Deft Versus : Ford Ranger Wildtrak VS Ford Ranger Raptor เปรียบชัดๆ...สองกระบะโหดสไตล์อเมริกัน

  • โดย : Autodeft
  • 24 ก.ค. 61
  • 27,267 อ่าน

ณ ชั่วโมงนี้ ความร้อนแรงของ Ford Ranger ใหม่!! กระบะเกิดมาแกร่ง ได้ผลตอบรับอย่างดียิ่งสำหรับสาวกที่ชอบความแตกต่าง ชอบความทันสมัยและเทคโนโลยีที่เหนือชั้น บ่งบอกความเป็นตัวของตัวเองสำหรับกระบะสายพันธุ์อเมริกัน

Ford Ranger

โดยชูจุดเด่นกับการเป็นกระบะที่แรงสุดในเมืองไทย 213 แรงม้าที่ 3,750 รอบต่อนาที 500 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,000 รอบต่อนาที จากเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่ (Bi-Turbo) ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด และเป็นการมาแทนเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบแปรผันในตระกูล PUMA รหัส P5AT 3.2 ลิตร 200 แรงม้า ที่ 3,000 รอบ/นาที แรงบิด 470 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,500 รอบ/นาทีแต่งานนี้ ฟอร์ด ตัดสินใจนำขุมพลังแรงสุด 213 แรงม้า ลงในกระบะสองแกร่งสองสไตล์ ทั้งรุ่น Wildtrak กระบะแต่งสปอร์ตจากโรงงาน และรุ่น Raptor กระบะโหดขั้นเทพ

Ford Ranger

Ford Ranger

ความหล่อของกระบะสองรุ่นนี้ถึงมีความโหดดุที่แตกต่างกัน แต่ออพชั่นมีเหมือนกันตั้งแต่ ไฟหน้า Projector แบบ HID พร้อมไฟ LED daytime ในโคมเดียวกัน พร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED กับฝากระบะท้ายแบบผ่อนแรง Easy Lift ที่ช่วยให้เปิดปิดฝากระบะท้ายง่ายดายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น และพื้นปูกระบะท้ายพร้อมช่องต่อไฟ 12 Volt เป็นต้น

แต่ออฟชั่นบางอย่างกลับมีความที่แตกต่างกัน ตามตารางต่อไปนี้

Ford Ranger

Ford Ranger

Ford Ranger

มิติตัวรถถ้ามองแล้วทั้ง Ford Ranger Wildtrak VS Ford Ranger Raptor ต่างกันตามตารางต่อไปนี้

Ford Ranger

จะเห็นได้ว่ารุ่น Raptor มีมิติใหญ่กว่ารุ่น Wildtrak เกือบทุกด้าน โดยความยาวมากกว่า 36 มม. ความกว้าง 17 มม. ความสูง 58 มม. และระยะต่ำสุดจากพื้น 53 มม.

 

Ford Ranger

Ford Ranger

Ford Ranger

Ford Ranger

ภายในสำหรับ Ford Ranger Wildtrak และ Ford Ranger Raptor ถึงจะใช้พื้นฐานบอดี้กระบะ 4 ประตู 5 ที่นั่ง เหมือนกันรวมถึงออพชั่นเหมือนกันทั้งสองรุ่น ทั้ง กุญแจรีโมทอัจฉริยะพร้อมปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติ ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา เครื่องเสียงผ่านจอ Multi-Touch ขนาด 8 นิ้ว ระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC™3 ภาษาไทย พร้อมระบบนำทาง กับ ลำโพง 6 ตัว ระบบตัดเสียงรบกวน และช่องต่อไฟ 230 V และเบาะคนขับปรับด้วยระบบไฟฟ้า 8 ทิศทาง

แต่ออพชั่นภายในบางอย่างกลับแตกต่างกัน ตามตารางต่อไปนี้

Ford Ranger

 

Ford Ranger

Ford Ranger

ระบบขับเคลื่อนโดยทั้งสองรุ่นนี้ใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Part-Time Shift-On-The-Fly ที่ปรับได้ 3 รูปแบบทั้ง 2H, 4H และ 4L แต่สำหรับรุ่น Raptor นั้น เพิ่มระบบ โหมดการขับขี่ Terrain Management System (TMS) ปรับการทำงาน 6 รูปแบบ เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่หลากหลาย ประกอบด้วย

โหมดการขับขี่ทางเรียบ ทั้ง 1.โหมดปกติ 2. โหมดสปอร์ต –เน้นการเปลี่ยนเกียร์เร็วและฉับไวในขณะที่รอบเครื่องสูง

โหมดการขับขี่ออฟโรด ตั้งแต่ 3. โหมดหญ้า/กรวดหิน/หิมะ – ออกแบบมาให้ขับขี่บนทางที่มีพื้นผิวลื่นและเป็นหลุมบ่อ

4.โหมดโคลน/ทราย – ระบบจะปรับการตอบสนองของระบบควบคุมการลื่นไถล

5. โหมดหิน – ใช้เมื่อขับขี่บนพื้นผิวในเขตภูเขาที่ลาดชัน เน้นการควบคุมรถให้ขับเคลื่อนอย่างช้าๆ

6. โหมดบาฮา –เหมาะกับการขับขี่ออฟโรดด้วยความเร็วสูง

Ford Ranger

ช่วงล่าง 2 รุ่นนี้ มีความต่างชัดเจนตามตารางต่อไปนี้

Ford Ranger

Ford Ranger

ระบบความปลอดภัยเหมือนกันทั้งสองรุ่นโดยคำนึงถึงความปลอดภัยและการขับขี่ ได้แก่

- ระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ (Roll Mitigation Function)

- ระบบลดอาการส่ายขณะลากจูง (Trailer Sway Control)

- ระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา (Hill Descent Control) และระบบควบคุมการบรรทุก (Load Adaptive Control)

- ระบบป้องกันล้อล็อคและระบบกระจายแรงเบรก (ABS & EBD)

- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (Electronic Stability Program) และระบบช่วยการออกตัวขณะจอดรถบนทางลาดชัน (Hill Launch Assist)

- ถุงลมนิรภัย 6 ลูก บริเวณด้านหน้า ด้านข้าง และด้านข้างกระจก

- กล้องมองหลัง

- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control)

- จุดยึดสำหรับเบาะนั่งเด็ก (ISOFIX)

แต่สำหรับรุ่น Wildtrak 4x4 กลับมีภาษีที่เหนือกว่ารุ่น Raptor นั่นคือความปลอดภัยอัจฉริยะ ช่วยในการขับขี่ (Advanced- Driving Assist technology) ทั้ง

- ระบบช่วยเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน (AEB)

- ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control)

- ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning System)

- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping System)

- ระบบแจ้งเตือนการขับขี่ (Driver Alert System)

- ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Active Park Assist) ช่วยให้การจอดรถง่ายขึ้น

- ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ Auto Highbeam Control

Ford Ranger

Ford Ranger

ราคาจำหน่ายมีดังนี้

- 2.0 Wildtrak 10AT Bi-Turbo 4x4 ราคา 1,265,000 บาท
- 2.0 Raptor 10AT Bi-Turbo 4x4 ราคา 1,699,000 บาท

ด้วยส่วนต่าง 434,000 บาท ทำให้สิงห์รถกระบะชาวไทยต่างครุ่นคิดแล้วว่าจะเลือกรุ่นไหนมาเป็นรถคู่ใจในการใช้งาน เผลอๆอาจมีรายการรักพี่เสียดายน้องอย่างแน่นอน

 

เรื่องและเรียบเรียงโดย นายเต้ย

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com 

 

5 เรื่องน่าสนใจ