Volvo Trucks แนะนำผู้นำคนใหม่ พาองค์กรสร้างความเข้มแข็งในเครือข่าย AEC

  • โดย : Autodeft
  • 12 มิ.ย. 59
  • 7,850 อ่าน

ประธานกรรมการคนไทยคนแรกของ บริษัท วอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศนำพาองค์กรพัฒนาความเข้มแข็งให้กับเครือข่ายในกลุ่มประเทศ AEC เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ Volvo Group ให้เป็นผู้นำในตลาดในแต่ละประเทศ

Volvo Trucks

นายกำลาภ ศิริกิตติวัฒน์ ประธานกรรมการ บริษัท วอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าภายหลังได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดในองค์กรแล้ว ตนในฐานะผู้นำองค์กรจะนำความเข้มแข็งขององค์กรมาพัฒนาต่อยอดให้เกิดความเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนในภูมิภาค โดย Volvo Group ประเทศไทย นอกจากรับผิดชอบตลาดประเทศไทยแล้ว ยังรับผิดชอบตลาดเมียนมาร์ สปป. ลาว กัมพูชา, เวียดนามและฟิลิปปินส์ โดยที่ตลาดประเทศไทยถือเป็นตลาดที่มีความสำคัญอย่างมาก และยังเป็นฐานการผลิต UD Trucks จำหน่ายในประเทศไทยและส่งออกไปทั่วโลก

แนวโน้มตลาดที่มีอัตราการเจริญเติบโตสูง ยังคงเป็นตลาดในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น เมียนมาร์ สปป. ลาว กัมพูชา เวียดนามและฟิลิปปินส์ ซึ่งมีอัตราการเจริญเติบโตประมาณ 6-8% ต่อปี สำหรับประเทศไทย โดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (NESDB) คาดว่า GDP ของประเทศในปีนี้จะเติบโตอยู่ที่ 3 – 3.5% หรืออยุ่ในระดับที่คงที่ เมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่มี GDP อยู่ที่ 3 % ซึ่งหากการลงทุนต่างๆของทางภาครัฐบาลชัดเจนมากขึ้นในครึ่งปีหลัง อัตราการเติบโตก็น่าจะเพิ่มขึ้นตามมา ซึ่งรวมถึงตลาดรถบรรทุกด้วยเช่นกัน

ในปี 2558 Volvo Group ในประเทศไทย มียอดขายทั้งสิ้น 1,016 คัน โดยแบ่งเป็น Volvo Trucks 504 คัน เติบโตลดลง 11%  คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดค่ายยุโรปประมาณ 70% ส่วน UD Trucks มียอดขายทั้งสิ้น  512  คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 112% คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดค่ายญี่ปุ่นประมาณ 3% ภาพรวมของทั้งกรุ๊ป สามารถทำยอดขายได้เพิ่มขึ้นถึง 26% ในขณะที่ตลาดรวมรถบรรทุกขนาดใหญ่ทั้งตลาดตกลง 20% เนื่องจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ การตกต่ำในภาคการส่งออก และการชะลอในการลงทุนงานก่อสร้างของโครงสร้างพื้นฐานจากภาครัฐบาล

นายกำลาภย้ำว่าประเทศไทยยังคงมีบทบาทสูงในภูมิภาค โดยเฉพาะภายหลังการเข้าร่วมประชาคมประชาชาติเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC ซึ่งประเทศไทยจะเป็นฐานสำคัญสำหรับภาคการขนส่งระหว่างประเทศ ทั้งนี้เพราะทำเลที่ตั้งของประเทศไทย สามารถเชื่อมต่อไปยังประเทศต่าง ๆ ได้หลายประเทศเช่นสิงคโปร์ มาเลเซีย เมียนมาร์ จีน สปป. ลาว เวียดนาม เป็นต้น และได้เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการเข้าสู่ตลาด AEC โดยได้ใช้เงินลงทุนมากกว่า 5,000 ล้านบาท โดยโครงการลงทุนเสร็จสมบูรณ์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 หรือ 1 ปีล่วงหน้าก่อนที่ตลาด AEC จะเริ่มต้น โดย 5,000 ล้านบาทดังกล่าว แบ่งการลงทุนเป็น 2,000 ล้านบาท

สำหรับการขยายศูนย์บริการในประเทศไทยเพิ่มเติมจาก 4 สาขามาเป็น 15 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งถือเป็นบริษัทค่ายรถบรรทุกยุโรปที่มีศูนย์บริการภายในประเทศไทยมากที่สุด 2,000 ล้านบาทสำหรับการลงทุนสายการประกอบรถ UD Trucks ซึ่งมีกำลังการผลิต 20,000 คันต่อปี และอีก 1,000 ล้านบาทในการก่อสร้างสำนักงานใหญ่แห่งใหม่บนถนนบางนา-ตราด กม. 21

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com 

 

5 เรื่องน่าสนใจ