หลังจากที่ประกาศมาว่า หลังวันที่ 1 เมษายนเป็นต้นมา ถ้าใครค้างค่าปรับการกระทำผิดกฎจราจร จะไม่สามารถต่อทะเบียนรถประจำปีได้ แต่บางคนยังแย้งว่า ไม่จริงหรอก วันนี้มีหลักฐานมายืนยันว่า การประกาศนี้เป็นจริงแน่นอน
หลังจากที่มีข่าวมานานแล้วว่า ถ้าใครไม่มีการชำระค่าปรับตามใบสั่ง จะมีการงดไม่ให้ต่อภาษีประจำปีได้ แต่ที่ผ่านมาก็ยังมีการต่อภาษีรถประจำปีกันได้อย่างสบายใจ แต่ล่าสุดมีการแจ้งวันดีเดย์ออกมาแล้วว่า ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนนี้เป็นต้นไป ข้อบังคับนี้จะกลายมาเป็นความจริงแล้ว
หลังจากเพิ่งเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศอังกฤษได้ไม่นาน นาย Rishi Sunak ก็ได้สร้างเรื่องให้มีข้อครหาได้แล้ว เมื่อถูกตำรวจสั่งปรับเงินอย่างน้อย 100 ปอนด์ หรือประมาณ 4,000 บาท ในข้อหาไม่คาดเข็มขัดนิรภัยระหว่างนั่งรถที่กำลังเคลื่อนที่อยู่
จากข่าวที่มีรถคันหนึ่ง กระทำการหัวหมอด้วยการนำป้ายทะเบียนปลอมมาเปลี่ยนบนรถของตัวเอง ก่อนที่จะวิ่งเข้าทางด่วนแล้วผ่านด่าน M-Flow เพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายค่าผ่านทาง แต่มาถูกจับได้ภายหลัง การกระทำแบบนี้ถือเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย มีบทลงโทษเอาไว้ชัดเจน วันนี้เรามาดูกันว่า ถ้าเรากระทำการแบบนี้ จะโดนลงโทษข้อหาอะไรบ้าง และบทลงโทษคืออะไร
กรังด์ปรีซ์ฯ ผู้จัดงานงานบางกอก ยูสคาร์โชว์ จับมือสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว จัดงานเสวนา “ทิศทางอุตสาหกรรมรถยนต์ใช้แล้ว จะเป็นอย่างไร ภายใต้กฎหมาย สคบ.ใหม่ และการเข้ามาของรถยนต์ไฟฟ้าจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอย่างไร ในปี 2023”
สัญลักษณ์จราจรที่มีติดอยู่บนเส้นทางต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสายหลักหรือสายรอง เราก็ต้องปฏิบัติตามป้ายหรือสัญญาณจราจรนั้น ๆ อย่างเคร่งครัด แต่มีหลายคนเลยที่มีข้อสงสัยว่า การที่เราขับรถไปเจอกับไฟแดงที่กระพริบอยู่ ควรต้องทำตัวอย่างไร วันนี้เรามีคำตอบครับ
เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ราชกิจจานุเบกษาได้มีการประกาศกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนย้ายยานพาหนะและค่าดูแลรักษายานพาหนะ พ.ศ.2564 ถึงค่าใช้จ่ายของรถที่จอดทิ้งเอาไว้ข้างทางหลวง โดยมีอัตราปรับเอาไว้สูงสุด 5,000 บาท รวมทั้งค่าดูแลรายวันอีกสูงสุด 1,500 บาท มีผลบังคับใช้แล้ว
เป็นที่ถกเถียงกันอยู่เสมอเรื่องความเร็วในการใช้ถนนหลวง ว่าสรุปแล้วจะใช้ได้ที่เท่าไหร่บ้างกันแน่ ทางตำรวจทางหลวงเลยจัดทำให้เป็นรูป Demographic ให้เห็นได้ง่ายและชัดเจนมากขึ้น โดยสรุปได้ดังนี้
ช่องทางทางด้านขวาสุด ปกติแล้วเอาไว้ใช้สำหรับวิ่งแซงรถคันอื่นที่ช้ากว่าเท่านั้น แต่มีรถบางคันที่ยังคงขับรถแช่ขวาแล้วขับช้าอยู่ ซึ่งเป็นเหตุที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ ล่าสุดทางกระทรวงคมนาคมเตรียมชงเพิ่มข้อบังคับใหม่ ให้จัดการปรับรถยนต์ที่วิ่งแช่ช่องทางด้านขวาสุด แต่ใช้ความเร็วไม่เกิน 90 กม./ชม. คาดบังคับใช้ได้เดือนกุมภาพันธ์นี้
กระทรวงคมนาคมเอาจริงกำจัดรถสาธารณะที่ขับผิดกฎหมาย, อันตราย, หวาดเสียว เตรียมเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปสามารถถ่ายคลิปเพื่อแจ้งกับกรมการขนส่งทางบกได้ ถ้าหากพบว่ามีความผิดจริง ผู้ถ่ายคลิปมีสิทธิ์ได้รับส่วนแบ่งค่าปรับ 50% คาดเริ่มประกาศได้ในวันที่ 9 ธันวาคมนี้ และประกาศบังคับใช้ก่อนปีใหม่นี้เป็นต้นไป
ก่อนหน้านี้ได้มีรายงานข่าวออกมาว่า คณะกรรมการควบคุมมลพิษ ได้ทำการเสนอต่อสภาเยอรมนี เพื่อเสนอให้ออกกฎหมายจำกัดความเร็วถนน Autobahn ที่ปกติจะไม่มีการจำกัดความเร็ว ให้จำกัดความเร็วเหลือเพียง 130 กิโลเมตร/ชั่วโมงเท่านั้น แต่ล่าสุดร่างกฎหมายฉบับนี้แท้งไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อทางสภาไม่เห็นชอบ ปัดร่างกฎหมายนี้ให้ตกไป
แดนจิงโจ้ ออสเตรเลีย ก็มีกฎหมายห้ามใช้งานโทรศัพท์ขณะขับรถเช่นกัน แต่ก็เช่นเดียวกับเมืองไทยที่การตรวจจับอาจจะทำได้ลำบาก เพราะคนขับสามารถหลีกเลี่ยงได้ด้วยการวางโทรศัพท์ลงเมื่อเห็นตำรวจ แต่ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ เตรียมใช้งานกล้องตรวจจับการใช้โทรศัพท์ขณะขับรถอย่างเต็มรูปแบบภายในปีนี้ เพื่อตรวจจับและปรับให้เข็ดหลาบ จะได้ลดต้นเหตุการเกิดอุบัติเหตุ
ตอนนี้กฎหมายเกือบทุกประเทศ จะห้ามผู้ที่กำลังขับขี่รถยนต์ ใช้งานโทรศัพท์ขณะขับรถ แต่อนุโลมให้สามารถใช้งานเป็นอุปกรณ์เสริมจำพวก Hand-Free อย่างสายหูฟัง,หูฟัง Bluetooth, ระบบเครื่องเสียง เป็นต้น แต่จากนี้ไปอาจจะไม่สามารถใช้ได้แล้วที่ประเทศอังกฤษ
ปกติการติดตั้งกล้องเพื่อตรวจจับผู้กระทำความผิดนั้น ก็จะเป็นพวกขับรถเร็วเกินกำหนด หรือเปลี่ยนเลนทับเส้นทึบ ซึ่งเท่านี้ใบสั่งก็ถูกส่งไปเรียกค่าปรับกันแบบนับไม่ถ้วนแล้ว แต่แค่นี้ยังไม่พอ ล่าสุดทางตำรวจที่อังกฤษได้เตรียมติดตั้งระบบตรวจจับเสียงท่อดังเกินกำหนด แล้วส่งใบสั่งให้เสียค่าปรับอีกข้อหาแล้ว
เราคงเห็นได้บ่อยตามท้องถนน หรือตามที่จอดรถทั่วไป ทั้งของเอกชนหรือทางสาธารณะ ที่มีการจอดรถแล้วติดเครื่องทิ้งไว้ ไม่ว่าจะเป็นเวลาแปปเดียวหรือเป็นระยะเวลานานก็ตาม เพื่อให้คนที่อยุ่ในรถได้รับความเย็นจากเครื่องปรับอากาศอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ได้สนใจว่า รถจะปล่อยควันออกมา รวมทั้งความร้อนไปถึงคนที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง จนต้องมีการตั้งคำถามว่า การกระทำแบบนี้ มันผิดกฎหมายหรือไม่