11 ค่ายรถยนต์กับความพร้อมของรถยนต์พลังงานไฮโดรเจน

  • โดย : พิสน ลีละหุต
  • 7 ก.พ. 60
  • 8,098 อ่าน

หลายคนยังมองว่ารถยนต์แห่งอนาคตคือรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกมุมโลก แต่ด้วยข้อจำกัดเรื่องการชาร์จไฟที่ต้องใช้เวลานานกว่าการเติมน้ำมันเป็นอย่างมาก จึงมีการหาทางแก้ปัญหาตัวนี้ด้วยการเริ่มหันมาพัฒนารถยนต์ที่ใช้พลังงานแบบใหม่คือแบบไฮโดรเจน หรือ Fuel Cell ที่ใช้เวลาในการเพิ่มพลังงานไม่ต่างกับการเติมน้ำมันซักเท่าไหร่ วันนี้เรามาสำรวจดูรถยนต์ 11 ค่ายว่ามีคันไหนบ้างที่กำลัง

Honda Clarity

1. Honda Clarity

Honda Clarity เป็นรถยนต์ของค่ายจากแดนปลาดิบที่ใช้เวลาในการเติมพลังงานไฮโดรเจน 3-5 นาที สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุด 589 กิโลเมตร เบื้องต้นทาง Honda เปิดให้เช่าเดือนละ 369 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 12,900 บาท รวม 36 งวด และเงินค่าทำสัญญา 2,868 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 100,000 บาท

GM

2. GM

General Motors ค่ายยักษ์ใหญ่เมืองลุงแซม เผยข้อมูลว่ากำลังทำการพัฒนารถยนต์พลังงานไฮโดรเจนอยู่ แต่เป็นการพัฒนาเพื่อส่งให้ทางกองทัพสหรัฐฯก่อน เป็นรถกระบะที่สูงกว่า 6.5 ฟุต กว้าง 7 ฟุต ยางขนาด 37 นิ้ว ทำการทดสอบในสภาพอากาศในรูปแบบต่างๆกว่า 5,000,000 กิโลเมตร ก่อนจะส่งมอบให้ทางกองทัพช่วงเดือนตุลาคมปีนี้

Toyota Mirai

3. Toyota Mirai

การวิจัยและพัฒนากว่า 23 ปี จนได้มาเป็นรถยนต์ Fuel Cell คันแรกของ Toyota อย่าง Mirai เริ่มวางจำหน่ายมาแล้วตั้งแต่ธันวาคม 2014 ที่ญี่ปุ่น และเริ่มลงตลาดที่แคลิฟอร์เนียเมื่อตุลาคม 2015 สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุด 500 กม.ในการชาร์จ 1 ครั้ง มาพร้อมระบบเรดาร์และกล้อง จับการวิ่งของรถและคอยเตือนเมื่อเราวิ่งออกนอกเลน รวมทั้งระบบเบรกอัตโนมัติป้องกันการชน หน้าจอแบบ Touchscreen 2 จอเพื่อควบคุมระบบ Infotainment และ ระบบควบคุมอุณหภูมิ

Lexus

4. Lexus

Lexus วางแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฮโดรเจนในปี 2020 แต่ยังไม่มีการเปิดเผยถึงสเปกใดๆออกมา แต่คาดว่าจะมีเทคโนโลยีใหม่ที่สุดอัดแน่นไว้ในรถ รวมทั้งระบบควบคุมการทำงานในรถด้วยการโบกมือ

Audi H-tron Quattro

5. Audi H-tron Quattro

เปิดตัวโฉมจริงไปแล้วที่งาน Detroit Auto Show กับ Audi H-tron Quattro รถยนต์พลังงานไฮโดรเจนคันแรกของค่าย ที่สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุดร่วม 600 กิโลเมตร ทำอัตราเร่ง 0-100 ได้ต่ำกว่า 7.1 วินาที มาพร้อมกับแผงคอนโซลในรถแบบใหม่ที่เรียกว่า virtual cockpit ที่จะมาแบบดิจิตอลทั้งหมด มีระบบช่วยขับที่ช่วยสำรวจสิ่งกีดขวางรอบรถ ทำให้การเปลี่ยนเลนทำได้ง่ายและปลอดภัยมากขึ้น

BMW

6. BMW

โครงการรถยนต์ Fuel Cell ของทาง BMW มีแผนที่จะเริ่มผลิตลงตลาดกันอย่างเป็นทางการช่วงปี 2020 ด้วยการร่วมมือกับทาง Toyota สามารถทำระยะทางได้ไกลสูงสุด 483 กิโลเมตรในการเติมพลังงาน 1 ครั้ง และใช้เวลาในการเติมเต็มไม่เกิน 5 นาที

Ford

7. Ford

ถ้าตามแผนแล้ว ทาง Ford เตรียมที่จะส่งรถยนต์พลังงานไฮโดรเจนลงตลาดภายในปี 2017 ภายใต้ความร่วมมือกันพัฒนากับ Mercedes-Benz, Daimler และ Nissan แต่จนล่าสุดก็ยังไม่มีรายละเอียดใดๆออกมาจากทาง Ford เลย

Mercedes-Benz GLC F-Cell

8. Mercedes-Benz GLC F-Cell

ทาง Mercedes-Benz เตรียมลองตลาดด้วยรถยนต์แบบ  Plug-in Hydrogen ก่อนภายในปีนี้ เรียกกันว่า Mercedes-Benz GLC F-Cell เป็นการทำงานร่วมกันของระบบพลังงานไฟฟ้าและไฮโดรเจน โดยพลังงานไฟฟ้าที่เก็บไว้จะพารถวิ่งไปได้ไกลที่สุด 48 กิโลเมตร แล้วเพิ่มเติมด้วยการวิ่งจากพลังงานไฮโดรเจนอีกเกือบ 500 กิโลเมตร

Nikola One

9. Nikola One

บริษัท Startup น้องใหม่จากสหรัฐฯ Nikola Moto  ได้ทำการเปิดตัวรถยนต์บรรทุกหัวลากพลังงานไฮโดรเจน Nikola One ไปเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ทางผู้ผลิตบอกว่า รถบรรทุกคันนี้เติมพลังงาน 1 ครั้ง จะสามารถวิ่งได้ 1,288 - 1,931 กิโลเมตร ราคาเช่าเบื้องต้นประมาณ 5,000 - 7,000 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อเดือน (ประมาณ 175,000 - 245,000 บาท) และยังมีแผนที่จะสร้างสถานีเติมพลังงานไฮโดรเจนให้ครบ 364 แห่งภายในปี 2019 อีกด้วย

Riversimple Rasa

10. Riversimple Rasa

Riversimple บริษัท Startup อีกแห่งจากเวลส์ ก็เตรียมส่งรถยนต์ Fuel Cell อย่าง Rasa ลงตลาดภายในปีนี้เช่นกัน โดยจะเปิดให้ชาวสหราชอาณาจักรราว 60-80 คนได้ทำการเช่าเพื่อใช้งาน โดยตัวรถมีขนาดย่อมเยา น้ำหนักเพียง 590 กิโลกรัม ทำระยะทางสูงสุดได้ 483 กิโลเมตรต่อการเติมเต็ม 1 ครั้ง ส่วนภายในดูหรูหรา โดยเฉพาะพวงมาลัยที่ถูกหุ้มด้วยวัสดุที่ดูมีค่าอย่าง Alcantara

Pininfarina H2 Speed

11. Pininfarina H2 Speed

ซูเปอร์คาร์ ก็ใช้พลังงานไฮโดรเจนได้ เมื่อทาง Pininfarina ได้เปิดตัว H2 Speed ที่สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 ได้ใน 3.4 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่ทาง Pininfarina ไม่ได้เปิดเผยข้อมูลว่ารถ H2 Speed วิ่งได้ไกลสูงสุดเท่าไหร่ โดยจะมีแผนวางจำหน่ายได้ภายใน 12-14 เดือนจากนี้ ผลิตออกมาแค่ 10 คัน ราคาโดยประมาณที่ 2.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 87.5 ล้านบาท

ข้อมูลจาก Business Insider

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com 

5 เรื่องน่าสนใจ