ที่สุดอเนกประสงค์ ISUZU…ยอดนิยมในความทรงจำของคนไทย

  • โดย : Autodeft
  • 3 ม.ค. 62
  • 37,534 อ่าน

ถ้าจะกล่าวถึงค่ายรถยนต์ยอดนิยมที่มียอดขายสูงสุดและเป็นค่ายรถยนต์ที่คนไทยให้ความไว้เนื้อเชื่อใจมากว่า 60 ปี นั่นคือ ISUZU

นอกจากอีซูซุจะชำนาญในรถยนต์ เพื่อการพาณิชย์ตั้งแต่รถปิกอัพขนาด 1 ตัน ไปจนถึงรถบรรทุกขนาดใหญ่ รวมถึงเครื่องยนต์ดีเซลแล้ว ในด้านกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ SUV หรือ PPV นั้น ISUZU ยังมีความเชี่ยวชาญไม่แพ้กันนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 เป็นต้นมา บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เล็งเห็นถึงตลาดรถยนต์อเนกประสงค์เมืองไทย เติบโตขึ้นหลังจากส่ง ISUZU Rodeo 4WD รถปิกอัพขับเคลื่อน 4 ล้อ รุ่นแรกที่ประกอบในเมืองไทย ต่อยอดความสำเร็จขยายฐานกลุ่มลูกค้าด้วยการนำรถยนต์กลุ่มนี้มาจำหน่ายเป็นครั้งแรก เริ่มจาก

 

ISUZU Trooper

ISUZU Trooper (พ.ศ.2536-2545)

อเนกประสงค์ระดับพรีเมี่ยม นำเข้าจากญี่ปุ่น เป็นที่นิยมทั้งในกลุ่มประชาคมอีซูซุ กลุ่มผู้ใช่รถขับเคลื่อน 4 ล้อ ช่วงแรกจำหน่ายด้วยรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน V6 3.2 ลิตร 6VD1 177 แรงม้า พร้อมความสบายจากห้องโดยสารใหญ่ 7 ที่นั่ง ออพชั่นหลากหลายทั้งกระจกไฟฟ้าเซ็นทรัลล็อก พวงมาลัยพาวเวอร์หุ้มหนังแท้ กระจกมองข้างโครเมี่ยมปรับพับด้วยระบบไฟฟ้า กับทัศนวิสัยกว้างใหญ่โต

จนมาถึงปี พ.ศ. 2538 ปรับไมเนอร์เชนจ์เป็นครั้งแรกปรับหน้าตาให้ดูภูมิฐานขึ้นทั้งกระจังหน้า กันชนหน้าพร้อมไฟตัดหมอก ล้ออัลลอยลายใหม่ เพิ่ม ระบบเบรก ABS ระบบล็อกความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control ใหม่!!ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ปรับเปลี่ยนระบบจาก 2 ล้อ เป็น 4 ล้อโดยไม่ต้องหยุดรถ (Shift-On-The-Fly) เป็นออพชั่นมาตรฐานและออกแบบภายในใหม่ด้วยแผงคอนโซลหน้าดีไซน์โค้งมนทันสมัย และสองปีถัดมามีการแบ่งเกรดความหรู ถึง 3 รุ่น ด้วยกันทั้งรุ่น SE, Limited และ Sport จนมาถึงพ.ศ. 2542 ปรับโฉมครั้งใหญ่ ปรับภายนอกใหม่ให้ดูดีกว่าพร้อมเพิ่มระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อัจฉริยะ TOD torque-on-demand มีการปรับพลกำลังเครื่องยนต์เบนซิน 3.2 ลิตร V6 6VD1 เพิ่มขึ้นเป็น 205 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด และในปี พ.ศ. 2544 มีการแนะนำเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ คอมมอนเรล เป็นครั้งแรกของไทยในรหัส 4JX1-TC 3.0 ลิตร 163 แรงม้าในชื่อ Trooper Commond Rail Di

 

ISUZU Cameo

ISUZU Cameo

 

ISUZU Cameo (พ.ศ.2536-2538)

อเนกประสงค์ 5 ที่นั่งจากพื้นฐานของ ISUZU FASTER Z 2500 Di ที่พาคุณมาสัมผัสกับเปิดประตูที่ 5 สู่รูปแบบใหม่ของชีวิต ISUZU Cameo ผลิตจากโรงงานในเครือ ISUZU โดยตรง ดีไซน์คล้ายกับรุ่น MU Wizard หรือ Rodeo ที่จำหน่ายในอเมริกา ให้ความยาวตัวรถเพียง 4,480 มม.แถมสะดวกสบายด้วยออฟชั่นที่หรูหรา(ในสมัยนั้น) ทั้งพวงมาลัยพาวเวอร์ เครื่องปรับอากาศ เบาะผ้า เข็มขัดนิรภัย 3 จุดคู่หน้า มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล Direct Injection มังกรทอง รุ่น 4JA1 ขนาด 2.5 ลิตร 90 แรงม้า ขับเคลื่อน 2 ล้อ ประจำการในรุ่นนี้ โดยเป็นรถที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้รถชาวไทยจนยอดจองถล่มทลาย ทั้งนี้ ISUZU Cameo ยังเป็นต้นแบบ ให้กับรถอเนกประสงค์ รุ่นอื่นๆไม่ว่าจะเป็น ISUZU VEGA, ISUZU MU-7 และ ISUZU MU-X

 

ISUZU VEGA

ISUZU VEGA (พ.ศ. 2541-2547)

หลังจากหมดยุค ISUZU Cameo ไปและปล่อยให้ ISUZU Trooper จำหน่ายรุ่นเดียว ทำให้ ISUZU ตัดสินใจนำมาปัดฝุ่นอีกครั้งแต่งานนี้นำระบบขับเคลื่อน 4 ล้อมาติดตั้งจากโรงงานพร้อมชื่อใหม่ ISUZU VEGA ยานยนต์อเนกประสงค์ที่เป็นไปได้เสมอ ด้วยความหล่อผสมความดุดัน ผสมกับความสบายในแบบ 5 ที่นั่งสานต่อจากรุ่น Cameo พร้อมออพชั่นหรูหราทั้งเบาะกำมะหยี่ พวงมาลัยพาวเวอร์หุ้มหนังปรับระดับได้ วิทยุ-เทป 4 ลำโพง จาก Pioneer แรงด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.8 ลิตร รุ่น 4JB-T Direct Injection พร้อมเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติให้เลือก

ในปี พ.ศ. 2542 แนะนำไฟหน้า Xenon ในชื่อ Super Dragon Eyes พร้อมแนะนำระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ปรับเปลี่ยนระบบจาก 2 ล้อ เป็น 4 ล้อโดยไม่ต้องหยุดรถ (Shift-On-The-Fly = Fly In Four) กับหน้าใหม่ที่แกร่งขึ้น จนปี พ.ศ. 2543 เปิดตัวอีกครั้ง คราวนี้เปลี่ยนขุมพลังใหม่เป็น 3.0 ลิตร รุ่น 4JH1-T 120 แรงม้า พร้อมช่วงล่างแบบ Super Aussie Suspension และหน้าตาใหม่ดุทั้งคัน เพิ่มทางเลือกด้วยสีทูโทนตอบโจทย์ความหรูอีกระดับสำหรับ ISUZU VEGA

 

ISUZU MU-7

 

ISUZU MU-7 (พ.ศ. 2547-2556)

หลังเปิดตัว ISUZU D-MAX 2 ปี ประกอบกับอายุการทำตลาดของ ISUZU VEGA เริ่มเข้าสู่ช่วงปลาย ทำให้ ISUZU เปิดตัวรถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่งรูปแบบใหม่ประกอบจากโรงงานโดยตรงในชื่อ ISUZU MU-7 เป็นครั้งแรกที่ ISUZU เพิ่มรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ จำหน่ายคู่กับรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ เด่นที่ด้านท้ายไม่ยางอะไหล่ห้อยท้ายไว้ จากพื้นฐานของ ISUZU D-MAX ช่วงแรกจะจำหน่ายด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ Super Commond Rail 3.0 ลิตร 146 แรงม้า รุ่น 4JJ1-TC พร้อมช่วงล่างแบบแหนบ ให้ความนุ่มนวลไม่แพ้คอยล์สปริงและมีการปรับโฉมเล็กน้อย ในปี พ.ศ. 2548 แนะนำรุ่นปรับปรุงใหม่ ปรับในส่วน ในส่วนกระจังหน้า เสาอากาศแบบใหม่ ภายในเปลี่ยนสีลายไม้ รวมถึงพวงมาลัยหุ้มหนังแท้สีดำ

จนมาถึงปี พ.ศ. 2549 เปิดตัวรุ่นใหม่ปรับครั้งใหญ่ พร้อมเครื่องยนต์ใหม่ รุ่น 4JJ1-TCX พร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน VGS Turbo 3.0 ลิตร 163 แรงม้า แรงบิด 360 นิวตันเมตรในรุ่นเกียร์ธรรมดา และ 333 นิวตันเมตรในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ ทำตลาดควบคู่กับเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบขนาด 3.0 ลิตร รหัส 4JJ1-TC 146 แรงม้า และแบ่งเกรดถึง 3 รุ่น ทั้งในรุ่น ACTiVO ขับเคลื่อน 4 ล้อ, Primo ขับเคลื่อน 2 ล้อ และรุ่น S ขับเคลื่อน 2 ล้อ รุ่นล่าง

ISUZU MU-7

ในปี พ.ศ. 2550 ซึ่งเป็นปีครบรอบการดำเนินธุรกิจ 50 ปี สามารถทำยอดผลิตครบ 2 ล้านคัน พร้อมกับนำออพชั่นใหม่ๆมาใช้เช่นเดียวกับ ISUZU D-MAXเครื่องเล่น DVD จาก Kenwood และกล้องมองหลัง เพื่อความปลอดภัยในการจอดรถเป็นครั้งแรก ในชื่อ MU-7 Gold Series หนึ่งปีให้หลังเปิดตัวรุ่น MU-7 Platinum พร้อมความหรูหราทั้งด้วยชุดแต่งโครเมี่ยม พร้อมเครื่องเล่น DVD จาก Kenwood กับกล้องมองหลังและตกแต่งภายในให้หรูขึ้น พร้อมสีขาวมุกให้เลือก จนมาถึงรุ่น MU-7 Super Platinum และ MU-7 Super Titanium ที่เพิ่มกล้องหน้าและมาตรวัดสีสัมใหม่ เป็นออพชั่นมาตรฐาน

ISUZU MU-7

ในปี พ.ศ. 2554 แนะนำรุ่น MU-7 Choiz ตกแต่งสปอร์ตรอบคันทั้งสเกริ์ตหน้า-หลัง ภายในเป็นแบบโทนดำเข้มแต่ยังสบายในรูปแบบ 7 ที่นั่งโดยจำหน่ายในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และหนึ่งปีให้หลังเพิ่มรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ 3.0 ลิตร 146 แรงม้า และเป็นรุ่นสุดท้ายของโมเดลนี้ก่อนการมาของ ISUZU MU-X

 

Isuzu Mu X

ISUZU MU-X (พ.ศ. 2556-2563)

ISUZU MU-X ยานยนต์อเนกประสงค์เอกสิทธิ์แห่งผู้นำ เปิดตัวในไทยที่แรกของโลก เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 ประสบความสำเร็จกวาดยอดขายอย่างน่าอัศจรรย์ด้วยตัวเลข 20,000 คันในระยะเวลา 1 ปีหลังการเปิดตัวโดยกลุ่มประชาคม ISUZU ให้การตอบรับดีไม่เสื่อมคลาย รวมถึงผู้ใช้รถที่ไม่เคยมีประสบการณ์กับค่าย ISUZU มาก่อนก็หลงใหลในเสน่ห์จนตัดสินใจซื้อเช่นกัน

Isuzu Mu X

Isuzu Mu X

โดดเด่นด้วยตัวรถที่คล่องตัวสั้นกว่ารุ่น MU-7 กับช่วงล่างหลังแบบคอยล์สปริงใหม่ 5 Link Suspension กับห้องโดยสารภายใน 7 ที่นั่งเช่นเดิมพร้อมการปรับเปลี่ยนที่นั่งให้ความสะดวกกว่ารุ่น MU-7 ช่วงแรกจะทำตลาดทั้งเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร ดีเซลเทอร์โบแปรผันรุ่น 4JK1-TCX 136 แรงม้า แรงบิด 320 นิวตันเมตร และเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบแปรผัน 3.0 ลิตร รุ่น 4JJ1-TCX แรงสุด 177 แรงม้า แรงบิด 380 นิวตันเมตร พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีดพร้อมระบบ Rev-Tronic และเกียร์ธรรมดา 5 สปีด

New ISUZU MU-X

New ISUZU MU-X

ในปี พ.ศ.2559 หลังการเปิดตัว ISUZU D-MAX Blue Power แนะนำเครื่องยนต์ดีเซลขนาดเล็กสุด 1.9 ลิตร 150 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร รุ่น RZ4E-TC พร้อมระบบส่งกำลังทั้งเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ตอกย้ำการเป็นผู้กำหนดทิศทางของเครื่องยนต์ดีเซล มาตรฐานใหม่ที่เหนือกว่าคำว่า “ที่สุด” และตอกย้ำความแรง สานต่อความสำเร็จของ “ปรากฏการณ์ อีซูซุบลูเพาเวอร์” ในรถยนต์นั่งอเนกประสงค์รุ่นนี้เป็นครั้งแรกของไทย และยังมีเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบแปรผัน 3.0 ลิตร รุ่น 4JJ1-TCX แรงสุด 177 แรงม้า แรงบิด 380 นิวตันเมตร พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดพร้อมระบบ Rev-Tronic จำหน่ายคู่กัน พร้อมออพชั่นเด็ด กระจกมองหลังปรับลดแสงแบบอัตโนมัติ ครั้งแรกในวงการด้วยกล้องบันทึกภาพด้านหน้ารถ DVR  

ISUZU MU-X

ISUZU MU-X

ในปี พ.ศ. 2560 ฉลองครบรอบการดำเนินธุรกิจ 60 ปี แนะนำรุ่น The New ISUZU MU-X หน้าใหม่ หรูใหม่ด้วยไฟหน้า Bi-LED ให้ความสว่างมากขึ้น ปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติ พร้อมไฟ LED Daytime และ เส้นนำแสง LED Guiding Light อยู่ในโคมเดียวกัน กระจังหน้าโครเมี่ยมใหม่แบบ Sport 3D ออกแบบใหม่รับกับกันชนหน้า – หลังใหม่แนวสปอร์ต รวมถึงไฟท้ายเป็น LED แบบ Sharp Horizon โดดเด่น ลงตัว จำหน่ายทั้งรุ่น 1.9 และ 3.0 Ddi Blue Power เลือกได้ทั้งขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อ Terrain Command

ISUZU MU-X Blue Power

ISUZU MU-X Blue Power

ISUZU MU-X Blue Power

แนะนำรุ่นพิเศษ The New ISUZU MU-X The Iconic สปอร์ตเท่รอบคันกับชุดแต่ง ICONIC STYLE ห้องโดยสารโทนเข้ม LAVA BLACK ขับเน้นอารมณ์สปอร์ต ระบบความบันเทิงพร้อม Built-in Navigator และ Digital TV Tuner จำหน่ายในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อทั้ง 1.9 และ 3.0 Ddi Blue Power

ISUZU MU-X THE ONYX

ISUZU MU-X THE ONYX

ต้นปี 2562 แนะนำรุ่นพิเศษ THE ONYX หล่อครบครันทั้งชุดแต่งตั้งแต่สเกริ์ตเสริมกันชนหน้า-หลังพร้อมคิ้วไฟตัดหมอกหน้าตกแต่งสีดำเข้ม Gloss Black กระจังหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Sport 3D เอกลักษณ์ของอีซูซุ ไฟหน้าดีไซน์ แบบ Bi-LED ปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติ พร้อมไฟ Daylight อยู่ในโคมเดียวกัน พร้อมเส้นนำแสง LED Guiding Light โฉบเฉี่ยวทันสมัย ไฟท้าย LED ดีไซน์รมดำแบบ Sharp Horizon ล้ออัลลอยลายสีทูโทน Flash Black Design ขนาด 18 นิ้วพร้อมยาง 255/60 R18 ลงตัวด้วยคิ้วขอบล้อสีดำด้านดีไซน์ใหม่

ISUZU MU-X THE ONYX

ภายในเน้นอารมณ์สปอร์ตด้วยเบาะนั่งกึ่งหนังแท้สีดำแบบ Sport Cut โอบกระชับรับกับสรีระดีไซน์เบาะใหม่พร้อมพนักพิงใบใหญ่ขึ้น เสริมบรรยากาศเพิ่มความลักชัวรี่ด้วยไฟสร้างบรรยากาศสีแดง AMBIENT LIGHT แสงบรรยากาศที่เพิ่มมิติในห้องโดยสารให้โดดเด่นมีระดับยิ่งขึ้น ระบบความบันเทิงพร้อม Built-in Navigator และ Digital TV Tuner ในชุดหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้วใช้งานง่าย ตอบสนองได้รวดเร็ว รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายกับสมาร์ทโฟน ผ่าน Wi-Fi Dongle เล่นได้ทั้งทั้งCD/DVD/MP3/WMA/AAC พร้อมจุดเชื่อมต่อ USB รองรับทั้งสมาร์ทโฟน เครื่องเล่น MP3 หรือ Flash Drive รวมทั้งเชื่อมต่อระบบโทรศัพท์ พร้อมฟังก์ชั่นบลูทูธออดิโอสำหรับฟังเพลงผ่านบลูทูธ และยังเพิ่มถุงลมนิรภัยรอบคัน 6 จุด ขายควบคู่กับรุ่นปกติที่เปลี่ยนแค่กระจังหน้าใหม่ ล้ออัลลอยลายสีทูโทน Flash Black Design ขนาด 18 นิ้ว ชุดกันชนหน้า-หลังทูโทนสีเดียวกับตัวรถดำ พร้อมภายในสีดำล้วน

ISUZU MU-X

ISUZU MU-X

รุ่นสุดท้ายของ ISUZU MU-X เจนนี้ด้วยรุ่น THE NEW ONYX เปลี่ยนให้เข้มขึ้นด้วยกระจังหน้าโครเมี่ยมสีดำ ชุดแต่งโครเมี่ยมประตูท้ายสีดำ Black Chrome คมเข้ม ชุดแต่งกันชนหน้า-หลัง ดีไซน์สปอร์ตเท่ล้ำ สะกดทุกสายตา นอกนั้นยกชุดจากรุ่น THE ONYX ภายในเหมือนรุ่น THE ONYX แต่สิ่งที่เปลี่ยนนั่นคือ ชุดตกแต่ง Piano Black บริเวณคอนโซลกลาง และคอนโซลเกียร์ เสริมความหรูหราและโดดเด่นเหนือระดับจากเงินที่เป็นสีเทาและเบาะกึ่งหนังแท้สีดำพร้อมเทคโนโลยีลดการสะสมความร้อน Cool Max เป็นการส่งท้ายเอกสิทธิ์แห่งผ้นำในปีปลายปี 2563

 

ISUZU MU-X

All New ISUZU MU-X 

ล่าสุด 28 ตุลาคม 2563 ที่่ผ่านมาแนะนำ เจนเนอเรชั่นใหม่ All New ISUZU MU-X  เปลี่ยนทุกความเชื่อเปลี่ยนทุกความรู้สึก ใหม่หมดด้วยรูปลักษณ์ความสปอร์ตผสมกับความลักชัวรี่ พร้อมออพชั่นเด่นๆไม่ว่าจะเป็น ไฟหน้า Bi-LED Projector ดีไซน์แบบ Arrow Signature สอดรับกับเส้นสายด้านข้างอันเป็นเอกลักษณ์ เติมอารมณ์สปอร์ตหรู ทอดยาวสู่ไฟท้าย LED ดีไซน์แบบ Winglet Signature เพิ่มมิติมุมมองให้โดดเด่นด้วยโคมไฟ 3-Line LED ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ ไดนามิคดีไซน์ คมเข้ม ดุดัน ล้ออัลลอยมีให้เขนาด 20 นิ้วพร้อมยางขนาด 265/50 R20

ISUZU MU-X

 ภายในเรียบง่ายแฝงความภูมิฐานด้วยเบาะกึ่งหนังแท้สีน้ำตาลปรับคู่หน้าด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมเทคโนโลยีลดการสะสมความร้อน Cool Max พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน พร้อม Sequential Paddle Shift  ระบบเปิด-ปิดประตูท้ายด้วยไฟฟ้า Power Tailgate ปลอดภัยด้วยระบบ Jam Protection พร้อมเทคโนโลยีเพื่อความบันเทิงและความสะดวกสะบายครบครัน โดยมี Ambient Light และ Dome Light ช่วยเติมแต่งบรรยากาศหรูมีระดับ ระบบความบันเทิง ISUZU Ultimate Entertainment หน้าจอ Infotainment Display ขนาดใหญ่ 9 นิ้ว ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone แยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อมฟิลเตอร์กรองฝุ่น PM 2.5 Charging Station Power Tailgate ระบบเปิด-ปิดประตูท้ายด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบ Jam Protection กุญแจ ISUZU Genius Entry สตาร์ทเครื่องยนต์ด้วย Remote Engine Start และใช้เปิด-ปิดประตูท้ายไฟฟ้า

ISUZU MU-X

ขุมพลังยกชุดจาก All New ISUZU D-MAX ทั้ง 1.9 150 แรงม้า และ 3.0 190 แรงม้า และระบบความปลอดภัยรอบคัน ISUZU MATRIX SAFETY INTELLIGENCE เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยล้ำหน้า ออกแบบให้ทุกระบบเพื่อความปลอดภัยทำงานผสานกันเป็นหนึ่ง ล่าสุดด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS (Advanced Driver Assistance Systems) ช่วยสอดส่อง เฝ้าระวัง ด้วยนวัตกรรมกล้องหน้าคู่ 3D Imaging Stereo Camera ทำหน้าที่เสมือนดวงตาอัจฉริยะ คอยตรวจจับเส้นถนนและวัตถุด้านหน้าแบบ Real Time ได้อย่างชัดเจน และแม่นยำกว่ากล้องเดี่ยวแบบ Mono Camera พร้อมเรดาร์ 2 จุด และเซนเซอร์ 8 จุดรอบคัน ให้ความมั่นใจและอุ่นใจเหนือระดับยามขับขี่ มาทั้งหมด 4 เกรดความหรู 7 รุ่นย่อย

 

 

เรื่องและเรียบเรียงโดย นายเต้ย

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com

5 เรื่องน่าสนใจ