จับตา !! ขุมพลัง 6 สูบ...กำเนิดใหม่เป็นเครื่องซุปเปอร์คาร์
- โดย : Autodeft
- 21 ก.ย. 59
- 14,053 อ่าน
หากกล่าวถึงรถยนต์ในโลกยุคใหม่ ทุกวันนี้พัฒนาการรถยนต์ต่างทำให้เราเห็นว่าในวันนี้ห้ารถยนต์ที่เราใช้น่าจะมีทิศทางเป็นอย่างไร แน่นอนมันจะมาพร้อมความทันสมัย ความประหยัด ที่สำคัญยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น นั่นทำให้เครื่องยนต์สันดาปภายในความจุระดับซดน้ำมันเป็นเยี่ยมอาจจะกาลปวสาน แต่อาจจจะไม่ใช่ทั้งหมด
เทรนด์การลดความจุเครื่องยนต์แล้วเพิ่มสมรรถนะหรือ Down Sizing เครื่องยนต์ที่เรารู้จักหลายรุ่นกำลังจะตายจากกันไป และดูเหมือนจะมีเครื่องยนต์ไม่กี่รูปแบบที่จะอยู่รอดปลอดภัยในอนาคต หนึ่งในนั้นน่าจะเป็นเครื่องยนต์แบบ 3 สูบ ที่เราเห็นได้ในวันนี้ และอีกหนึ่งคือเครื่องยนต์แบบ 6 สูบ ที่กำลังจะตีตั๋วอัพชั้นไปเป็นเครื่องยนต์ระดับซุปเปอร์คาร์
หลายคนอาจจะคิดว่าเรื่องนี้ไม่น่าเป็นจริง หากสิ่งที่กำลังพูดถึงนี้กำลังเกิดขึ้นในวันนี้ และมีมาสักพักใหญ่ เพียงแต่เรานั้นอาจจะไม่รู้สึกว่ามันกำลังจะเกิดขึ้น พวกเราส่วนใหญ่อาจจะกำลังมองไปที่พวกม้าลำพอง และ กระทิงดุ ซึ่งวันนี้ พวกเขาใช้เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ ทั้ง V8 และ V10 ใหญ่โตไปถึงขนาด V12 ด้วยซ้ำไป ทว่าด้วยกฎที่แน่นหนาทางด้านสิ่งแวดล้อม ในการขับขี่รถในภูมิภาคยุโรปและอเมริกา กำลังบีบให้บริษัทรถยนต์ต้องเปลี่ยนความคิด ในการทำรถยนต์ยุคใหม่ให้ขับสนุก มีสมรรถนะดีรักษาสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน
แนวคิดการบรรจุ เครื่องยนต์ประเภท 6 สูบลงมาในรถยนต์ทรงสมรรนถะไม่ใช่เรื่องใหม่ และมันไม่ใช่เรื่องแปลกที่ในวันหน้ามันจะกลายเป็นขุมพลังให้กำลังรถยนต์ระดับซุปเปอร์คาร์ ด้วยอดีตที่ผ่านมารถยนต์กลุ่มนี้เคยมีเครื่องยนต์แบบ 6 สูบ ใช้มาแล้ว ก่อนที่พวกเขาจะพกเครื่องยนต์ขนาดใหญ่แบบทุกวันนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่ายม้าลำพอง ในช่วงอดีตยุค ปี 1950-60 รถยนต์สายพันธุ์แรงของ พวกเขาหันมาใช้เครื่องยนต์แบบ 6 สูบแถวเรียงในการทำรถสนาม ก่อนที่ Ferrari จะหันมาให้ความสนใจกับเครื่องยนต์แบบ V6 จาก คำแนะนำของ Dino ลูกชาย Enzo Ferrari ว่าให้ลองทำเครื่องยนต์แบบ V6 ขนาด 1.5 ลิตร ลงในรถแขงตั้งแต่ปี 1955 และภายหลังจากที่ Dino เสียชีวิต Ferrari จึงทำรถยนต์ Ferrari dino ออกมาในปี 1968 และ ขายจนถึงปี 1976 มันเป็นรถยนต์ซุปเปอร์คาร์เครื่องวางกลาง ด้วยเครื่องยนต์แบบ V6 อย่างที่ลูกชายเขาออกแบบ บ้างว่านี่คือความพยายามครั้งสำคัญของ Ferrari ในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่งบน้อยแต่อยากได้รถสมรรถนะสูง
แน่นอนภาพความเป็นซุปเปอร์คาร์เครื่องยนต์ไม่ต้องมีขนาดใหญ่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว และมันกำลังจะเกิดขึ้น อีกครั้ง หลังจากมีรายงานมาตั้งแต่เมื่อปี 2012 ว่า ทีมวิศวกรของเฟอร์รารี่กำลังขลุกอยู่กับการออกแบบเครื่องยนต์รุ่นใหม่แบบ 6 สูบ รุ่นใหม่ เป็นการยืนยันว่า เรื่องเครื่องยนต์ 6 สูบ จะอยู่ในว่าที่ซุปเปอร์คาร์โลกอนาคตนั้นเป็นจริง
นอกจาก Ferrari แล้ว Porsche เอง ก็เป็นบริษัทรถยนต์อีกรายที่ใช้เครื่องยนต์ 6 สูบ นอนมาตั้งแต่แรกเริ่ม ในรุ่น 911 มันมีพละกำลังเหลือล้นมากด้วยการเติมแต่งระบบเทอร์โบชาร์จเข้ามาประจำการ แต่ถ้าคุณไม่ชอบเครื่องยนต์เทอร์โบ เข้า Porsche 911 GT3 RS มาพร้อมเครื่องยนต์ 6 สูบนอนขนาด 4.0 ลิตร สามารถทำกำลังได้ถึง 500 แรงม้าจากโรงงาน
หรือถ้าคิดว่า Porsche ไกลตัวไปหน่อย ลองมองรถในฝันใกล้ตัวของใครหลายคน Nissan GT-R ซึ่งวันนี้มันก็เข้าใกล้ความเป็นซุปเปอร์คาร์มากขึ้น และในต่างประเทศก้ยอมรับว่าสมรรถนะของมันไม่ต่างจากซุปเปอร์คารเท่าไรนัก โดยเฉพาะหลายปีทีผ่านมาวิศวกรของนิสสัน ได้พัฒนาเครื่องยนต์ V6 3.8 ลิตร VR38DETT จนวันนี้ในเวอร์ชั่น Nismo มีกำลัง 600 แรงม้า จากโรงงาน มันเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม. ในเวลา 2.7 วินาที เป็นเครื่องการันตีสมรรรถนะในการขับขี่
ส่วนหนึ่งที่ทำให้บริษัทรถยนต์หันมาใช้เครื่องยนต์แบบ 6 สูบ นั้น ด้วยทุกวันนี้มีเทคโนโลยีระบบอัดอากาศที่สามารถไว้วางใจได้มากขึ้น รถยนต์สมรรนถะสูงรุ่นใหม่ทั้งหมดมีมัน และในเครื่องยนต์แบบ 6 สูบก็ให้สมรรถนะอันเร้าใจไม่ต่างจากเดิม อย่างเช่น Ford GT
ดั้งเดิม Ford GT มาพร้อมเครื่องยนต์แบบ V8 5.4 ลิตร พร้อมระบบซุปเปอร์ชาร์จ ให้กำลังได้สูงถึง 550 แรงม้า และทำแรงบิดได้ 678 นิวตันเมตร มันเร้าใจสุดๆ จนเป็นหนึ่งในรถที่ขึ้นชื่อลือชาทางด้านสมรรถนะ ทว่า Ford GT ใหม่ที่กำลังจะเริ่มวางจำหน่ายในปีหน้า มีการยืนยันแล้วว่าจะไม่ใช่เครื่องยนต์แบบเดิม แต่จะมาพร้อมเครื่องยนต์ Ecoboost V6 3.5 ลิตร ให้กำลัง 600 แรงม้า นั่นคือส่งที่เราทราบจากค่ายนี้เมื่อเขาเปิดตัวต้นแบบออกมา และมันดูใกล้เคียงกับความจริง พอสมควร
นอกจากการก้าวล้ำทางด้านการวิศวกรรมระบบอัดอากาศแล้ว อีกหนึ่งหัวใจสำคัญก็ดูจะไม่พ้นระบบผสมผสานการขับขี่อย่างระบบมอเตอร์ไฟฟ้าช่วยขับ หรือระบบไฮบริด ที่น่าจะเข้ามามีบทบาทในอนาคตอย่างไม่ต้องสงสัย
ข้อดีของระบบไฮบริดอยุ่ที่การตอบสนองอย่างรวดเร็วของระบบมอเตอร์ไฟฟ้า มันให้แรงบิดสูงอย่างรวดเร็วในยามต้องการ ถ้านึกไม่ออกให้นึกถึงรถทามิย่า ที่เราเล่นสมัยเด็กๆ หรือยามคุณรู้สึกร้อน แล้วเปิดพัดลม คุณู้ว่ามันตอบสนองอย่างว่องไวสะดวกรวดเร็วทันใจ
ถ้ากับความแรงหลายคนที่ผ่านมือรถไฮบริด จะรู้ว่ามันไม่ธรรมดาในเรื่องการขับขี่ แม้เครื่องยนต์ขนาดเล็กกว่า แต่สามารถขับขี่ได้ไม่แตกต่างกันกับเครื่องยนต์ขนาดใหญ่มากนัก นั่นทำให้ Honda เล็งเห้นถึงความเป็นไปได้ในความล้ำสมัยและสมรรถนะที่เหนือชั้นกว่าในตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา จวบจนท้ายสุดผลงานชิ้นโบว์แดงของพวกเขากำลังจะออกวางจำหน่ายแล้วอย่างเป็นทางการ และพวกเขาก็เรียกมันว่ารถยนต์ซุปเปอร์คาร์ไม่ใช่สปอร์ตคาร์อย่างในอดีต
Honda NSX เป็นรถที่ทำให้เราเห้นภาพอนาคตว่าที่รถยนต์ซุปเปอร์คาร์มากขึ้นว่ามันน่าจะเป็นอย่างไร งานวิศวกรรมชิ้นเอกของ Honda เปิดตัวมาพร้อมเครื่องยนต์แบบ V6 ขนาด 3.5 ลิต รพร้อมระบบเทอร์โบชาร์จคู่ เท่านั้นยังไม่พอเครื่องยนต์รุ่นใหม่ ยังมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้ามากถึง 3 ตัว ช่วยให้การตอบสนองที่ดีกว่าเดิม มันเร้าใจมากขึ้น จนพละกำลังตำนานบทใหม่นี้มีกำลังถึง 573 แรงม้า
นอกจากหนทางใหม่ที่เราเห็นได้จาก Honda NSX แล้ว ดูเหมือนทางด้าน Toyota ก็จะเจริญรอยตามไม่แพ้กันในว่าที่ Toyota Supra ใหม่ ซึ่งทางค่ายสามหวงตัดสินใจใช้เครื่องยนต์ 6 สูบแถวเรียงจากพันธมิตร BMW ตามรายงานข่าวที่ออกมา แล้วพวกเข้ากับระบบไฮบริดพิเศษสำหรับรถรุ่นนี้ที่ยกมาจากสนามแข่ง Le man เรื่องกำลังยังไม่มีการพูดถึงเปิดเปรยออกมาอย่างเป็นทางการ แต่หลายคนคาดว่ามันไม่น่าจะน้อยว่าไม้เบื่อไม้เมา Honda อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ทางด้านบริษัทรถยนต์เยอรมัน อย่าง Audi ก็มีแผนในเรื่องนี้อย่างชัดเจน ใน Audi R8 มีแหล่งข่าวหลายรายในยุโรระบุว่า Audi R8 รุ่นต่อไป อาจจะถอดเครื่องยนต์ V10 ออกไป แล้วแทนที่เครื่องยนต์ V6 เทอร์โบ ซึ่งปัจจุบันมีวางจำหน่ายใน Audi RS 4 ให้กำลัง 420 แรงม้า แต่ในเวอร์ชั่น R8 จะจูนสมรรถนะเพิ่มเติมมาเป็น 450 แรงม้า และทางค่ายรถยนต์เยอรมันจะนำเครื่องยนต์ดังกล่าวมาแทนที่ขุมพลังแบบ V8 เดิม ที่จำหน่ายใน Audi R8
โลกยุคใหม่ ...เป็นที่ชัดเจนว่าเครื่องยนต์ 6 สูบจะสวมบทบาทใหม่ด้วยการเป็นหนึ่งในต้นกำลังสมรรถนะสูงสายพันธุ์แรง ในว่าที่รถซุปเปอร์คาร์ มันมีทั้งระบบเทอร์โบชาร์จและระบบมอเตอร์ไฟฟ้าเข้ามาร่วมด้วยช่วยกันการสร้างกำลังงาน .... และในอนาคตอันใกล้นี้เรากำลังจะได้เห็นบทบาทใหม่ของมัน ที่จะทำให้คุณลืมเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ไปอย่างสนิทใจ
เรื่อง โดย ณัฐยศ ชูบรรจง (Bonn)
ติดตามผู้สื่อข่าวและนักทดสอบรถยนต์ นาย ณัฐยศ ชูบรรจง ได้ที่ Facebook หรือ ทาง Fan page ,Twiter (@Nattayosc), Blog ส่วนตัว
ติดตามเรื่องราว ข่าวสาร และความรู้ รถยนต์ได้กับพวกเรา ได้ที่ www.Autodeft.com
หรือผ่านทาง Fanpage Facebook กดไลค์และ Follow ได้ที่ www.facebook.com/autodeft
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com
