Toyota – Mazda ลงนามเป็นพันธมิตรระยะยาวแลกเทคโนโลยี

จับมือเรียบร้อยสองค่ายยานยนต์ชั้นนำ Toyota- Mazda ยืนยันกอดคอจูงมือสร้างรถยนต์ที่ดีกว่าในอนาคต ด้วยการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีระหว่างกัน

 

 

หลังจากตกเป็นข่าวเมื่อช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาว่า สองค่ายรถยนต์จากญี่ปุ่นมีความตกลงกันว่า อาจจะจับมือเป็นพันธมิตรกันในด้านของการช่วยกันพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ในรถยนต์ของบริษัท ซึ่งจะนำมาสู่การปลกเปลี่ยนเทคโนดลยีบางอย่างด้วย

ล่าสุด   Toyota   ได้บรรลุข้อตกลงกับ   Mazda   เรียบร้อย โดยทั้งสองบริษัท เพิ่งจะลงนามสัญญาตกลงความร่วมมือในการเป็นพันธมิตรระยะยาว ซึ่งในข้อตกลงดังกล่าว ทั้งสองบริษัทจะจับเอาจุดแข็งของตัวเองมาแลกเปลี่ยนระหว่างกัน และขยายวงกว้างสู่การพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ของทั้งสองบริษัท ในหลายๆ ด้านไม่ว่าจะการรักษาสิ่งแวดล้อมและ ระบบมาตรฐานความปลอดภัยขั้นสูง ซึ่งช่วยให้รถมีความลงตัวในการขับขี่มากขึ้นกว่าเดิม

[IMAGE1]

ทั้งนี้ตามรายงานที่มีออกมาก่อนหน้านี้ เผยว่า Mazda  จะได้รับเทคโนโลยี  Fuel Cell  ตลอดจนเทคโนลยีไฮบริดเสียบปลั้กมาสู่อ้อมอก เพื่อแลกเปลี่ยนกับการให้เครื่องยนต์   Mazda Sky Activ technology   ในส่วนของเครื่องยนต์ไม่ว่าจะทั้งเครื่องยนต์เบนซิน หรือเครื่องยนต์ดีเซล มาตอบโจทย์ความต้องของค่ายยักษ์ใหญ่

โดยในระว่างการลงนามดังกล่าว แถลงการณ์จากทั้งสองบริษัทได้เปิดเผยว่า   การนำทรัพยากรของทั้งสองบริษัทมาใช้ร่วมกันจะช่วยในการสร้างความพึงพอใจต่อลูกค้า ช่วยให้ตรงความต้องการของลูกค้าทั่วโลก

[IMAGE2]

[IMAGE3]

ทางด้าน นาย อากิโอะ โตโยด้า   CEO   ของบริษัท  Toyota Motor Cooperation   กล่าวเปิดเผยว่า ด้วยการเทคโนดลยี  Mazda Sky Activ   และ   Kodo   ดีไซน์ ได้พิสูจน์วิสัยทัศน์ของค่ายรถยนต์  Mazda ต่อรถยนต์ในรุ่นต่อไป ในขณะที่พวกเขาก็ยังไม่ลืมจิตวิญญาณที่แท้จริงของความเป็นรถยนต์

[IMAGE4]

ด้วยทางนี้  Mazda   มีความเหมือนกับเรา  Toyota   ในการสร้างสรรค์รถยนต์ที่ดีกว่า อย่างต่อเนื่อง ผมปลื้มใจที่เรามีวิสัยทัศน์ร่วมกัน ในการทำรถยนต์ที่ดีกว่าเดิม

ด้านนาย มาซามิชิ โคไก   CEO   และประธานของ   Mazda   กล่าวเปิดเผยว่า  Toyota   เป็นบริษัทแรกที่ทำให้เรารู้สึกถึงการรับผิดชอบต่อการรักษาสิ่งแวดล้อม รวมถึงการผลิตรถยนต์ในอนาคตต่อไป Toyota   ได้ทุ่มเทตัวเองในการพยายามสร้างรถยนต์ที่ดียิ่งขึ้น ด้วยการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งภายใต้รากฐานความคิดเดียวกัน เรามีความต้องการในการสร้างรถยนต์ที่ดีกว่าในวันข้างหน้า เราสามารถเพิ่มมูลค่าของรถยนต์ในอนาคตในสายตาของผู้บริโภคได้

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com