Full Drive : ISUZU MU-X 1.9 Ddi Blue Power อเนกประสงค์เครื่องเล็ก หรู……ประหยัดแบบฉบับผู้นำ

  • โดย : Autodeft
  • 8 ก.พ. 60
  • 60,518 อ่าน

ในเมืองไทยมีรถหลากหลายรุ่นเข้าทำตลาดเป็นจำนวนมาก รวมถึง ยานยนต์อเนกประสงค์ดัดแปลงจากกระบะหรือ PPV ที่ได้รับการกล่าวถึงในวงกว้าง เด่นในเรื่องดีไซน์ ความสะดวกสบาย และเทคโนโลยีขั้นสูงสุดซึ่งทั้งหมดรวมไว้ในคันเดียว และหนึ่งในนั้นมีค่ายรถที่อยู่คู่คนไทยยาวนานถึง 60 ปี ร่วมชิงชัยในตลาดกลุ่มนี้นั่นคือ ISUZU MU-X

ISUZU MU-X Blue Power

ISUZU MU-X อเนกประสงค์หรูรับช่วงต่อจากรุ่นเก่า MU-7 เปิดตลาดในไทยที่แรกของโลก เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2556 ประสบความสำเร็จกวาดยอดขายอย่างน่าอัศจรรย์ด้วยตัวเลข 20,000 คันในระยะเวลา 1 ปีหลังการเปิดตัวโดยกลุ่มประชาคม ISUZU ที่ภักดีให้การตอบรับดีไม่เสื่อมคลาย รวมถึงผู้ใช้รถที่ไม่เคยมีประสบการณ์กับแบรนด์ ISUZU มาก่อนก็หลงใหลในเสน่ห์จนตัดสินใจซื้อเช่นกัน หลังการเปิดตัว ISUZU D-MAX Blue Power เปิดตัวขุมพลังใหม่ 1.9 ลิตรไปเมื่อปลายปี 2558  ทำให้เหล่าประชาคมฯ สงสัยและกังขาว่าจะมีโอกาสจุติลงใน MU-X ด้วยหรือไม่ จนในที่สุดได้ลงประจำการเป็นที่เรียบร้อยพร้อมกระบะ D-MAX รุ่นเกียร์อัตโนมัติ เมื่อเดือน มีนาคม 2559

สบตาเจ้าอเนกประสงค์หรูรุ่นนี้ ยังใช้เรือนร่างและหน้าตาเดิมแต่เปลี่ยนลุคส์ใหม่ให้สมาร์ทขึ้น ในสไตล์ Blue Power ตั้งแต่กันชนหน้า-หลังสีทูโทนท่อนบนจะเป็นสีเดียวกับตัวรถ ส่วนท่อนล่างเป็นสีเทาอ่อน (เดิมเป็นสีเทาเข้ม) ส่วนของดั้งเดิมยังคงอยู่ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าโครเมี่ยมทรงเอกลักษณ์ ประกบด้วยไฟหน้า Projector พร้อมกันชนหน้าทรงเฉียบซ่อนไฟตัดหมอกกับไฟ LED Daytime

ISUZU MU-X Blue Power

ด้านข้างยังคงเดิมเพิ่มเติมด้วย กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวในตัว ที่ลดความสง่างามด้วยการหันมาใช้สีเดียวกับตัวรถ (เดิมเป็นโครเมียม) ปรับ-พับด้วยระบบไฟฟ้า แต่ก็ยังมีเสน่ห์อีกแบบหนึ่ง พร้อมบันไดข้างสีเทาอ่อนช่วยให้ตัวรถดูมีภูมิฐาน พร้อมล้ออัลลอยลายใหม่ Dynamic Black 17 นิ้ว สีทูโทน กับยาง Bridgestone Dualer H/T ขนาด 255/65 R17 ด้านยางอะไหล่คบกับกะทะล้อขนาด 7.0JX17 พร้อมยางเส้นเดียวกับล้ออัลลอยทั้ง 4 วง ที่เปิดประตูเป็นแบบโครเมี่ยม เสาอากาศครีบฉลาม หรือ Shark Fin เพิ่มความหรูเทียบเท่ารถยนต์ชั้นนำขึ้นมาเป็นกอง และราวหลังคาแบบ Roof Rail ทีมาแบบเข้ากับหลังคารถอย่างลงตัว ความสมาร์ทของด้านท้ายยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงด้วยไฟท้ายขาวแดงลวดลายเดิม พร้อมสปอยเลอร์หลังทันสมัยด้วยสีขาว ลงตัวด้วยคิ้วโครเมี่ยมที่ประตูท้ายซ่อนกล้องมองหลัง รับกับกันชนหลังสีทูโทน

มิติตัวรถ มีขนาดเท่ากับ MU-X รุ่นที่ผ่านมา เริ่มต้นที่ความยาว 4,825 มม. ความกว้าง 1,860 มม. ฐานล้อ 2,845 มม. ความสูงใต้ท้องรถ 230 มม. ความจุถังน้ำมัน 65 ลิตร แต่พอเปลี่ยนมาใช้เครื่อง 1.9 ลิตร ทำให้น้ำหนักตัวรถลดลงไป 1,945 กก. (เดิมหนัก 1,995กก.)

 

เปิดประตูรถทันสมัยด้วยระบบกุญแจรีโมท Keyless Entry ในชื่อ ISUZU Genius Entry เพียงแค่เก็บใส่ในกระเป๋ากางเกง ก็สามารถสั่งปลดล็อกได้อย่างง่ายดายด้วยการสัมผัสดด้านในก้านเปิดประตู นอกจากนี้ยังปลดล็อกประตูท้ายเหมาะมากสำหรับสุภาพสตรี ที่ต้องถือของเยอะล้นมือตอนไปช็อปปิ้งที่ห้าง

ISUZU MU-X Blue Power

ขึ้นลงสะดวกด้วยราวจับมือบริเวณเสา A แถมใจดีใส่ สคัพเพลทเรืองแสงสีฟ้าพร้อมโลโก้ MU-X เหมาะในยามค่ำคืนที่ต้องจอดรถเปลี่ยวๆไม่มีแสงไฟส่อง ด้านโทนสีห้องโดยสาร มีการปรับลุคส์ให้คมเข้ม ดูขรึมด้วยโทนสีดำล้วน Hi-Gross Black ยกระดับความหรูหราด้วยแผงประตูใหม่ที่ประกอบด้วยมือเปิดประตูด้านในใช้โครเมี่ยม พร้อมแผงตกแต่งข้างมือเปิดประตูแบบสีดำ เมื่อหรูไม่พอยังเพิ่มการบุวัสดุหนังบริเวณแผงประตู ช่วยเพิ่มความ Luxury เบาะนั่งคู่หน้าหุ้มด้วยวัสดุกึ่งหนังแท้สีดำใหม่ Soft Touch เดินด้ายสีครีม ครอบทับโครงเบาะทรงเดิมที่สบายค่อนข้างกระชับ สำหรับคนขับปรับระดับสูง-ต่ำ และเอนด้วยระบบไฟฟ้า 6 ทิศทาง ส่วนฝั่งคนนั่งอาจจะยังต้องช่วยตัวเองด้วยการปรับแบบธรรมดา คั่นกลางด้วยกล่องคอนโซลกลางสามารถใส่ของจิปาถะได้ตามใจชอบ พร้อมที่ท้าวแขนหุ้มด้วยวัสดุหนังสีดำเดินด้ายครีมช่วยลดความเมื่อยล้าในการขับขี่และโดยสาร

ISUZU MU-X Blue Power

ISUZU MU-X Blue Power

เบาะหลังตอน 2 หุ้มด้วยวัสดุกึ่งหนังแท้สีดำ Soft Touch เดินด้ายสีครีมๆ เมื่อเข้าไปนั่งแล้ว นั่งสบายเหยียดขาได้เต็มที่ด้วยการปรับเอนได้พร้อมหมองรองศีรษะ 3 จุดปรับได้ พร้อมที่ท้าวแขน หลังกล่องคอนโซลกลางเดิมเป็นที่วางแก้วกลายเป็นปลั๊กเสียบชาร์จไฟฟ้าแบบ 220V และ USB 2 ช่อง สำหรับคนที่บ้างานหอบ Notebook มาทำงานระหว่างเดินทางกับ ชาร์จมือถือ แบบเต็มได้เร็วทันใจ

เบาะตอน 3 นั่งสบายพร้อมหมอนรองศีรษะปรับได้ หุ้มด้วยวัสดุกึ่งหนังแท้สีดำส่วนการเข้าไปนั่งเบาะตอน 3 ทำได้โดยการปรับพับเบาะตอน 2 แบบจังหวะเดียวจบ และถ้าอยากบรรทุกของก็สามารถพับเบาะตอน 2 แบบ 60/40 กับ ตอน 3 แบบ 50/50  เพิ่มพื้นที่ใส่ของชิ้นใหญ่ได้ๆทั้ง ทีวี LED กับจักรยาน ขนาดใหญ่มากได้เต็มที่ และจุดวางแก้วน้ำของ MU-X Blue Power นี้กลับให้ถึง 12 ตำแหน่ง(รวมที่ท้าวแขนสามารถใส่แก้วน้ำได้ 2 ตำแหน่ง) สะใจคนกระหายน้ำเลยทีเดียว

ISUZU MU-X Blue Power

แผงหน้าปัดยังคงใช้งานดีไซน์เดียวกับกระบะ D-MAX Blue Power รวมถึงแผงประตูขึ้นรูป แต่มีการปรับรายละเอียดเล็กๆน้อย ตั้งแต่ แผงมาตรวัดเรืองแสงใหม่ Super Vision แบบ 3D  พร้อมหน้าจอ Color Display สี MID แสดงข้อมูลของตัวรถและสถานะของฟังก์ชันต่างๆ อย่างครบครัน พร้อมไฟบอกตำแหน่งเกียร์ ขนาดใหญ่ให้การมองเห็นได้ดีขึ้น พวงมาลัย 3 ก้าน ดีไซน์คุ้นเคย หุ้มด้วยวัสดุหนังแบบมีรูลายสปอร์ต คับคั่งด้วยปุ่มการทำงานเครื่องเสียงในฝั่งซ้ายมือ ส่วนฝั่งขวาไร้สวิตช์ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control โดยออพชั่นดังกล่าวจะอยู่ในรุ่น 3.0 Ddi Blue Power 4WD เท่านั้น ปิดท้ายด้วยปุ่ม Push Start เพียงปลายนิ้วสัมผัส

 

ISUZU MU-X Blue Power

คอนโซลกลางนอกจากแผงสวิตช์เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมแอร์บนหลังคาทั้งตอน 2 กับ ตอน 3 ทำงานแยกกับแอร์ในส่วนหน้าด้วยสวิตช์เปิด-ปิดการทำงาน เย็นทั่วคันแบบถึงใจ โดยคันที่เราได้มาทดสอบนั้นเป็นรุ่นที่ติดตั้งเครื่องเล่น DVD จอสัมผัสขนาด 8 นิ้วสามารถเชื่อมต่อ Smart Phone ที่รองรับทั้ง IOS กับ Android ได้ มีฟังก์ชั่นหลากหลายเช่น ระบบนำทาง I Smart Navi Thailand เป็นต้น

แต่คันขายจริงติดตั้งเครื่องเล่น DVD พร้อม Navigator ใหม่ล่าสุดรุ่น DNX7150BT ขนาด 7 นิ้ว จาก KENWOOD รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายกับสมาร์ทโฟน Air Mirroring ผ่าน Wifi Dongle รองรับทั้งเครื่องเล่น MP3, Flash Drive และสมาร์ทโฟน ระบบ Bluetooth เชื่อมต่อระบบโทรศัพท์ เชื่อมต่อเพลง ได้ส่วนช่องเสียบ USB HDMI ยังอยู่เช่นเดิม รวมถึงจอภาพสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ขนาด 10.5 นิ้ว เอาใจเจ้าจอมซนตัวเล็กดูการ์ตูน ดูหนังเพลินอุราในทุกการเดินทาง ลำโพงที่ติดมานั้นใช้ลำโพง ของ KENWOOD ที่ใจดีให้มากถึง 6 ตัวพร้อมลำโพงบนเพดาน Roof Speaker อีก 2 ตัว ตลอดการเดินทางถึงจะไม่ใช่นักฟังระดับเทพ แต่ยอมรับเลยว่าเสียงดีจน ไม่ต้องไปอัพเกรดหาลำโพงคุณภาพ พรีเมี่ยมเกรดสูงอีกต่อไป

ISUZU MU-X Blue Power

อีกหนึ่งออพชั่นเด็ดครั้งแรกในกลุ่มอเนกประสงค์หรู ด้วยกระจกมองหลัง Auto สามารถตัดแสงแบบอัตโนมัติในยามขับรถเวลากลางคืนด้วยพร้อมกล้องบันทึกภาพด้านหน้ารถ DVR ติดตั้งในกระจกมองหลัง Auto นั่นเอง สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ขณะขับขี่ได้ทุกเวลา เสมือนหลักฐานชิ้นสำคัญในการลดข้อพิพาทกับคู่กรณี การใช้งานอาจยุ่งยากเสียหน่อยช่วงที่ต้องมองกระจกและจอภาพในเวลาเดียวกันซึ่งอาจสร้างความรำคาญได้ สามารถกดปุ่มปิดได้ทันทีเพียง 10 วินาที แต่การบันทึกยังคงอยู่ ด้วยตราแมวสีแดงจะกระพริบรวมถึงบันทึกได้นานสุดประมาณ 4 -8 ชั่วโมงครึ่ง ขึ้นอยู่กับการปรับความละเอียดของภาพที่แตกต่างกัน

ISUZU MU-X Blue Power

ISUZU MU-X Blue Power

เครื่องยนต์ดีเซลค่าย ISUZU ขึ้นชื่อในด้านความทนทาน ความแรงและความประหยัดที่รักษามาตลอด ตั้งแต่ยุคมังกรทอง จนถึง ยุค Super Commonrail สายพันธุ์แท้ ล่าสุดกับยุค Blue Power ที่ขจรไกลทั่วไทยกับ ฉายา “จิ๋วแต่เจ๋ง” ด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบแปรผัน VGS รหัส RZ4E-TC ขนาด 1.9 ลิตร 4 สูบ กำลังสูงสุด 150 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,800-2,600 รอบ/นาที พร้อมอัตราการปล่อยก๊าซ CO2 : 184 กรัม/กม. โดยมาแทนเครื่องยนต์ดีเซลเดิม 2.5 ลิตรรุ่น 4JK1-TCX นั่นเอง (136 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตรที่ 1,800-2,800 รอบ/นาที) ระบบส่งกำลังเป็นระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด รุ่น AWR6B45 เด่นในเรื่องระบบโอเวอร์ไดร์ฟที่ให้ถึง 2 ตำแหน่ง ทั้งตำแหน่งเกียร์ 5 กับ เกียร์ 6 สุนทรีด้วยระบบ Rev Tronic บวก/ลบ พร้อมอัตราทดเดียวกันกับกระบะ D-MAX เน้นความสนุกสนานในการขับขี่ ตามตารางดังนี้

 

อัตราทดเกียร์

เกียร์ 1

3.600

เกียร์ 2

2.090

เกียร์ 3

1.488

เกียร์ 4

1.000

เกียร์ 5

0.687

เกียร์ 6

0.580

เกียร์ถอยหลัง

3.732

อัตราทดเฟืองท้าย

4.100

 

ISUZU MU-X Blue Power

สมัยตอนขับกระบะ D-MAX Blue Power 1.9 เกียร์อัตโนมัติ กำลังเครื่องบวกกับน้ำหนักตัวรถเพียง 1,830 กก. ความแรงความว่องไวมีให้เห็นตลอดเวลาทั้งช่วงขับรถทางไกล แต่เมื่อมาอยู่ในร่างรถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่งแถมแบกน้ำหนักเกือบ 2 ตัน (1,945 กก.) ความกระฉับกระเฉงอาจหายไปบ้างแต่ไม่ถึงกับเลวร้าย ยังสามารถขับแบบชิวๆสบายๆ เช่นเดิม การเร่งแซงยังทำผลงานได้น่าพอใจ ถือได้ว่ามันแรงตามตัวของมันเอง แถมเรี่ยวแรงดีกว่าเครื่องเดิม 2.5 ลิตร 136 แรงม้า ด้วยซ้ำ

 

ตารางแสดงอัตราการทำงานของเครื่องยนต์

ความเร็วที่ขับขี่ (กม./ชม.)

รอบเครื่องยนต์ (รอบ/นาที)

90

1,500

100

1,600

110

1,800

120

2,000

 

ISUZU MU-X Blue Power

การเก็บเสียงนั้นทำคะแนนได้ดี ในช่วงรอบเดินเบาจนถึงความเร็วไม่เกิน 110 กม./ชม. แต่พอช่วงตั้งแต่ 120 กม./ชม. ขึ้นไป มีเสียงเล็ดลอดเข้ามานิดนึง รวมถึงเสียงเทอร์โบที่ทำงานตลอดเวลาอาจสร้างความรำคาญบ้างในการขับขี่ แต่ภาพรวมไม่เป็นอุปสรรคในการเดินทาง ยังสามารถฟังเพลง พูดคุยสนทนาได้สบายๆ เพลินๆตลอดการเดินทาง

เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ถึงแม้จะเป็นเกียร์ลูกเดียวกันกับกระบะ D-MAX Blue Power การเปลี่ยนเกียร์ยังตอบสนองดีทำงานฉลาดเฉลียว ในทุกความเร็ว เมื่อเข้าโหมด บวก/ลบ เพื่อเรียกกำลังเร่งแซง บุคลิกอาจแตกต่างจากตอนอยู่ในกระบะคือการตอบสนองค่อนข้างไม่ทันใจฉะนั้นควรใช้เกียร์ D สำหรับการเร่งแซง ส่วนอาการ Engine Brake ที่เคยอยู่ในกระบะ กลับมีให้เห็นอีกครั้งในร่างอเนกประสงค์หรู โดยจะคอยดึงกำลังของเครื่องยนต์ ช่วยในการชะลอทั้งในช่วงลงเขาหรือลดความเร็ว แต่ว่า Engine Brake จะทำงานในช่วงความเร็วลดลงมาถึง 60 กม./ชม.

อัตราเร่งในโหมด Performance Test มีเรื่องต้องให้ตื่นเต้น เมื่อระบบเกียร์อัตโนมัติลูกใหม่ ที่ให้ความฉลาดเฉลียวบวกกับเครื่องเล็กแต่ใจใหญ่กับน้ำหนักเกือบ 2 ตัน ส่งผลทำให้ด้วยตัวเลขออกมาเป็นดังนี้

ตารางแสดงอัตราเร่ง ISUZU MU-X 1.9 Ddi Blue Power รุ่น DA 6 Auto 2WD

ความเร็วที่ขับขี่ (กม./ชม.)

ครั้งที่ 1 (วินาที)

ครั้งที่ 2 (วินาที)

ครั้งที่ 3 (วินาที)

เฉลี่ย (วินาที)

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.

12.92

12.99

13.11

13.00

 

ISUZU MU-X Blue Power

ความพิเศษที่ยกมาจากกระบะ D-MAX Blue Power ไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติหรือ ISS (Idling Stop/Start System) นั่นเอง โดยจะตัดการทำงานเครื่องยนต์ชั่วขณะ และกลับมาทำงานโดยอัตโนมัติเมื่อแตะคันเร่ง เพื่อทั้งลดมลพิษ และความประหยัดน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ระบบนี้จะทำงานเมื่อระดับอุณหภูมิความร้อนต้องเกือบครึ่ง ความเร็วรถเกิน 10 กม./ชม. ขึ้นไปแล้วเหยียบเบรก ตำแหน่งเกียร์ต้องอยู่ในเกียร์ D และเงื่อนไขสุดท้ายคือต้องปิดแอร์สถานเดียว

ระบบนี้จะตัดการทำงานเพียง 2 นาทีหลังจากนั้นจะมีเสียงเตือนควรให้เครื่องยนต์ทำงานได้แล้ว แต่ทั่วๆไประบบนี้ เมื่อเปิดแอร์ แล้วหยุดรถระบบนี้ตัดการทำงานชั่วขณะทันที และหวังว่าระบบ ISS (Idling Stop/Start System) เวอร์ชั่นใหม่จะพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมเมื่อยู่ในรุ่นปรับโฉมในอนาคต

ระบบช่วงล่างเจ้า MU-X Blue Power เหมาะสมสำหรับครอบครัวและผู้นำยุคใหม่ที่ใส่ใจในเรื่องความสบายด้วยระบบช่วงล่างหน้าปีกนกอิสระสองชั้น คอยล์สปริง และโช้กอัพแก๊สพร้อมเหล็กกันโคลงทางด้านหน้า และด้านหลังยังคงใช้แบบคอยล์สปริงแบบ 5-Linkพร้อมโช้กอัพแก๊สและเหล็กกันโคลงด้านหลังและในการเซ็ตช่วงล่างครั้งนี้มาออกเน้นนุ่มนวลสบายๆ แต่อาจมีอาการเด้งๆบางในบางจังหวะ แต่ยังเป็นเอกลักษณ์ที่ถูกใจเหล่าประชาคม ISUZU มานาน จนไม่คิดเปลี่ยนใจไปหายี่ห้ออื่นๆ ด้านการเข้าโค้งจัดอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้เพราะส่วนหนึ่งมีระบบควบคุมการทรงตัว ESC เข้ามาช่วยด้วยจึงมั่นใจได้อีกระดับ

ระบบบังคับเลี้ยวใช้ระบบแบบแร็คแอนด์พิเนียนตามสมัยนิยม พร้อมพาวเวอร์แบบน้ำมันช่วยผ่อนแรง ในเรื่องน้ำหนักมีการเซ็ตมาให้น้ำหนักปานกลางไม่หนักมากไป แต่ความเร็วสูงๆ อาจมีอาการสั่นๆบ้างในช่วงความเร็ว 120 กม./ชม.ระยะพวงมาลัยอาจมีมีระยะฟรีบ้าง แต่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญแต่อย่างใด ผู้ชายขับได้ผู้หญิงขับดี เรื่องระยะวงเลี้ยวแคบสุดเพียง 5.7 เมตร สอบผ่านในเรื่องความคล่องตัวในทุกการใช้งาน

ISUZU MU-X Blue Power

ปิดท้ายด้วยการบริโภคน้ำมันที่ บอกได้เต็มปากว่า ทำผลงานดีไม่แพ้กระบะ D-MAX Blue Power ด้วยตัวเลขสิ้นแปลืองแบบดีงามตามท้องเรื่อง จากโปรแกรม Save Mode ทำได้ 14.09 กม./ลิตร จากระยะทางรวม 63.7 กม. และจัดน้ำมันดีเซลเต็มถังจากปั๊มแถวบางใหญ่ 4.519 ลิตร ใช้ความเร็วไม่เกิน 120 กม./ชม. ตามสภาพการใช้งานจริง ส่วนการใช้งานในเมืองได้ตัวเลข 10.03 กม./ลิตร

อัตราสิ้นเปลืองนอกเมืองทำตัวเลขสวยงามไม่แพ้กันด้วยตัวเลข 14.14 กม./ลิตร จากระยะทาง 737.9 กม. เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ- บุรีรัมย์ และเติมเข้าไปเต็มถัง 52.177 ลิตร นับว่าเป็นตัวเลขสิ้นเปลืองเหนือชั้นสมชื่อ ISUZU ที่รักษาเรื่องความประหยัดมาหลายปีและยังชูเรื่องนี้เป็นที่ 1 มาตลอด

ตารางแสดงอัตราประหยัด ISUZU MU-X 1.9 Ddi Blue Power รุ่น DA 6 Auto 2WD

โหมดการขับขี่

อัตราประหยัด (กม./ลิตร)

ในเมือง

10.03

Save Mode

14.09

นอกเมือง

14.14

 

ISUZU MU-X Blue Power

ISUZU MU-X Blue Power

สรุป……..อเนกประสงค์แห่งผู้นำเปลี่ยนโลก ที่ความสบายและความประหยัดยังเป็นต่อเสมอ

ถึงหน้าตายังคงใช้หน้าเดิมเหมือนเปิดตัวครั้งแรก แต่ก็ปรับลุคส์ให้เท่ไปอีกแบบในสไตล์รถหรู Luxury ไม่ว่าจะเป็นล้อลาย Diamond Cut การปรับโทนสีอ่อนให้ดูสุขุมกว่าเดิมแต่สำหรับไฟ DRL นั่น ควรจะให้เปิดสว่างเมื่อทำงานคู่กับไฟหน้าในยามค่ำคืนด้วยจะเป็นการดี

อุปกรณ์ออพชั่นที่ติดจากโรงงงานไม่ว่าจะเป็น เบาะนั่งกึ่งหนังแท้สีดำ เครื่องเล่น DVD จอใหญ่ 7 นิ้ว รวมจอเพดาน มาตรวัดเรืองแสง กล้องมองหลังอัตโนมัติพร้อมกล้องติดรถยนต์ในตัว นับเป็นข้าวของที่ประดับบารมีความหรู ทันสมัยได้อย่างสมศักดิ์ศรีโดยไม่สนว่าคนอื่นๆจะสวย มีเสน่ห์มากน้อยก็ตาม แต่ที่เทใจให้เต็มร้อยนั่นคือระบบ ปลั๊กเสียบชาร์จไฟฟ้าแบบ 220V และ USB 2 ช่องสมใจสาวกสมาร์ทโฟน ติดโลกโซเชี่ยว รวมถึงเบาะตอน 2 ตอน 3 สามารรถพับได้ขนของจุใจเป็นแน่แท้ ถึงจะขาด Cruise Control ในการขับทางไกลๆก็ตาม

ขุมพลัง 1.9 ลิตร 150 แรงม้า ตอบโจทย์คนเมือง ครอบครัว ผู้นำที่ชอบแรงพอดีๆ ถึงตัวรถจะมีนำหนักมากเกือบ 2 ตัน ยังให้ความสนุกในการขับขี่แรงไม่มีตก ถึงการเร่งแซงอาจไม่ทันใจบ้างก็ตาม ส่วนรอบเครื่องที่ปรับมาต่ำและเพียงพอและเรียกความสนใจมากขึ้น

การเก็บเสียงด้วยวัสดุที่หนาขึ้นตอบรับเครื่องยนต์เล็ก 1.9 ลิตร ทำผลงานในเรื่องความเงียบได้ดีขึ้น ถึงแม้เสียงการทำงานของเทอร์โบจะดังตลอดเวลาก็ตาม หวังว่าระบบเทอร์โบคงจะปรับปรุงพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ความประหยัดกลับเป็นประเด็นสำคัญที่ ISUZU ให้ความสำคัญมายาวนาน ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองที่ได้เฉลี่ย 10-14 กม./ลิตร ทั้งในเมือง นอกเมือง รวมถึงโปรแกรม Bonn Test Mode สร้างความประหลาดใจ ขึ้นไม่ใช่น้อย

ระบบเกียร์อัตโนมัติลูกใหม่นี้เป็น 6 สปีด และ โอเวอร์ไดรฟ์ 2 ตำแหน่ง พัฒนาให้ฉลาดดีขึ้น กลับจุดเด่นที่น่ายกย่องอีกอย่างนั่นคือ การมี Engine Brake ช่วยลดภาระการเหยียบเบรกในช่วงลงเขา ถึงแม้การเร่งแซงอาจไม่ทันใจก็ตามเพราะน้ำหนักรถเป็นปัจจัยสำคัญที่ลดความกระฉับกระเฉงไปบ้างและระบบห้ามล้อเป็นดิสก์เบรก 4 ล้อมีครีบระบายความร้อนพร้อมคาลิปเปอร์แบบลูกสูบคู่ที่ล้อหน้าพร้อมระบบเบรก ABS กระจายแรงเบรก EBD ที่ทำงานฉับไวขึ้น สามารถหยุดความแรงระดับ 150 แรงม้า ได้อย่างทันท่วงที เบรกได้ตามใจสั่ง และทั้งหมดทั้งมวลนี้จึงกล่าวได้เลยว่า ISUZU MU-X 1.9 Ddi Blue Power เป็นอเนกประสงค์หรูเครื่องเล็กที่ครองใจผู้นำอย่างแท้จริง

ISUZU MU-X Blue Power

 

เรื่องและขับทดสอบโดย สุกิจ เลิศธนะแสงธรรม (นายเต้ย)

ขอขอบคุณ สมาชิกที่ติดตามเว็บไซต์เรา ให้ความอนุเคราะห์เอื้อเฟื้อมาให้ใช้งานและทดสอบ

 

รถทดสอบ   ISUZU MU-X 1.9 Ddi Blue Power รุ่น 1.9 DA 6 Auto 2WD 

 

ราคาจำหน่าย 1,324,000 บาท (สีขาวมุก เพิ่ม 12,000 บาท)

 

สิ่งที่ชอบ  >>> เครื่องยนต์ 1.9 ลิตร ยังคงให้มีสมรรถนะเยี่ยมยอดทั้งกำลังและให้ความประหยัดน้ำมันดีเด่น เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ฉลาดขึ้น ช่วงล่างที่นุ่ม ในสไตล์ ISUZU เด่นมิเสื่อมคลาย รวมถึง Engine Brake ที่ฉับไวในเรื่องชะลอความเร็วตอนลงเขา

สิ่งที่ไม่ชอบ >>> ความยุ่งยากในการใช้กล้องบันทึก อาจมีในช่วงแรกๆ ความนุ่มนวลของระบบช่วงล่างอาจไม่ถูกจริตเซียนอเนกประสงค์ที่ชอบใช้ความเร็วสูง ระบบหยุดการทำงานของเครื่องยนต์ชั่วคราวที่ต้องพัฒนาใหม่และลดเงื่อนไขการทำงานเช่นต้องปิดแอร์ และ การตอบสนองของระบบเกียร์ในช่วงเร่งแซงเมื่อเข้า โหมด +/- ควรพัฒนาให้ดีกว่านี้ รวมถึงระบบไฟ DRL ควรเพิ่มโหมดเปิดสว่างคู่กับเปิดไฟหน้าในยามค่ำคืน

 สิ่งที่อยากให้มี >>> ออพชั่นบางรายการอยากให้เพิ่มมากนี้ ทั้งระบบล็อกความเร็ว Cruise Control ในรุ่นเครื่อง 1.9 ไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC) และถุงลมนิรภัยรอบคัน เป็นต้น

คำแนะนำ สำหรับผู้ซื้อ >>> แบรนด์ ISUZU ขึ้นชื่ออยู่แล้วในเรื่องความไว้ใจความเชื่อใจที่มีต่อประชาคมฯ มาตลอด 60 ปี ถึงแม้ ISUZU MU-X 1.9 Ddi Blue Power โดดเด่นทั้งหน้าตา ข้าวของติดจากโรงงาน เครื่องยนต์เล็กแต่ให้สมรรถนะดีขึ้น มีความประหยัดมากขึ้น มีกำลังพอดีๆ สำหรับใช้งานทั่วๆไป

ISUZU MU-X Blue Power

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com 

 

5 เรื่องน่าสนใจ