Skully Helmet …หมวกกันน๊อกสุดล้ำ ที่ไม่เคยได้เกิด ....

  • โดย : Autodeft
  • 15 ก.ย. 59
  • 9,638 อ่าน

หากกล่าวถึงหมวกกันน๊อกที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ เราต่างรู้ดีว่าพวกมันมีหน้าที่สำคัญในการปกป้องภยันตรายต่อหัวของเราหากพลาดท่าเสียที หน้าที่ของมันถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการขับขี่โดยเฉพาะในหมู่ผู้ใช้มอเตอร์ไซค์

 

หน้าที่สุดสำคัญทางด้านความปลอดภัยถูกท้าทายให้หมวกกันน๊อคทำหน้าที่อื่นๆได้ ที่ผ่านมามีบริษัทมากมายพยายามคิดฟังชั่นที่จำเป็นในการขี่รถมอเตอร์ไซค์ เช่นมีระบบลูทูธมาให้อะไรเทือกนั้น แต่ไม่มีใครจะทำให้บริษัทชั้นนำทั่วโลก สนใจเท่าแบรนด์   Skully    ซึ่งทำเอาหลายคนอยากจะจับจองเป็นเจ้าของ

Skully Helmet   เป็นบริษัทที่ก่อตั้ง โดยสองพี่น้อง มาร์คัส เวลเลอร์ และ มิทช์ เวลเลอร์ แต่แรงบันดาลใจหลังมาจากมาร์คัส ซึ่งประสบอุบัติเหตุรถมอเตอร์ไซค์ เป็นแรงบันดาลใจให้เขาก่อตั้งบริษัทน้องใหม่ โดยมีวิสัยทัศน์ที่จะผลิตหมวกกันน็อก ที่ดีกว่าหมวกกันน๊อกธรรมดาทั่วไปขึ้นมา

[IMAGE1]

แนวคิดหลักของ   skully Helmet   คือ การผลิตหมวกกันน๊อกที่มีความทันสมัยเปี่ยมด้วยไฮเทคโนโลยีชั้นสูงเข้ามาอยู่ในตัวครอบหัว ป้องกันศีรษะของคุณเอง หลายคนคิดว่ามันไม่น่าเป็นไปได้ แต่  มาร์คัส ได้โชว์ต้นแบบของมันออกสู่สายตาชาวโลกในอเมริกา ในต้นแบบ   Skully AR-1   มันเป็นหวกกันน๊อกที่มาพร้อมความล้ำสมัยแสดงผลด้วยหน้าจอแบบ   Head Up Display   แสดงข้อมูลประกอบจริง ตรงหน้าผู้ขับขี่ วางไว้เหมือนไกลในระยะ 3 เมตร และ ยังมีกล้องมองด้านหลัง ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่  ระบบสามารถทำให้เชื่อมต่อแผนที่การนำทางจาก   GPS   และ เชื่อมต่อโทรศัพท์ มือถือ ที่สำคัญที่สุด เจ้าหมวกนี้ยังใช้การสั่งงานด้วยเสียง มันทำงานผ่านระบบปฏิบัติการณ์แอนดรอย ที่เราคุ้นเคยในสมาร์ทโฟน

ที่น่าสนใจยิ่งกว่า คือด้วยความน่าสนใจของตัวผลิตภัณฑ์ จากคอมอเตอร์ไซค์ทั่วอเมริกา  ทำให้ เวลเลอร์สร้างกระแสต่อบริษัทอย่างล้นหลามพร้อมทั้งหาทุนมาทำหมวกสุดล้ำจากต้นแบบสู่เวอร์ชั่นขายจริง ภายใต้ชื่อโครงการ  Indiegogo โดยพวกเขาได้รับเงินกว่า 2.4 ล้านดอลล่าร์สหรัฐเป็นทุนรองลังในการสร้างหมวก  Scully   ให้ กลายเป็นจริง เป็นแคมเปญที่ได้ชื่อว่าประสบความสำเร็จที่สุดในการหาเงินจากระบบเครือข่าย หรือ ที่เรียกว่า  Crowd Funding

ไม่เพียงแค่ในแง่การลงทุนเท่านั้น แต่ทาง Skully  ยังมียอดสั่งจองเข้ามาหนาตาเป็นจำนวนราวๆ 3,000 ใบ ทำให้ อนาคตบริษัทนี้ค่อนข้างสดใส จนบริษัทรายใหญ่บางแห่งก้าวเข้ามาร่วมด้วยช่วยลงทุน อย่าง   Intel Capital และ   Walden Riverwood venture  รวมถึงบริษัทยังได้รับการสนับสนุนจากระบบทุนแบบ   Series A  คล้ายกันกับในกรณีของ   Tesla  Motor โดยได้เงินจากการหาทุนมา 11 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ

 

 

ทว่าเมื่อถึงกำหนดส่งมอบสินค้า ผลปรากฏว่า   Skully   เกิดความล่าช้าต่อลูกค้า จากเดิมที่มีการกำหนดว่า จะเป็นช่วงเดือนพฤษภาคมปี 2015  ก็ล่าช้าเป็นเดือนพฤศจิกายน จนท้ายที่สุดมีแผนว่าจะวางจำหน่ายช่วงคริสต์มาสก็ไร้วี่แวว ทว่าก็ไม่ใช่ว่าเจ้าหมวกสุดล้ำนี้จะไม่ออกไปวางจำหน่ายเสียทีเดียว เพราะมีรายงานว่ามีหมวกกันน๊อค Skully   จำนวนหนึ่งถูกส่งถึงมือลูกค้า บางรายงานเชื่อว่า มี 20 ใบเท่านั้น แต่ทุกรายงานระบุว่ามีไม่ถึง 100 ใบ ที่ถูกผลิตและส่งไปยังปลายทางจนถึงมือลูกค้า

ที่สำคัญนอกจากการไม่สามารถส่งมอบสินค้าได้ตามกำหนดและตามปริมาณแล้ว การบริหารภายในองค์กร ยังเป็นก็ส่วนหนึ่งที่สำคัญ ให้บริษัทอนาคตไกลรายนี้ร่วงไม่เป็นท่า  เนื่องจากไม่มีการวางแนวทางการบริหารบริษัทต่อไปอย่างชัดเจน ไม่เหมือนกรณีที่  Tesla   ที่มีการจ้างหัวหน้าทีมวิศวกรเข้ามา

รวมถึง   Skully   ยังมีลักษณะเป็นธุรกิจครอบครัว หลังจาก มาร์คัส กอดคอให้ มิทช์ น้องชายของเขาดูแลสายงาน แต่เขาไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ และทำให้ผู้ลงทุนสั่งให้เขาถอดมิทช์ออกจากตำแหน่ง ตลอดจนการเข้ามาของ มาร์ติน ฟิทช์เชอร์ในตำแหน่ง  COO   ยังคานอำนาจกับผู้ก่อตั้ง   Marcus Weller  และภายหลัง ถูกสั่งให้ทำหน้าที่แทนมาร์คัส

แต่นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่า ปัญหาสำคัญน่าจะอยู่ที่ระบบการเงินของบริษัทที่พบอุปสรรคมากกว่าจากซัพพลายเออร์ โดยมีรายงานว่า มาร์คัส เตรียมจะขายบริษัทหรือไม่ก็ให้บริษัทจากจีนที่ชื่อ  Le Sport   เข้ามาควบคุมกิจการแทน พร้อมหาเงินในระดับ   Series B  เข้ามาเติมเต็มระบบเงินของ   Skully   แต่นั่นไม่ทันการและทำให้บริษัทต้องปิดตัวลงไป

[IMAGE2]

เมื่อไม่นานมานี้ใน Ebay   มีผู้นำหมวกกันน๊อกอัจฉริยะออกมาวางจำหน่าย โดยมันมีมูลค่าสูงถึง 2,085 ดอลล่าร์ หรือราวๆ 75,000 บาท  โดยผู้ขายระบุกับ Rideapart   ว่า  หมวกนั้นใช้งานได้ดี และทำได้จริงตามที่ทาง  Scully   บอก และเข้าค่อนข้างจะพอใจกับตัวสินค้ามากพอสมควร ไม่ว่าจะกล้องมองหลังที่คมชัด และระบบเสียงคุณภาพสูง

หากด้วยการปิดตัวลงของ   Skully   ทำให้เขาคิดว่าจะเป็นการดีกว่าที่จะขายมากกว่าจะเก็บมันไว้ เนื่องจากไม่มีการสนับสนุนทางเทคนิคในอนาคต และ เมื่อมันเสียจะไม่ต่างอะไรจากที่ทับกระดาษมูลค่า 50,000 บาท

อย่างไรก็ดี มีความเป็นไปได้ที่  Skully   อาจจะกลับมาเปิดตัวอีกครั้ง ในอนาคต นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่า  การปิดตัวลงของ   Skully   มาจาก นักลงทุนที่เห็นว่าเรือกำลังจะจม และจะดีกว่าและจบการผลาญเงินมากกว่า ถ้าเขาปิดบริษัทวันนี้ และรอพร้อมจึงกลับมาเปิดใหม่

นั่นตรงกับสิ่งที่  รองประธานทางด้านการตลาดของ  Scully นาย คาร์ลอส โรดิเกส  ออกมาเปิดเผยว่า กลุ่มผู้บริหารพยายามหาเงินทุนมาทำผลิตภัณฑ์ต่อให้กลายเป็นจริง และเราพยายามที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้า ที่มีการสั่งจองเข้ามา

Scully   Helmet   น่าจะเรียกว่าเป็นตัวอย่างหนึ่งที่ดีของบริษัทยุคใหม่ที่ไม่ประสบความสำเร็จ แต่การปราชัยเกิดจากหลายสิ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญ ที่ไม่แน่ใครจะรู้ว่า  พวกเขากลับมาสร้างฝันให้เป็นจริงมากกว่านี้เมื่ถึงในเวลาที่ใช่ ...

เรื่อง โดย ณัฐยศ ชูบรรจง (Bonn)

ติดตามผู้สื่อข่าวและนักทดสอบรถยนต์ นาย ณัฐยศ ชูบรรจง ได้ที่ Facebook หรือ ทาง  Fan page ,Twiter (@Nattayosc), Blog  ส่วนตัว

 

ติดตามเรื่องราว ข่าวสาร และความรู้ รถยนต์ได้กับพวกเรา ได้ที่  www.Autodeft.com 

หรือผ่านทาง   Fanpage Facebook กดไลค์และ  Follow   ได้ที่   www.facebook.com/autodeft 

 

ที่มา

Skully has crashed and burned – Tech Crunch

The Skully AR-1 smart motorcycle helmet is dead, but could still rise from beyond the grave -digitaltrend

From Bad to Worse: SKULLY Systems Goes Under -  Yahoo News

AR helmet maker Skully investors boot founders, replacing them with Martin Fitcher as CEO -– Tech Crunch

 

 

 

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ