจริงจัง

เหตุผลเลือกที่ Suzuki  Celerio  มาเปิดตัวเป็นรุ่นที่สองนั้น ก็เนื่องจากความสำเร็จของการขาย Suzuki   Swift  และได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ซึ่งพิสูจน์ชัดว่า Suzuki Swift  เป็นรถยนต์อีกรุ่น ที่ทำให้Segment อีโค่คาร์ได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2012-2013  Suzuki Swift  เองได้รับการสนับสนุนที่ดีจากลูกค้า จนทำให้สัดส่วนของรถอีโค่คาร์ในตลาดรถยนต์เก๋งนั่งกระโดดขึ้นมาถึง  28%  นับตั้งแต่ที่ Nissan เริ่มเปิดตัว Nissan  March  ตอนนั้นเซกเม้นท์นี้เท่ากับศูนย์ จวบจนมี Brio ,Mirage  และ Suzuki Swift

“ตรงนี้ทำให้เรามั่นใจมากว่ารถยนต์นั่งกำลังมีการเปลี่ยนแปลงมิติใหม่ เรากำลังสร้างมิติใหม่การขับรถยนต์ของคนไทย ว่าถ้าคนต้องการความประหยัดและเป็นแนวโน้มที่สำคัญของเทรนด์พลังงานในโลกด้วยนี่ ต้องอีโค่คาร์ อันนี้เป็นเรื่องที่ชัดเจนมาก เราไม่สงสัยเลย และเชื่อว่าคนไทยไปกับกระแสนี้อยู่ เราจึงมั่นใจมากว่าคนไทยเอาแน่กับกระแสรถยนต์อีโค่คาร์”

ดังนั้นโจทย์ของเราจึงแค่จะเอารุ่นอะไรมาเปิด เรามั่นว่า Suzuki Celerio  เป็นทางเลือกที่ดีในตลาดรถยนต์ปัจจุบัน และยิ่งกว่านั้น  Suzuki Celerio  เป็นการยกระดับการใช้รถยนต์อีโค่คาร์อีกครั้งหนึ่ง ด้วยการเปิดตัวในราคาที่ถูกที่สุดที่ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้ รวมถึงยังประหยัดพลังงาน และประสิทธิภาพเปี่ยมล้น โดยเฉพาะ Suzuki Celelrio  จะเป็นรถเราจะส่งออกไปขายทั่วโลกด้วย ก็ยิ่งตอกย้ำชัดเจนว่า  Suzuki Celerio  เป็นรถที่มีคุณภาพ

 

เมื่อ Suzuki Swift  ปะทะ Suzuki Celrio

แง่หนึ่งที่พูดถึงกันมากภายหลังการเปิดตัว  Suzuki Celerio   ออกมาคงไม่พ้นเรื่องความเหมือนที่แตกต่างของ ความเป็นตัวตน 5  ประตูที่กลายเป็นข้อกังขาของผู้มองหารถยนต์อีโค่คาร์ ทางคุณวัลลภ บอกว่า ความไม่ต่างกันในเรื่อง 5  ประตู  มันเป็นปัจจัยหนึ่งเท่านั้นในการตัดสินใจของลูกค้า แต่หลักการตัดสินใจอยู่ที่การตลาด ซึ่งทางฝั่งเราที่พี่วัลลภทำอยู่นี่ก็ทำการตลาดให้มันมีความแตกต่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการชี้ให้เห็นถึงไลฟ์สไตล์การขับรถที่มีความแตกต่างกัน

ความแตกต่างที่ว่านั้น อยู่ที่ตัวลูกค้าเอง หากลูกค้ามีงบประมาณที่สูงหน่อย ก็อาจจะอยากได้รถที่สามารถนำรถที่มาแต่งได้เพิ่มเติมอย่าง Suzuki  Swift  ได้ ก็จะเป็นการบ่งบอกวิถีชีวิตและตัวตนที่แตกต่างจากคนอื่น ก็จะได้รูปแบบหนึ่ง

แต่ลูกค้าของ Suzuki Celerio มีความต้องการที่จะประหยัดงบประมาณ และมีการใช้เงินอย่างคุ้มค่า เขาก็อาจจะอยากมองรถยนต์สักคันทีประหยัดเรื่องของราคา ค่าบำรุงรักษา หรือการตบแต่ง ก็จะเลือกรถที่สะดวกต่อการใช้งานอย่าง Suzuki Celerio   

“คนกลุ่มนี้ไม่ใช่คนที่ไม่อยากแต่งรถ แต่มองว่ารถที่เหมาะกับเขาควรเป็นรถยนต์ที่คุ้มค่ากับเขา จึงเลือก  Suzuki Celerio  ถึงจะต้องยอมรับว่ามันชนกันบ้าง แต่ด้วยมิติ การออกแบบ ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ ลูกค้าตัดสินใจระหว่างทางเลือก Celerio  และ Swift

 

แล้วกับ Suzuki Celerio   กระแสตอบรับเป็นอย่างไร ....

 ในแง่หนึ่งของการแนะนำ Suzuki Celerio  นั้น ความตั้งใจของเราคือต้องการสร้างฐานลูกค้าการใช้รถใหม่ แต่ว่า คนไทยยังมีกำลังซื้อสูงมาก ทำให้เกิดประเด็นว่าบางคนซื้อ  Celerio  เป็นคันที่สอง

แม้ว่าเรื่องจองจะยังไม่มากมาย เนื่องจากลูกค้า Suzuki Celerio เป็นกลุ่มลูกค้าที่ต้องใช้เวลาการตัดสินใจ แต่ จากแคมเปญ ที่ให้ลูกค้าตบเท้ามาเข้าทดสอบรถยนต์ นั้นมีประมาณหมื่นกว่าคนแล้ว ตั้งแต่ที่ประกาศออกไป ซึ่งในวงการยานยนต์ เชื่อว่า 20% ของยอดทดลองขับจะสามารถกลายเป็นยอดจองได้ เพียงแต่อาจจะยังต้องรอการตัดสินใจหรือเวลาที่เหมาะสม

“ ยอดจองนั้นอาจจะต้องใช้เวลาในการตัดสินใจ ซึ่งเทียบกับ Swift  ลูกค้าอาจจะตัดสินใจจบได้ทันที แต่ Celerio   จะต้องใช้เวลาในการตัดสินใจ อย่างเช่นนักศึกษาอาจจะต้องกลับไปถามที่บ้าน ซึ่งตอนนี้เราพอใจยอดการมาทดลองขับแล้ว ตอนนี้เราอยากให้ทุกคนได้รู้สมรรถนะก่อนว่าเป็นอย่างไร อย่าเพิ่งไปมองเรื่องของขนาดเครื่องยนต์  มีบางคนที่ได้ขับแล้วอาจจะรู้สึกว่า เออ น้องๆ Swift  นะ”

Suzuki Celerio

Suzuki Celerio 

นอกจากนี้ในหลายตัวแทนจำหน่ายก็พูดเป็นเสียงเดียวกัน ว่า เมื่อ Suzuki ออก Suzuki Celerio ทำให้ Suzuki Swift  ขายดีขึ้น ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นอาจจะไม่ใช่ทุกเคส แต่ไม่ว่าอย่างไรอย่างน้อยลูกค้าก็ยังเลือกอีโค่คาร์ของ  Suzuki   ในท้ายที่สุด

มุมมองหนึ่งที่น่าสนใจคงไม่พ้นการตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์สักคันของลูกค้าในปัจจุบัน ซึ่งคุณวัลลภ ในฐานะที่คลุกคลีตลาดรถยนต์มายาวนาน ได้ให้มุมมองที่น่าสนใจว่า

“ปัจจุบันคนไทยมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการซื้อรถยนต์ไปมาก คนไทยทุกวันนี้แตกต่างจากเมื่อก่อนที่ติดภาพลักษณ์ของยี่ห้อ หรือซื้อตามๆกัน ไป หากการเลือกซื้อรถยนต์ปัจจุบัน ใช้วิจารณญาณในการหาข้อมูล โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางออนไลน์ หรือทางสื่อต่างๆ มันไม่ใช่ว่า ซื้อเพราะบอกต่อๆกัน”

 

อยากให้คนเข้าใจ โปร 2222

พูดถึง Suzuki Celerio   คงไม่มีอะไรที่ทำให้คนสนใจมากกว่า การสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในตลาดรถยนต์ ด้วยอัตราผ่อนที่ต่ำมาก จนน่าเรียกว่า เทียบเท่าผ่อนมอเตอร์ไซค์ด้วยซ้ำ

คุณวัลลภ กล่าวถึงโปรโมชั่นที่ออกมาว่า โปร 2222 อาจจะเป็นแนวคิดและเรื่องใหม่มาก แต่มันจะเป็นการเปิดโอกาสให้คนนั้น เป็นเจ้าของรถง่ายขึ้น แล้วโปร 2222 นั้น ถ้าลูกค้าเข้าใจ เรื่องของหลักการ 2222  จะรู้ทันทีว่ามันเป็นหลักการที่ดีในการผ่อนรถ

เหตุผลคือในแต่ละปีนั้นเราจะมีเงินเดือนที่เพิ่มขึ้น ตามเงินเฟ้อ ซึ่งจะว่าไปโปรโมชั่นนี้ก็โตขึ้นตามเงินเฟ้อ และเป็นการใช้เงินที่มีหลักการและเหตุผลที่ดีมากคือค่อยๆโตขึ้น แต่ถ้าใช้การผ่อนชำระแบบ Flat Rate  บางทีเมื่อเริ่มผ่อน อาจเจอปัญหา จะทำให้เกิดประวัติการผ่อนชำระไม่ดี ติดอยู่ในเครดิตบูโร ซึ่งทำให้ประวัติเสียและยากที่จะทำอะไรในอนาคต

 2222  นั้นจะทำให้ประวัติของลูกค้าบันทึกในเครดิตบูโรนั้นได้ดี และเป็นเรื่องที่ดีสำหรับเด็กรุ่นใหม่ เพราะบางคนอาจจะยังไม่มีวินัยการใช้เงิน มีการใช้เงินเกินตัว ซึ่งจะทำให้ประวัติการผ่อนนั้นเสียทันที ต่อไปจะทำอะไรลำบาก ตรงนี้เป็นเรื่องใหม่ที่อาจต้องใช้เวลา แต่ยอมรับว่าโปรฯ นี้เทำให้ลูกค้าเดินเข้ามาที่โชว์  Suzuki   เยอะมากด้วยเช่นกัน

 

 

อีโค่คาร์ต่อไปอาจเป็นซีดาน แต่คงไม่ลงพลังงานทางเลือก

แล้วซีดาน!! ... จะมาไหม ... นาทีนี้ตอบได้เพียงว่า เป็นไปได้ จะว่าไป Suzuki เราก็ออกแฮทช์แบ็คมา 2  ตัวแล้ว ต่อไปก็มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นซีดาน แต่เราก็ต้องมองว่าตลาด ณ ตอนนั้น พร้อมหรือยังที่จะให้เราออก แต่ถามว่าเร็วแค่ไหนยังยากที่จะตอบในเวลานี้

ถ้างั้น พลังงานทางเลือกล่ะ...ยิ่งเมื่อไม่นานมานี้ Suzuki Celerio  ในอินเดียเพิ่งจะเปิดตัวรุ่น CNG แง่หนึ่งคือ Suzuki  ยังวางราคาละรุ่นที่ห่าง ทาง Suzuki  จะนำรถรุ่นดังกล่าวเข้ามาจำหน่ายหรือเปล่า

พี่วัลลภบอกว่า ที่จริงในเวลานี้เชื่อว่าหลายค่ายรถยนต์ โดยเฉพาะผู้เล่นในกลุ่มอีโค่คาร์นั้น คงจะไม่ได้มองการทำพลังงานทางเลือกที่พิศดาลอะไรมากมาย ทั้งในเรื่องของน้ำมัน  E85  หรือ คิดแก๊ส ทั้ง  NGV – LPG  ส่วนหนึ่งด้วยโครงการรถยนต์อีโค่คาร์ระยะที่ 2  ที่บีบลดการปล่อยไอเสียให้ต่ำลง และจะว่าไปรถอีโค่คาร์ก็มีอัตราประหยัดที่ต่ำมากพอตัวอยู่แล้ว ยิ่งอีกไม่นานโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่จะเริ่มปรับในปี 2016 เชื่อว่าทุกค่ายน่าจะมองถึงจุดนั้นมากกว่า ที่จะจับอีโค่คาร์มาทำพลังงานทางเลือก

 

อีโค่คาร์เฟส 2  อนาคตที่เข้าทาง Suzuki

จริงๆแล้วโครงการอีโค่คาร์ 2  ต้องยอมรับนะว่าเป็นโครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากภาครัฐบาลอย่างมาก เพราะเมื่อวันที่ 1  มกราคม 2016  ฐานภาษีของอีโค่คาร์  2  จะยิ่งทำให้รถอีโค่คาร์น่าสนใจมากขึ้นและฉีกตัวออกห่างจากรถยนต์ B Car  มากขึ้นไปอีก เพราะ B Car  ที่ไม่สามารถเข้าสเป็คอีโค่คาร์ได้จะมีภาษีกระโดดขึ้นไปจาก  25% เป็น 30%  แต่อีโค่คาร์จาก 17% ในปัจจุบัน จะถูกเบียดลงเหลือ 14% ซึ่งก็จะทำให้มีช่องห่างมากขึ้นไปอีก และเป็นเครื่องยืนยันที่ดีว่ารถยนต์นั่งขนาดเล็กอีโค่คาร์จะได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างแน่นอน 

“ถ้าดูผู้ที่สนใจมาลงทุนอีโค่คาร์ จากผู้เล่น 5  ราย ก็จะมีมาเพิ่มกลายเป็น 10  ราย  ถึงแม้ว่าท้ายที่สุดจะออกมาไม่ครบทั้ง 10  ราย แต่เราก็เชื่อว่าอย่างไรเสียคนที่สมัครทั้ง 10  ราย ก็ต้องให้ความสำคัญของการลงและผลิตรถยนต์อีโค่คาร์ออกมา การที่ 10  ราย  เข้ามาแจมในตลาดก็หมายความว่า รถยนต์อีโค่คาร์จะได้รับความนิยมแน่นอน ปัจจุบันเราว่านิยมแล้ว ลองดูสิครับว่าวันที่ 1  มกราคม 2016  หลายๆคนจะสนใจและกระโจนเข้ามาในอีโค่คาร์อีกเยอะ”

 

การขึ้นมาผงาดของค่าย Suzuki  ในวงการรถยนต์อีโค่คาร์นั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ทำให้วงการตลาดยานยนต์ไทยมีสีสันมากขึ้น ตั้งแต่ Suzuki Swift   จนมาถึง Suzuki Celerio   ที่เราคงต้องยอมรับในการตลาดที่ไม่ธรรมดา และรถเล็กที่มีคุณภาพจากค่าย Suzuki ทำให้พวกเขาก้าวเข้ามาอยู่ในใจใครหลายๆคน

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com

 

5 เรื่องน่าสนใจ