Mercedes-Benz E-Class All-Terrain แวก้อนยกสูง…….ดีหรู เด่นลุยในคันเดียว

  • โดย : Autodeft
  • 22 ก.ย. 59
  • 7,766 อ่าน

นับเป็นครั้งแรกสำหรับ Mercedes-Benz E-Class ที่เพิ่มทางเลือกใหม่ สำหรับสาวกที่ชอบความแปลกไม่เหมือนใคร และเบื่อควมจำเจเดิมๆ ด้วยการแนะนำ Mercedes-Benz E-Class All-Terrain รถแวก้อนรุ่นล่า จากค่ายดาวสามแฉก

Mercedes-Benz E-Class All-Terrain

ครั้งนี้มาในรหัสตัวถังชื่อ X213 เป็นการนำรุ่น Estate มาดัดแปลง ขัดเกลาให้กลายเป็นรถ Crossover หรู พร้อมชุดแต่งรอบคันกับราวหลังคา และที่สำคัญตัวรถยกสูงขึ้นกว่าปกติ เหมาะสำหรับการลุยบนเส้นทางที่ไม่ราบเรียบ พร้อมล้อล้ออัลลอยขนาด 19 ถึง 20 นิ้ว ลายพิเศษ เพื่อรุ่นนี้โดยเฉพาะ

 

Mercedes-Benz E-Class All-Terrain

ภายในหรูด้วยการตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพ aluminium-carbon พร้อมฝาครอบบันไดสแตนเลส พร้อมแผ่นพรมปูพื้นปะโลโก้ All-Terrain และที่ขาดไม่ได้นั่นคือ โทนการตกแต่งที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับ แต่ละรุ่นแต่ละสเปคที่จำหน่าย ตั้งแต่รุ่น Avantgarde กับ Exclusive

ขุมพลังเอาใจคนชอบลุย แต่ที่จะเป็นไฮไลต์เด็ดคงหนีไม่พ้น  ตั้งแต่ เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 194 แรงม้า ที่3,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวัตนแมตร ที่ 1,600-2,800 รอบ/นาที ในรุ่น E220 d พร้อมให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 8 วินาที และ Top Speed สูงสุด 232 กม./ชม.มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด 9G-TRONIC

Mercedes-Benz E-Class All-Terrain

ส่วนขุมพลังอื่นๆทั้ง อาจมีแนวโน้มที่จะเพิ่มทางเลือกอีกครั้งเร็วๆนี้ ตั้งแต่ เครื่องยนต์ ดีเซล 2.0 ลิตร 150 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 360 นิวัตนแมตร ที่ 1,600-2,800 รอบ/นาที ในรุ่น E200 d กับเครื่องดีเซลใหญ่สุด 3.0 ลิตร V6 258 แรงม้า 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 620 นิวัตนแมตร ที่ 1,600-2,400 รอบ/นาที ในรุ่น E350 d ทุกรุ่นติดตั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ 4MATIC ติดตั้ง ระบบ Dynamic Select สามารถปรับรูปแบบการขับขี่ ตามสภาพถนนที่ต่างกัน ได้ถึง 5 รูปแบบ และปิดท้ายด้วย ช่วงล่างแบบ Air Suspension ที่สามารถปรับความสูงของรถขึ้นไปจากเดิม 20-35 มม.และยังทำความเร็วได้ถึง 35 กม./ชม.

Mercedes-Benz E-Class All-Terrain

Mercedes-Benz E-Class All-Terrain

และงานนี้ตั้งใจมาถล่มคู่ปรับตัวฉกาจอย่าง Volvo V90 Cross Country และคู่แข่งดั้งเดิม อย่าง Audi A6 Allroad  ให้สิ้นไปจากสารระบบ และเผยตัวจริงที่งาน Paris Motor Show 2016 ระหว่างวันที่ 1-16 ตุลาคมนี้ (รอบสื่อมวลชน 29-30 กันยายน)   และจะเผยราคาตั้งแต่ช่วงต้นปีหน้านี้

 

 

ที่มา Paultan

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com 

 

5 เรื่องน่าสนใจ