“ดูคาติ”แจงกรณีแดเวลสวิงอาร์มหัก-เหตุล้มกระแทกรุนแรง

  • โดย : Autodeft
  • 10 ก.ค. 57
  • 7,107 อ่าน

ดูคาติไทยแลนด์แจงกรณีลูกค้าบิ๊กไบค์รุ่นแดเวล ร้องเรียนว่าสวิงอาร์มของรถเกิดการหักจนทำให้เสียหลักล้มและได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นตรวจสอบแล้วไม่พบความผิดปกติของชิ้นส่วน คาดหลังเกิดเหตุรถลื่นไถลกระแทกกับเนินดินอย่างรุนแรง

 

ดูคาติไทยแลนด์แจงกรณีลูกค้าบิ๊กไบค์รุ่นแดเวล ร้องเรียนว่าสวิงอาร์มของรถเกิดการหักจนทำให้เสียหลักล้มและได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นตรวจสอบแล้วไม่พบความผิดปกติของชิ้นส่วน คาดหลังเกิดเหตุรถลื่นไถลกระแทกกับเนินดินอย่างรุนแรง ชี้ปัญหาจากถนนลื่นและยางหมดสภาพไม่พร้อมใช้งาน

 รายงานข่าวจาก บริษัท ดูคาทิสติ จำกัด หรือดูคาติไทยแลนด์ จากกรณีที่มีลูกค้าผู้ขับขี่รถดูคาติรุ่น แดเวล เอบีเอส แบล็ค (Diavel ABS Black) ได้ประสบอุบัติเหตุเสียหลักล้มที่ อ. เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 7 เมษายน ที่ผ่านมา โดยหลังจากการเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว ผู้ขับขี่ได้มีการร้องเรียนว่า สวิงอาร์มของรถเกิดการหักจนเป็นเหตุให้เสียหลักล้มและได้รับบาดเจ็บนั้น

 


       
 บริษัท ดูคาทิสติ จำกัด ในฐานะผู้จัดจำหน่ายดูคาติอย่างเป็นทางการ มีความเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ขับขี่ต้องมาประสบกับอุบัติเหตุดังกล่าว จึงได้ดำเนินการสืบหาข้อเท็จจริงต่อกรณีดังกล่าวอย่างเร่งด่วน โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อการตรวจสอบสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งต่อมาผู้ขับขี่ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับอุบัติเหตุในช่องทางออนไลน์ต่างๆ จึงมีประเด็นคำถามจากผู้สื่อข่าวสอบถามมายังทางดูคาติไทยแลนด์เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว

โดยบริษัทฯ ขอชี้แจงว่า จากการตรวจพิสูจน์ในเบื้องต้น บริษัทฯ พบว่า รถคันดังกล่าวมีรอยถลอกตลอดแนวรถด้านขวา สวิงอาร์มหักออกเป็นสองท่อน โดยมีเพียงฝาครอบสายเบรก ABS ยึดชิ้นส่วนสวิงอาร์มที่หักทั้งสองท่อนไว้ด้วยกัน และตรวจพบการแตกหักที่แผ่นยึดจานเบรกหน้าฝั่งขวา (ซึ่งต้องเกิดขึ้นจากแรงกระแทกโดยตรงต่อจานเบรกเท่านั้น) นอกจากนี้ ยังตรวจพบว่ายางหลังของรถคันดังกล่าว ได้หมดสภาพการใช้งานไปนานแล้ว โดยปรากฏให้เห็นผ้าใบยาง (carcass) อย่างชัดเจนในบริเวณส่วนกลางของยาง อย่างไรก็ดี หากสวิงอาร์มเกิดการหักในขณะที่รถกำลังวิ่งอยู่ ก็ควรที่จะมีรอยยางเสียดสีกับซุ้มบังโคลนหลัง แต่บริษัทฯ ไม่พบร่องรอยดังกล่าวแต่อย่างใด


       
 นอกจากนี้ จากการที่ได้ร่วมตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุกับพนักงานสืบสวนของสถานีตำรวจภูธรอำเภอเคียนซา และการสอบถามพยานผู้เห็นเหตุการณ์กับเจ้าหน้าที่กู้ภัยจากมูลนิธิกุศลศรัทธา ทำให้ทราบข้อเท็จจริงว่า บริเวณที่เกิดเหตุเป็นลานรับซื้อผลปาล์มน้ำมัน หรือ “ลานเท” (ตามชื่อที่คนในพื้นที่ใช้เรียกกัน) ทำให้มีคราบน้ำมันบนผิวถนน (เป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นหลายครั้งแล้วก่อนหน้านี้) ประกอบกับในวันเกิดเหตุ ฝนเพิ่งเริ่มหยุดตกหลังจากที่ฝนตกปรอยๆ ตลอดช่วงบ่าย ทำให้สภาพถนนในเวลาเกิดเหตุลื่นมากเป็นพิเศษ ทั้งนี้ เนื่องจากยางหลังของรถคันดังกล่าวหมดสภาพ จึงทำให้เกิดอาการลื่นไหลและเสียการทรงตัวอย่างรุนแรงเกินกว่ารถปกติทั่วไป และเป็นเหตุให้ผู้ขับขี่เสียหลักจนล้มลงในที่สุด

 ขณะเดียวกันพนักงานสืบสวนได้ทำการวัดระยะการลื่นไถลจากรอยบนผิวถนน โดยวัดได้ 70 เมตรจากจุดที่เสียหลักล้ม ก่อนที่รถจะลื่นไถลออกนอกถนนไปชนกับเนินดิน จนลอยข้ามคูน้ำ (ซึ่งมีความกว้าง 2 เมตร และลึก 1.5 เมตร) ไปตกในพงหญ้าห่างจากเนินดินดังกล่าวอีกกว่า 7 เมตร ดังนั้น หากพิจารณาจากรถรุ่น แดเวล เอบีเอส แบล็ค ที่มีน้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 300 กิโลกรัม การที่รถลอยไปตกในจุดที่ห่างออกไปกว่า 7 เมตร จึงแสดงให้เห็นถึงแรงกระแทกที่เกิดขึ้นกับตัวรถอย่างรุนแรง จนเป็นเหตุให้สวิงอาร์มหักได้


       
สำหรับกรณีที่ผู้ประสบอุบัติเหตุไปโพสต์ข้อความและรูปภาพเกี่ยวกับสวิงอาร์มหักบนสื่อออนไลน์ต่างๆ ทางดูคาติไทยแลนด์ได้มีการตรวจสอบเรื่องคุณภาพของชิ้นส่วนประกอบดังกล่าว โดยส่งชิ้นส่วนสวิงอาร์ม (ตามคำยินยอมของผู้ขับขี่) ไปยังศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC) ในสังกัดของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อตรวจพิสูจน์ความผิดปกติในเนื้อโลหะของสวิงอาร์มดังกล่าว อย่างไรก็ดี ภายหลังการตรวจด้วยเครื่องมือพิเศษด้วยวิธี Radioscopic Inspection ศูนย์เทคโนโลยีโลหะฯ ระบุว่า เนื้อโลหะไม่ได้มีความผิดปกติแต่อย่างใด และไม่พบรอยร้าวหรือโพรง (porosity) ในเนื้อโลหะที่อาจทำให้เกิดการแตกหักอันเนื่องมาจากความล้าของโลหะ (metal fatigue) ได้ ดังนั้น จึงสรุปได้ว่าการหักของสวิงอาร์มดังกล่าวต้องมาจากแรงกระแทกอย่างรุนแรง

 

  ทั้งนี้ จากข้อเท็จจริงที่ระบุมาทั้งหมดข้างต้น เป็นที่ประจักษ์ชัดเจนแล้วว่าสาเหตุของการล้มของผู้ขับขี่ มิได้มาจากความบกพร่องของผลิตภัณฑ์ดูคาติ หรือการหักของสวิงอาร์มตามที่ผู้ขับขี่เข้าใจแต่อย่างใด แต่อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นจากปัจจัยสำคัญ 3 ข้อ ได้แก่ 1.สภาพความพร้อมของยาง 2.ความเร็วในการขับขี่ และ 3.สภาพถนนในที่เกิดเหตุ
       
 

ที่มาข้อมูลและภาพ-บริษัท ดูคาทิสติ จำกัด

ทางเว็บไซค์ Autodeft.com ขอบคุณเนื้อหาจากผู้จัดการ Online - Motoring

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com

[GALLERY606]

5 เรื่องน่าสนใจ