Toyota ปรับประมาณการตลาดรถยนต์คาดยอดขายรวมอยู่ที่ 740,000 คัน ในปี 2559 ยืนยันไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตที่สำคัญในภูมิภาค

  • โดย : Autodeft
  • 26 ก.ค. 59
  • 9,297 อ่าน

มร.เคียวอิจิ ทานาดะ เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แถลงสถิติการจำหน่ายรถยนต์ครึ่งแรกของปี 2559 พร้อมปรับประมาณการตลาดรถยนต์ไทยปี 2559

Toyota

โดย มร.ทานาดะ กล่าวว่า “สืบเนื่องมาจากเศรษฐกิจในประเทศไทยยังคงอยู่ในสภาวะชะลอตัวประกอบกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ทำให้ตลาดรถยนต์ในครึ่งปีแรกของปี 2559 มียอดขายรวมประมาณ 367,481 คัน ลดลง 0.4 %

ทดสอบรถยนต์   Toyota Vios 2016 - Bonn Autodeft

สถิติการขายรถยนต์ ครึ่งแรกของปี 2559

 

ปริมาณการขาย (คัน)

เปลี่ยนแปลง

เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2558

ปริมาณการขายรวม

367,481

-0.4%

รถยนต์นั่ง

128,310

-12.6%

รถเพื่อการพาณิชย์

239,171

+7.6%

รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง)

192,558

+12.2%

รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง)

160,419

 

+2.7%

 

โดย Toyota มียอดขาย 109,078 คัน ลดลง 11.4 % แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 35,700 คัน ลดลง 33.0 %รถเพื่อการพาณิชย์ 73,378 คัน เพิ่มขึ้น 5.1 % และรถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่ง ของยอดขายรถเพื่อการพาณิชย์ 69,678 คัน เพิ่มขึ้น 8.1 % (รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง 54,864 คัน ลดลง7.6% )ทั้งนี้ขอขอบคุณภาครัฐที่ได้มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจนทำให้ตลาดรถยนต์ครึ่งปีแรกสามารถอยู่ในระดับเดียวกับปีที่แล้ว

สำหรับการส่งออกในครึ่งปีแรก โตโยต้าได้ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปจำนวน 166,299 คัน คิดเป็นมูลค่า 96,953 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น 26 % และมีการส่งออกชิ้นส่วน มูลค่า 31,335 ล้านบาท รวมเป็นมูลค่าการส่งออกที่ 128,288 ล้านบาท”

สำหรับแนวโน้มตลาดรถยนต์ของปี 2559 มร.ทานาดะ คาดการณ์ว่า “ถึงแม้ว่าครึ่งปีหลังจะมีแรงบวกจากนโยบายของภาครัฐ การท่องเที่ยว ภาคบริการ และการลงทุนจากภาคเอกชน รวมถึงการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่จากหลายค่ายรถยนต์ จะเริ่มส่งผลดีต่อภาพรวมของเศรษฐกิจและตลาดรถยนต์ หากแต่เศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัวต่อเนื่องมาอย่างช้านาน รวมถึงกำลังซื้อที่จำกัด และความไม่แน่นอนจากเศรษฐกิจโลก ยังคงต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นตัว ดังนั้นแนวโน้มของตลาดรถยนต์ในประเทศปีนี้จะมียอดขายรวมทั้งหมดอยู่ที่ 740,000 คัน

Toyota

ประมาณการยอดขายรถยนต์ในประเทศ ปี 2559

 

ปริมาณการขาย (คัน)

ปริมาณการขายรวม

740,000 คัน  ลดลง 7.5%

รถยนต์นั่ง

271,000 คัน  ลดลง 9.5%

รถเพื่อการพาณิชย์

469,000 คัน  ลดลง  6.3%

รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง)

379,000 คัน  ลดลง 4.5%

รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง)

318,000 คัน  ลดลง 3.0%

Toyota ยังคงเป้าหมายการขายสำหรับตลาดรถยนต์ในประเทศปีนี้ไว้ที่ 240,000 คัน แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 85,000 คัน รถเพื่อการพาณิชย์ 155,000 คัน และ รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยอดขายรถเพื่อการพาณิชย์ 145,400 คัน (รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง) 117,000 คัน) และได้ปรับเป้าหมายการส่งออกไว้ที่ 312,000 คัน ลดลง 17 % เนื่องจาก ผลกระทบของตลาดในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง”

มร.ทานาดะ กล่าวเพิ่มเติมว่า “แน่นอนว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยยังคงต้องการการสนับสนุนจากภาครัฐ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ทั้งตลาดในประเทศและการส่งออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถยนต์พลังงานทางเลือกและเทคโนโลยีขั้นสูงที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้นในสังคมยานยนต์แห่งอนาคต Toyota พร้อมที่จะพัฒนาและต่อยอดเทคโนโลยี อันจะนำไปสู่ผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ”และ“ผมขอยืนยันว่า ประเทศไทยยังเป็นศูนย์กลางการผลิตที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่ง และเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนตลาดของภูมิภาคนี้

นอกจากนี้ Toyota ยังคงมุ่งมั่นที่จะยกระดับขีดความสามารถของคนไทยที่มีต่อการผลิตให้เป็นที่ยอมรับ และได้รับความเชื่อถือในระดับสากลทั้งในด้านการวิจัยและพัฒนา ที่ปัจจุบันคนไทยเข้ามาเป็นหลักในการร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ในภูมิภาคนี้มากขึ้น รวมถึงการสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านวิศวกรรมการผลิต เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของภูมิภาคนี้ ทั้งนี้ เรายังคงมุ่งเน้นการส่งเสริมการเพิ่มใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศมากขึ้น ด้วยการพัฒนาผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศไทย ตลอดจนการถ่ายทอดนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านการผลิตระดับสูง เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย

Toyota

อีกทั้ง ในปีนี้บริษัท สยามโตโยต้าแมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด หรือ STM ซึ่งเป็นฐานการผลิตเครื่องยนต์หลักในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ได้ทำการผลิตเครื่องยนต์ครบ 10 ล้านเครื่อง ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเครื่องยนต์ลำดับสองต่อจากโรงงานในรัฐเคนทักกี ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ผลิตครบ 10 ล้านเครื่อง นับเป็นการยืนยันถึงความสำคัญของประเทศไทย ในการเป็นฐานการผลิตหลักของโตโยต้าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอีกด้วย”

             Toyota Fortuner TRD Sportivo  

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เดือนมิถุนายน 2559

ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 64,900 คัน เพิ่มขึ้น 7.6 %

อันดับที่ 1 โตโยต้า                 21,363 คัน

ลดลง 2.1%

ส่วนแบ่งตลาด 32.9%

อันดับที่ 2 อีซูซุ        11,173 คัน

เพิ่มขึ้น 3.1%

ส่วนแบ่งตลาด 17.2%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า 10,003 คัน

เพิ่มขึ้น 26.3 %

ส่วนแบ่งตลาด 15.4%

 

ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 24,600 คัน เพิ่มขึ้น 15.6 %

อันดับที่ 1 โตโยต้า 7,851 คัน

เพิ่มขึ้น 5.1%         

ส่วนแบ่งตลาด 31.9%

อันดับที่ 2 ฮอนด้า 7,436 คัน

เพิ่มขึ้น 48.2%

ส่วนแบ่งตลาด 30.2%

อันดับที่ 3 มาสด้า 2,055 คัน

ลดลง 0.7%

ส่วนแบ่งตลาด 8.4%

 

ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 32,068 คัน เพิ่มขึ้น 5.9 %

อันดับที่ 1 โตโยต้า                 12,844 คัน

ลดลง 4.5%           

ส่วนแบ่งตลาด 40.1%

อันดับที่ 2 อีซูซุ        10,004 คัน

เพิ่มขึ้น 2.5%

ส่วนแบ่งตลาด 31.2%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด     3,307 คัน

เพิ่มขึ้น 92.3%

ส่วนแบ่งตลาด  10.3%

 

ปริมาณการขายกระบะดัดแปลง PPV ในตลาดกระบะ 1 ตัน 4,968 คัน :

- โตโยต้า 2,216 คัน - ฟอร์ด 914 คัน - มิตซูบิชิ 882 คัน -อีซูซุ 855 คัน - เชฟโรเลต 101 คัน

ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 27,100 คัน ลดลง 3.0 %

อันดับที่ 1 โตโยต้า                 10,628 คัน

ลดลง 17.1%        

ส่วนแบ่งตลาด 39.2%

อันดับที่ 2 อีซูซุ        9,149 คัน

เพิ่มขึ้น 3.6%

ส่วนแบ่งตลาด 33.8%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด     2,393 คัน

เพิ่มขึ้น 39.1%

ส่วนแบ่งตลาด  8.9%

 

ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 40,300 คัน เพิ่มขึ้น 3.2 %

อันดับที่ 1 โตโยต้า                 13,512 คัน

ลดลง 5.9%           

ส่วนแบ่งตลาด 33.5%

อันดับที่ 2 อีซูซุ        11,173 คัน

เพิ่มขึ้น 3.1%

ส่วนแบ่งตลาด 27.7%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด     3,575 คัน

เพิ่มขึ้น 80.4%

ส่วนแบ่งตลาด  8.9%

 

 

ทดสอบรถอเนกประสงค์  Toyota Fortuner

 

สถิติการจำหน่ายรถยนต์เดือนมกราคม-มิถุนายน 2559

 

 

ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 367,481 คัน ลดลง 0.4%

อันดับที่ 1 โตโยต้า                 109,078 คัน

ลดลง 11.4%

ส่วนแบ่งตลาด 29.7%

อันดับที่ 2 อีซูซุ        72,292 คัน

เพิ่มขึ้น 4.3%

ส่วนแบ่งตลาด 19.7%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า 53,952 คัน

ลดลง 1.5%

ส่วนแบ่งตลาด 14.7%

 

ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 128,310 คัน ลดลง 12.6%

อันดับที่ 1 ฮอนด้า 38,705 คัน

ลดลง 0.2%           

ส่วนแบ่งตลาด 30.2%

อันดับที่ 2 โตโยต้า                 35,700 คัน

ลดลง 33.0%

ส่วนแบ่งตลาด 27.8%

อันดับที่ 3 มาสด้า 13,500 คัน

เพิ่มขึ้น 22.9%

ส่วนแบ่งตลาด  10.5%

 

ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 192,558 คัน เพิ่มขึ้น 12.2 %

อันดับที่ 1 โตโยต้า 69,678 คัน

เพิ่มขึ้น 8.1%         

ส่วนแบ่งตลาด 36.2%

อันดับที่ 2 อีซูซุ        65,773 คัน

เพิ่มขึ้น 4.1%

ส่วนแบ่งตลาด 34.2%

อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 20,613 คัน

เพิ่มขึ้น 11.7%

ส่วนแบ่งตลาด  10.7%

 

ปริมาณการขายกระบะดัดแปลงในตลาดกระบะ 1 ตัน 32,139 คัน :

- โตโยต้า 14,814 คัน - มิตซูบิชิ 9,865 คัน -อีซูซุ 3,827 คัน - ฟอร์ด 3,111 คัน - เชฟโรเลต 522 คัน

ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 160,419 คัน เพิ่มขึ้น 2.7 %

อันดับที่ 1 อีซูซุ  61,946 คัน

เพิ่มขึ้น 8.7%         

ส่วนแบ่งตลาด 38.6%

อันดับที่ 2 โตโยต้า                 54,864 คัน

ลดลง 7.6%

ส่วนแบ่งตลาด 34.2%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด     13,410 คัน

เพิ่มขึ้น 31.4%      

ส่วนแบ่งตลาด  8.4%

 

ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 239,171 คัน เพิ่มขึ้น 7.6 %

อันดับที่ 1 โตโยต้า 73,378 คัน

เพิ่มขึ้น 5.1%         

ส่วนแบ่งตลาด 30.7%

อันดับที่ 2 อีซูซุ        72,292 คัน

เพิ่มขึ้น 4.3%

ส่วนแบ่งตลาด 30.2%

อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ  20,613 คัน

เพิ่มขึ้น 30.3%

ส่วนแบ่งตลาด  8.6%

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com 

 

5 เรื่องน่าสนใจ