FORD ทดสอบรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติในที่มืดสนิท ทำงานเหนือศักยภาพผู้ขับขี่ที่เป็นมนุษย์

  • โดย : Autodeft
  • 8 พ.ค. 59
  • 6,252 อ่าน

FORD ทดสอบรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ FORD Fusion Hybrid ในตอนกลางคืนที่มืดสนิท โดยเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาเซ็นเซอร์ LiDAR การทดสอบนี้ได้แสดงศักยภาพที่ล้ำหน้าของรถขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ทำได้เหนือกว่าผู้ขับขี่ที่เป็นมนุษย์

การทดลองนี้เป็นพัฒนาการขั้นสำคัญ เพื่อปฏิบัติภารกิจที่เสี่ยงอันตรายสำหรับผู้ขับขี่ที่เป็นมนุษย์การทดลองขับเคลื่อนรถยนต์ในสภาวะมืดสนิท ทั้งนี้ เซ็นเซอร์ LiDAR ซึ่งทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์จำลองการเป็นผู้ขับขี่เสมือนจริงมีความแม่นยำเพียงพอจนสามารถขับเคลื่อนรถยนต์ได้อย่างไร้ที่ติบนถนนคดเคี้ยว แม้ว่าจะไม่มีกล้องซึ่งต้องทำงานโดยอาศัยแสง ถึงแม้ว่าการทำงานที่ดีที่สุดคือการทำงานร่วมกันของโหมดเซ็นเซอร์ทั้ง 3  โหมด ได้แก่ เรดาร์ กล้องและเซ็นเซอร์ LiDAR แต่การทำงานเพียงเซ็นเซอร์ LiDAR อย่างเดียวก็สามารถทำงานได้อย่างอิสระบนถนนโดยไม่ต้องอาศัยแสงไฟ

Ford

ข้อมูลจากสำนักงานความปลอดภัยการจราจรทางหลวงแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (National Highway traffic Safety Administration) พบว่าอัตราการเสียชีวิตของผู้ขับขี่รถยนต์ในช่วงเวลากลางคืนสูงกว่าอัตราในช่วงเวลากลางวันประมาณ 3 เท่า

“การใช้เซ็นเซอร์ LiDAR รถยนต์ที่ใช้ในการทดสอบจึงไม่ต้องพึ่งพาแสงอาทิตย์หรือแม้กระทั่งกล้องเพื่อตรวจจับเส้นถนนสีขาวอีกต่อไป นอกจากนี้ เซ็นเซอร์ LiDAR ช่วยให้รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติสามารถขับเคลื่อนในเวลากลางคืนได้ดีเท่าในเวลากลางวัน” จิม แมคไบรด์ หัวหน้าเทคนิคฝ่ายรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติกล่าว

Ford

ในการขับเคลื่อนท่ามกลางความมืด รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติใช้แผนที่สามมิติความละเอียดสูง ที่มาพร้อมข้อมูลเกี่ยวกับถนนอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น เส้นจราจร สภาพภูมิศาสตร์ การทำแผนที่และสถานที่สำคัญต่างๆ เช่น ป้ายบอกทาง อาคารและต้นไม้ รถยนต์จะใช้คลื่นจากเซ็นเซอร์ LiDAR ในการระบุตำแหน่งของมันเองลงบนแผนที่แบบเรียลไทม์ จากนั้นจึงรวมข้อมูลที่ได้เข้ากับข้อมูลจากเรดาร์ เพื่อทำให้สมรรถนะการตรวจจับของรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติสมบูรณ์

การทดสอบการขับเคลื่อนในทะเลทรายตอนกลางคืนนี้ ทีมวิศวกรฟอร์ดได้สวมใส่แว่นตาสำหรับกลางคืนและคอยเฝ้าดูรถยนต์ฟอร์ด ฟิวชั่นจากทั้งภายนอกและภายในตัวรถ แว่นตานี้ช่วยให้พวกเขาสามารถมองเห็นการทำงานของเซ็นเซอร์ LiDAR ในรูปแบบตารางแสงเลเซอร์อินฟาเรดที่ปล่อยออกมารอบๆ ตัวรถขณะรถเคลื่อนที่ผ่าน เซ็นเซอร์ LiDAR จะปล่อยคลื่นเลเซอร์จำนวน 2.8 ล้านจุดต่อ 1 วินาที เพื่อให้สามารถสแกนสภาพแวดล้อมได้อย่างแม่นยำ

Ford

“เมื่อนั่งอยู่ในรถยนต์ ผมรู้สึกได้ว่ารถกำลังเคลื่อนที่ แต่เมื่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ผมเห็นแต่ความมืดมิด” เวน วิลเลียมส์ นักค้นคว้าวิจัยวิทยาศาสตร์และวิศวกรบรรยาย “ขณะที่ผมนั่งอยู่ที่เบาะหลัง ผมได้ติดตามขั้นตอนการขับเคลื่อนของรถแบบเรียลไทม์โดยใช้คอมพิวเตอร์ในการมอนิเตอร์ แน่นอนว่า รถยนต์สามารถขับเคลื่อนได้อย่างแม่นยำแม้ถนนมีความคดเคี้ยว”

หลังการทำการค้นคว้าด้านรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติมากว่าทศวรรษ FORDได้มุ่งมั่นที่จะพัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติให้มีสมรรถนะสูงแบบโดยไม่จำเป็นต้องอาศัยการควบคุมจากผู้ขับขี่ ให้ได้ตามมาตรฐานระดับ 4 ที่กำหนดโดยสมาคมวิศวกรรมยานยนต์นานาชาติ หรือ SAE International Level 4

Ford

ในปีนี้ FORD จะเพิ่มจำนวนรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติสำหรับการทดสอบถึงสามเท่า โดยจะนำ FORD Fusion Hybrid ขับเคลื่อนอัตโนมัติ จำนวน 30  คันมาขับทดสอบบนถนนในรัฐแคลิฟอร์เนีย แอริโซนาและมิชิแกน การพัฒนานี้เป็นหนึ่งในแผนการสัญจรอัจฉริยะของ FORD ซึ่งเป็นแผนในการพัฒนาการเชื่อมต่อสื่อสาร การสัญจร รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ การยกระดับประสบการณ์ลูกค้า รวมถึงการบริหารจัดการและวิเคราะห์ฐานข้อมูลขึ้นไปอีกระดับ

 

ที่มาวีดีโอ Youtube : Ford Media

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com 

5 เรื่องน่าสนใจ