Ford เปลี่ยนทิศหันธุรกิจ.....เน้นกระบะกับอเนกประสงค์

ทุกวันนี้ ตลาดรถยนต์มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับสภาพปัจจัยหลายๆอย่างที่เกิดขึ้นในประเทศนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็น สังคม เศรษฐกิจ การเมือง ฯลฯ

ล่าสุด ค่ายรถยักษ์ใหญ่จากแดนมะกันอย่าง Ford เตรียมที่จะปรับธุรกิจของตนให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อความอยู่รอดของธุรกิจและสร้างกำไรมหาศาล ด้วยการมุ่งเน้นแต่ตลาดรถกระบะ Pickups และ รถอเนกประสงค์ SUV โดย Mark Fields ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Ford Motor Company เป็นคนกล่าวเอง

เนื่องด้วยความต้องการของลูกค้าชาวมะกันที่มีต่อรถยนต์นั่งขนาดเล็ก กำลังจะเปลี่ยนภายในปีสองปีข้างหน้า โดย Ford เองได้คาดคะเนสถานการณ์เพื่อตอบโจทย์ตรงใจลูกค้า เท่าที่จะทำได้ และกลุ่มรถกระบะ กับ อเนกประสงค์ถือว่า เป็นตลาดที่ไปได้สวยในช่วงเวลานี้

และเพื่อรองรับ ความต้องการลูกค้าที่หันมาคบกลุ่มรถประเภทนี้มากขึ้น ทาง Ford ตัดสินใจปิดโรงงงานประกอบรถยนต์นั่งที่รัฐ Michigan ก่อนปี 2018 แต่มีแหล่งข่าวแจ้งมาว่าโรงงานแห่งนี้ จะไม่ถูกปิดแต่ปรับไลน์เพื่อมาประกอบ กระบะ Ranger รุ่นใหม่ และ Bronco SUV เจนใหม่

ปัจจุบัน ยอดขายรถในแดนมะกันนั้นทำได้ร้อยละ 28 ของยอดขายรถทุกแบรนด์ โดยลดลงร้อยละ 37 เมื่อเทียบกับ ปี 2006 นอกจากนี้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ยังกล่าวเพิ่มว่า ถึงแม้ว่าเราจะหันมาเน้นแต่ตลาดรถกระบะกับ อเนกประสงค์ แต่ด้านรถยนต์นั่งเราจะไม่ทิ้งถาวรเพียงแต่ ลดปริมาณการผลิต การจำหน่าย ให้ความต้องการของลูกค้ามากที่สุด

จับตามอง การเปลี่ยนทิศธุรกิจของค่ายรถวงรีสีน้ำเงินจะสำเร็จตามสมประสงค์ หรือแผนนี้อาจนำมาใช้กับธุรกิจของ Ford ทั่วโลกหรือไม่นั้น ต้องติดตาม

 

ที่มา Carscoops

 

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com