Toyota Prius Plug in ประหยัดระดับเทพ เพียง 1 ลิตร/100 กิโลเมตรเท่านั้น

  • โดย : Autodeft
  • 8 ก.พ. 60
  • 32,537 อ่าน

ในบ้านเรารถยนต์ Toyota Prius ใหม่ อาจจะยังไม่ออกมาเปิดตัววางจำหน่าย ทั้งที่วางขายในต่างประเทศมาได้หลายปีดีดับแล้ว และล่าสุดเราคนไทยคงต้องอิจฉากันต่อไป เมื่อในต่างประเทศเปิดตัวเจ้ารถยนต์ Toyota Prius รุ่นเสียบปลั้ก ที่ประหยัดสุดๆ

คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำรถยนต์ให้มีอัตราเฉลี่ย 1 ลิตร/100 กิโลเมตร แต่นี่คือตัวเลขที่ทาง Toyota เคลมจากการทดสอบในสหภาพยุโรป (NEDC) ในเจ้า Toyota Prius ใหม่ รุ่นไฮบริดเสียบปลั้ก ที่เพิ่งออกวางจำหน่ายเมื่อไม่นานมานี้ โดยเจ้ารถยนต์คันนี้นอกจากจะประหยัดแล้ว ยังปล่อยไอเสียต่ำเพียง 22 กรัม/กิโลเมตร เรียกว่าเป็นรถยนต์รักษ์สิ่งแวดล้อมมากๆ

Toyota Prius Plug in

ในเวอร์ชั่นเสียบปลั้กเจ้า Toyota Prius PHEV มาพร้อมแบตเตอร์รี่ขนาดใหญ่ 8.8 กิโลวัตต์ ใช้เวลาชาร์จไฟฟ้า 3 ชั่วโมง และใช้เวลาชาร์จเร็วเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น โดยแบตเตอร์รี่นั้นทำงานคู่กับเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตรเหมือนเดิม ให้กำลังรวม 120 แรงม้า มาพร้อม 4 โหมดการทำงานสำคัญ ได้แก่โหมด HV Mode ,EV Mode ,EV City Mode และท้ายสุดโหมดใหม่ Battery Charge Mode ใช้ในการชาร์จไฟเข้าสู่แบตเตอร์รี่ และมีสามโหมดขับขี่คือ Eco ,Normal และ Power

ตัวรถสามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนไม่ใช้เครื่องยนต์ได้ถึง 50 กิโลเมตร และทำความเร็วสูงสุดในโหมดไฟฟ้า ได้ถึง 135 กิโลเมตร/ชั่วโมง

Toyota Prius Plug in

Toyota Prius Plug in

Toyota Prius Plug in

เคียงข้างการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนทาง Toyota เปิดเผยว่า เจ้ารถยนต์ Toyota Prius ใหม่ เวอร์ชั่นเสียบปลั้กยังติดตั้งชุดโช๊คใหม่ ที่มีความโคลงตัวน้อยกว่าเดิม และบนหลังคายังติดตั้งแผงโซล่าร์เซลล์ที่ช่วยเพิ่มระยะทางในการขับขี่ได้ 5 กิโลเมตร

ด้านหลังตัวรถทำจากวัสดุน้ำหนักเบาคาร์บอนไฟเบอร์เรซินพลาสติก ช่วยในการลดน้ำหนักได้ดีกว่ารุ่นปกติ ด้านภายในติดตั้งชุดจอ 11.6 นิ้ว ให้ความบันเทิงในการขับขี่ รวมถึงตรงหน้าคนขับและตรงกลางแสดงผลด้วยชุดจอขนาด 4.2 นิ้ว  

Toyota Prius ใหม่ เวอร์ชั่นเสียบปลั้ก จะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศยุโรปในเร็วๆ นี้ แต่ยังไม่มีการเปิดเผยราคาออกมา แต่ยอมรับว่าเจ้าพรีอุสเวอร์ชั่นนี้น่าสนใจไม่หยอก โดยเฉพาะในเรื่องของความประหยัด

 

ติดตามเรื่องราว ข่าวสาร และความรู้ รถยนต์ได้กับพวกเรา ได้ที่  www.Autodeft.com 

หรือผ่านทาง   Fanpage Facebook กดไลค์และ  Follow   ได้ที่   www.facebook.com/autodeft 

 

 

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ