ด้เวลานักปั่นตระหนัก กฎหมายจราจรทางบกมีข้อกำหนด จักรยาน

พบเรื่องราวน่ารู้สำหรับนักปั่นจักรยานเมื่อเราต้องตระหนักว่า กฎหมายจราจรมีข้อกำหนดเกี่ยวกับจักรยาน รู้ไว้ใช่ว่าก่อนขี่ออกทริป

 

 

กล่าวได้เต็มปากว่านาทีนี้มีคนจำนวนไม่น้อยที่หันมาสนใจใส่ใจในเรื่องของการขี่จักรยานมากขึ้น ไม่ว่าจะเพื่อการรวมกลุ่มหรือออกกำลังจริงจังเอาสุขภาพมาเป็นตัวตั้ง แต่นาทีไหนที่คุณปั่นบนถนนควรตระหนักให้มากในเรื่องของกฎหมาย

คนยุคใหม่อย่างเราๆ ท่านๆ ไม่เคยตระหนักมาก่อนแน่นอนว่า ตำรวจจะมีสิทธิมาจับจักรยาน แต่เรื่องนี้กำลังกลายเป็นประเด็นที่น่ากลัวและน่ากังวลมากขึ้น ว่าอาจจะมีความเป็นไปได้สูงที่จักรยานจะถูกบังคับด้วยกฎหมายอีกครั้ง บ้างว่าตำรวจเริ่มงัดกฎหมายมาใช้กันแล้ว และพวกเขาก็ดำเนินตาม พรบ.จราจรทางบก ปีพ.ศ.2522

จะใช้คำว่า “ผมไม่รู้” นาทีนี้คงจะพอได้แต่ต่อไปคงไม่มีอะไรแน่นอน และถ้าวันนี้คุณเป็นนักปั่นทีต้องออกถนนประจำ ลองมาดูสิว่า มีข้อกำหนดกฎเกณฑ์อะไรบ้างที่จะทำให้จ่าไม่จับคุณ ตามข้อหาทางกฎหมาย

 

1.ขี่ในทางที่จัดไว้ให้ ..  ตามมาตรา 79   ของพรบ.กราจราจรทางบกระบุชัดว่า ในกรณีที่ถนนที่ขี่มีเส้นทางจักรยานจัดเอาไว้ให้ผู้ขี่จักรยานต้องใช้ช่องทางดังกล่าวอย่างเคร่งครัด ดังนั้นสังเกตทางที่ไปให้ดี ถ้ามีช่องทางจักรยาน จนเข้าไปใช้

2.กรณีถนนที่ขี่ไม่เส้นทางจักรยาน ตามกฎหมายระบุว่า ให้รถจักรยานใช้ช่องทางทางด้านไหล่ทางเป็นสำคัญ และต้อง ตามระเบียบในมาตร 80  แต่ยิ่งกว่านั้น รถจักรยานที่ขี่ต้องจัดให้มี สิ่งของจำเป็นต่อการขับขี่ดังนี้

 

 

 

กระดิ่งที่สามารถส่งสัญญาณเตือนได้ในระยะ   30 เมตร

เครื่องห้ามล้อหรือเบรกที่ใช้งานได้ (งานนี้ฟิกเกียร์ ที่ไม่มีเบรกควรหาเบรกมาเพิ่มนะ)

ต้องมีโคมไฟหน้าติดหน้ารถ 1  ดวง และส่องสว่างในระยะ 15  เมตร และที่สำคัญติดตั้งในระดับต่ำกว่าตาผู้ขับขี่รถยนต์

และท้ายสุดต้องมีไฟท้ายแสงสีแดง  1 ดวง หรืออุปกรณ์สะท้อน ติดตั้งไว้ที่รถ

และในกรณีที่มีไฟหรือไฟท้าย ต้องเปิดไฟเพื่อให้รถหรือคนที่สวนมาในทาง เห็นผู้ขี่ชัดเจน ส่วนในกรณีที่คุณต้องผจญการขี่สองล้อในเมืองกรุง โดยเฉพาะเจอช่องทางรถประจำทาง ให้ขับขี่ชิดทางซ้ายหรือชิดช่องรถประจำทางมากที่สุด...

 

3. ข้อห้ามและพฤติกรรมที่ไม่ควรทำระหว่างขี่จักรยาน ตามกฎหมายได้ระบุไว้ชัดเจนดังนี้

(1) ขับโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียวอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือ ทรัพย์สิน

 (2) ขับโดยไม่จับคันบังคับรถ

 (3) ขับขนานกันเกินสองคัน เว้นแต่ขับในทางที่จัดไว้สำหรับรถจักรยาน

 (4) ขับโดยนั่งบนที่อื่นมิใช่อานที่จัดไว้เป็นที่นั่งตามปกติ

 (5) ขับโดยบรรทุกบุคคลอื่น เว้นแต่รถจักรยานสามล้อสำหรับบรรทุกคน ทั้งนี้ ตามเงื่อนไขที่เจ้าพนักงานจราจรกำหนด

 (6) บรรทุก หรือถือสิ่งของหรือของใด ๆ ในลักษณะที่เป็นการกีดขวาง การจับคันบังคับรถหรืออันอาจจะเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน

 (7) เกาะหรือพ่วงรถอื่นที่กำลังแล่นอยู่ (ห้ามดูด)

 

จะว่าไปเรื่องราวการขี่จักรยานบนถนน เราหลายคนอาจจะยังไม่ได้ตระหนักเท่าที่ควร และไม่เคยรู้มาก่อนว่า กฎหมายก็มี่ครอบคลุมอยู่ด้วย แต่ไม่ว่าอย่างไรในวันนี้เมื่อทราบแล้วก็จงเตรียมตัวเอาไว้ จะได้ไม่เป็นเหยื่อของคำว่าไม่รู้ กฎหมาย 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com