Deft Versus: TOYOTA VIOS G vs. HONDA CITY SV+: คู่มวยสุดร้อนแรงแห่งตลาด Subcompact

  • โดย : พิสน ลีละหุต
  • 18 พ.ค. 60
  • 52,291 อ่าน

ถ้าให้พูดถึงรถยนต์ขนาดเล็ก หรือภาษารถยนต์เรียกว่า Subcompact Car จะไม่พูดถึงเจ้าตลาดยอดนิยมอย่าง TOYOTA VIOS และ HONDA CITY ก็คงไม่ได้ ซึ่งบังเอิญ (หรือตั้งใจไม่รู้) ที่ทำให้ทั้ง 2 รุ่นนี้ ได้ทำการปรับโฉมเพื่อลงตลาดในเวลาใกล้เคียงกัน โดยทาง HONDA CITY ชิงเปิดตัวไปก่อนตั้งแต่กลางเดือนมกราคม แต่คล้อยหลังไม่นาน TOYOTA VIOS ก็เปิดตัวตามมาติดๆ ซึ่งทั้ง 2 รุ่นในไซส์เดียวกันนี้ เป็นการแต่งหน้าทาปาก หร

Toyota Vios versus Honda City

แรกเห็น TOYOTA VIOS มีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนกับรูปลักษณ์ดีไซน์ทั้งภายนอกและภายใน ด้านหน้ากับกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ ออกแบบให้มีลายเส้นสีดำตัดกับสีตัวรถได้อย่างลงตัว ดูทันสมัยและดูกว้างกว่าเดิม ไฟหน้าใหม่แบบโปรเจคเตอร์พร้อมไฟ Light Guide ในโคม ทำให้เวลาเปิดไฟหรี่ดูหรูหราล้ำสมัย รวมไปถึงกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ช่วยเสริมภาพลักษณ์ความสปอร์ตมากขึ้น แถมยังเพิ่มไฟ Daytime Running Light ได้อย่างสะดุดตาทั้ง 2 ฝั่ง และที่บริเวณกันชนหน้าด้านล่างยังติดตั้งไฟตัดหมอกมาให้อีกด้วย ช่วยในการมองเห็นยามหมอกลงจัด หรือฝนตกหนัก เพื่อทัศนวิสัยในการมองเห็นที่ดีขึ้น สัมผัสได้ถึงความแตกต่างใหม่ชัดเจนใน NEW TOYOTA VIOS แถมยังเสริมภาพลักษณ์ให้ดูโฉบเฉี่ยวมากขึ้น
ส่วนของ HONDA CITY นั้น ด้านหน้ามากับกระจังหน้าดีไซน์ใหม่คล้ายคลึงกับรุ่นพี่ที่ออกมาก่อนหน้านี้ ไฟหน้าแบบ LED ไฟ Daytime Running Light ในโคมไฟหน้า และกันชนหน้าใหม่พร้อมติดตั้งไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED ทำให้ภาพรวมของรถดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น

 Toyota Vios versus Honda City

Toyota Vios versus Honda City

เมื่อ 2 ยักษ์ใหญ่เปิดตัวปรับโฉมมาพร้อมๆ กัน หลายคนมักจะถามว่า แล้วควรเลือกตัวไหนดีล่ะ ซึ่งคำถามนี้ ยากน้อยกว่าคำถามว่า ไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน นิดเดียว เพราะรถทั้ง 2 รุ่นนี้ก็ต่างมีแฟน หรือความคิดเห็นในแต่ละฝั่งอย่างมีเหตุผลกันทั้งคู่ ขนาดบรรดานักข่าวสายยานยนต์ ยังให้ความเห็นไม่ตรงกันเลย บังเอิญว่าทีมงาน Autodeft ได้มีโอกาสทำการทดสอบแล้วทั้ง 2 รุ่น ในระยะเวลาที่ใกล้เคียงกัน และได้ทำการทดสอบในสนามพีระ เซอร์กิตเหมือนกัน จึงได้สรุปการขับขี่ในแต่ละรุ่นออกมาว่า รุ่นไหนขับเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อให้ผู้อ่านที่ติดตามจะได้รับทราบข้อมูลไปพร้อมๆ กันครับ


การทดสอบครั้งนี้ ค่อนข้างจะใช้งานในลักษณะใกล้เคียงกัน โดยมีการขับบนสภาพถนนธรรมดาที่ใช้ในการเดินทางจริงทั่วไปจากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางถนนมอเตอร์เวย์มุ่งหน้าสู่จังหวัดชลบุรี เพื่อเดินทางตรงไปยังสนามแข่งรถยนต์ พีระ เซอร์กิต จากนั้นก็ทำการทดสอบใช้วิ่งในสนาม พยายามรีดเอาสมรรถนะออกมาให้ได้มากที่สุด ผ่านการทดสอบของทีมงาน Autodeft ทั้ง 3 คนคือผม, TopTaro และนายเต้ย จนได้ผลสรุปออกมาดังนี้ครับ

Toyota Vios versus Honda City

TOYOTA VIOS G:
อัตราเร่งของเครื่องยนต์: ด้วยเครื่อง 2NR-FBE / 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i ขนาด 1.5 ลิตร 108 แรงม้า มีอัตราเร่งตอนใช้เกียร์ D ปกติดีกว่าเครื่องตัวเก่า VVT-I รหัส 1NZ-FE และเมื่อขยับเข้าสู่โหมด Manual สามารถทำการออกตัวได้ดีกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ปราดเปรียวดีเป็นลำดับต้นๆของเครื่องยนต์ในระดับเดียวกัน ช่วงขึ้นเนินก็สามารถเร่งขึ้นได้ทันใจ ด้วยระยะทางตรงในสนามที่ไม่ได้ยาวมากนัก ก็เพียงพอให้เร่งความเร็วได้สูงสุดถึง 130 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้เลย


การทำงานของเกียร์: เกียร์แบบ CVT 7 สปีด พร้อม Sequential Shift ชุดนี้ มีการเปลี่ยนมาตั้งแต่ปลายโฉมที่แล้ว สามารถตอบสนองได้ดี ขับสนุกมากขึ้น และการทำงานของเกียร์มีความนุ่มนวลมากกว่าเดิม ในสนามมีการใช้งานแบบ Manual โดยอัดเต็มที่เพื่อให้เกียร์เปลี่ยนเอง ซึ่งเกียร์จะเปลี่ยนให้เมื่อรอบสูงถึง 6,000 รอบ/นาที ทำให้อัตราเร่งขึ้นได้เร็วอย่างต่อเนื่อง และเมื่อถึงทางโค้ง มีการสับเกียร์ลงเพื่อใช้ Engine Brake ก็สามารถดึงรถให้ลดความเร็วได้ดั่งใจ แต่ก็มีระบบป้องกันไม่ให้ลดเกียร์ลงเร็วเกินกว่าความเร็วที่เป็นอยู่ ถือว่ามีการตอบสนองได้ดี ส่วนเมื่อใช้งานในทางปกติ หลังจากปล่อยคันเร่งได้ระยะหนึ่ง เกียร์จะช่วยดึงกำลังเครื่องให้ลดความเร็วลดลง สามารถช่วยลดการใช้เบรกได้ดีเลย

Toyota Vios versus Honda City

การควบคุม, การทรงตัว, เข้าโค้ง: ยามแรกที่สัมผัสพวงมาลัย อาจจะรู้สึกหน่วง หนืด ไม่เบามือไปบ้าง แต่เมื่อยามที่ขับในสนามที่ต้องการความเร็วสูง และเข้าโค้งแบบเร็ว กลายเป็นว่าความหน่วงนี่แหละ ช่วยให้การเข้าโค้งในสนามด้วยความเร็วสูง สามารถควบคุมรถได้อย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะหมุนพวงมาลัยไปทิศทางไหน ตัวรถก็สามารถวิ่งไปได้อย่างถูกต้องตามที่เราต้องการ ส่วนการเข้าโค้ง ด้วยระบบควบคุมการทรงตัว VSC ทำให้การเข้าโค้งไม่มีอาการท้ายปัด (Oversteer)  , หน้าดื้อ (Understeer) ให้เห็นเลยถึงแม้ช่วงเข้าโค้งจะเข้าด้วยความเร็วระดับ 80 – 100 กม./ชั่วโมง ก็ตาม ยิ่งถ้าเทียบกับ VIOS ตัวเก่าที่ยังไม่มีระบบ VSC แล้ว ตัวใหม่นี้ทำได้ดีกว่าหลายเท่าตัวนัก


การเบรก: ด้วยที่ TOYOTA VIOS G คันนี้ เน้นเสริมอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยมาอย่างเต็มที่ ให้ดิสก์เบรกมาทั้ง 4 ล้อ ดังนั้นการเบรกจึงมั่นใจได้เต็มที่ กดเบรกเมื่อไหร่ รถก็ลดความเร็วได้ตามต้องการ ไม่ว่าเป็นการขับขี่เดินทางไกลที่มีการใช้ความเร็วสูง การขับขี่ใช้งานในเมือง หรือในกรณีที่ต้องการเบรกแบบฉุกเฉินแล้วละก็ ระบบดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อจึงให้ความมั่นใจ ทั้งยังถูกเสริมด้วยระบบเบรก ABS/EBD และระบบเสริมแรงเบรก BA ที่ VIOS มีให้ ก็ช่วยให้การควบคุมรถในยามเบรกนั้นมีระยะเบรกที่สั้น และอยู่ในเส้นทางได้เสมอ ยิ่งเสริมด้วยการใช้งาน Engine Brake ของผู้ขับขี่ด้วยแล้ว การลดความเร็วก่อนเข้าโค้ง ก็สามารถทำได้ดีแบบสบายๆ ไม่ต้องลุ้นอะไรมาก ซึ่งใน TOYOTA VIOS ใหม่นี้ สามารถตอบสนองการขับขี่ได้อย่างครบถ้วน เหมาะสำหรับทั้งการขับขี่ในเมืองและขับขี่ทางไกล ไม่ว่าจะเป็นในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่นหรือเส้นทางนอกเมืองที่ต้องการสมรรถนะในการขับขี่และพละกำลังของเครื่องยนต์ก็หมดห่วงได้เลย เมื่อเปรียบเทียบกันกับรถยนต์ในกลุ่มแล้วถือว่าคุ้มค่าครบครันเลยทีเดียว

Toyota Vios versus Honda City

Toyota Vios versus Honda City

อัตราสิ้นเปลือง: อัตราการบริโภคน้ำมัน ทดสอบด้วยการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอลล์ 91 แบ่งเป็นการใช้งานในเมืองผสมนอกเมือง ใช้ความเร็วย่าน 100 – 130 กม./ชม. ผสมรถติดและย่านความเร็วต่ำ ได้อยู่ที่ 13.6 กม./ลิตร ส่วนในสนามแข่ง ที่รีดสมรรถนะรถออกมามากๆ ย่ำคันเร่งอย่างเต็มที่ ได้อัตราการบริโภคอยู่ที่ 7.5 กม./ลิตร


ออพชั่นเสริมที่น่าสนใจ: นอกจากอุปกรณ์ต่างๆ มีให้ครบไม่ว่าจะเป็น ปุ่มปรับระบบเครื่องเสียงที่พวงมาลัย พร้อมกับหุ้มหนังที่พวงมาลัยทำให้จับแล้วกระชับมือมากขึ้น ส่วนออฟชั่นเด่นๆ ของคันนี้ก็จะเป็น เครื่องเล่น DVD พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย (Bluetooth) พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB ที่สามารถเพิ่มระบบนำทางได้ ตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้งานได้อย่างหลากหลาย ส่วนการถอยจอดเพิ่มความมั่นใจให้ผู้ขับได้มากขึ้น VIOS ใหม่ มีทั้งกล้องมองหลัง และเซ็นเซอร์กะระยะถอยหลัง ทำให้การถอยทุกครั้งมั่นใจไร้กังวล มีความแม่นยำ และลดการเกิดอุบัติเหตุได้ดียิ่งขึ้น ภายในห้องโดยสารยังได้รับการตกแต่งด้วยสี Rose Gold สุดหรู มอบความรู้สึกแปลกใหม่และแตกต่างในรถยนต์ระดับไม่เกิน 8 แสนบาท ได้อย่างลงตัว

Toyota Vios versus Honda City

ส่วนการทดสอบ HONDA CITY SV+ สรุปได้ดังนี้ครับ
อัตราเร่งของเครื่องยนต์: HONDA CITY มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน I-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร มอบกำลังสูงสุด 117 แรงม้า การทำความเร็วและขับขี่โดยทั่วไปนั้นถือได้ว่าเพียงพอต่อการใช้งานไม่ได้รู้สึกว่ารถอืดอาดแต่อย่างใด ช่วงการเร่งความเร็วตั้งแต่หยุดนิ่งไปจนระดับ 100-120 กม./ชม. ความเร็วไหลต่อเนื่องขึ้นไปค่อนข้างดีพอสมควร ไม่ได้ถึงกับให้ความรู้สึกที่แรงมากแบบหลังติดเบาะ แต่ค่อนข้างไหลไปได้เรื่อยๆ หรือแม้ในสนามที่ได้วิ่งทดสอบที่ค่อนข้างมีโค้งเยอะ และช่วงทางตรงยาวเพียงจุดเดียวที่พอจะทำความเร็วได้ประมาณเกือบ 130 กม./ชม. ก่อนที่จะต้องเบรกเพื่อชะลอก่อนเข้าโค้งซ้ายช่วงลงเนิน


การทำงานของเกียร์: ด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT พร้อมแป้น Paddle Shift ที่บริเวณหลังพวงมาลัย ทำให้ผู้ขับสามารถเลือกเปลี่ยนเกียร์ได้ทันทีที่ต้องการ แม้ในโหมดการขับเกียร์ D ก็สามารถสั่งเปลี่ยนเกียร์ขึ้น/ลงได้ และอย่างที่ได้กล่าวไว้เบื้องต้นว่าความรู้สึกในการเร่งความเร็วของเกียร์และการตั้งค่าแบบนี้ ทำให้การขับรถเกียร์ CVT ใน HONDA CITY ไม่ได้รู้สึกว่าตัวรถอืดอาดแบบที่เราอาจคุ้นเคยกับลักษณะของเกียร์แบบ CVT แต่กลับให้ความรู้สึกใช้งานง่ายในยามขับขี่ ให้ความต่อเนื่องกับความเร็วแบบไหลๆ ในช่วงต้นไปจนช่วงกลาง และเมื่อต้องลงสนามการใช้โหมด S ในการขับก็ช่วยเพิ่มกำลังได้ดีกว่าโหมดปกติ

Toyota Vios versus Honda City

การควบคุม,  การทรงตัว, เข้าโค้ง: ช่วงล่างถูกเซ็ตมาให้เหมาะกับการใช้งานแบบครอบครัว ผู้โดยสารจึงสัมผัสได้ถึงความนุ่มนวล ให้ความรู้สึกนั่งสบายในการเดินทางช่วงความเร็วต่ำ ซึ่งช่วงล่างเองก็สามารถซับแรงกระแทกได้ดีพอสมควร ในการใช้งานทั่วไปถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว และยังได้ติดตั้งระบบตัวช่วยอย่างระบบควบคุมการทรงตัว (VSA) มาให้อีกด้วย หากแต่เมื่อวิ่งทดสอบในสนามที่ต้องการสมรรถนะในการควบคุมมากกว่านี้ อาจจะต้องการช่วงล่างที่ค่อนข้างไปทางหนึบแน่นเพิ่มขึ้นกว่านี้ และเนื่องจากน้ำหนักพวงมาลัยที่ค่อนข้างเบา พวงมาลัยไฟฟ้า (EPS) ให้น้ำหนักที่ควบคุมง่ายเมื่อใช้งานในความเร็วปกติ แต่เมื่อวิ่งทดสอบในสนามการที่น้ำหนักพวงมาลัยเบาอาจจะไม่เหมาะสักเท่าไหร่ ซึ่งจะส่งผลถึงความแม่นยำในการควบคุมรถและอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นในทางโค้ง


การเบรก: ในแง่อุปกรณ์เสริมเพื่อความปลอดภัยนั้น HONDA CITY มาพร้อมกับระบบเบรกแบบดิสก์เบรกที่คู่หน้าเท่านั้น ส่วนคู่หลังนั้นเป็นดรัมเบรก น้ำหนักในการเหยียบเบรกนั้นถูกเซ็ตมาได้ค่อนข้างเหมาะกับการใช้งานในเมืองย่านความเร็วปกติ ให้ความรู้สึกมั่นใจในการลงน้ำหนักเพื่อเบรกในการใช้งานทั่วไป และ HONDA CITY ยังมาพร้อมระบบเบรก ABS และระบบกระจายแรงเบรก EBD ซึ่งเมื่อพูดถึงการนำมาวิ่งทดสอบในสนาม รวมถึงใครที่ต้องการประสิทธิภาพสูงให้ความมั่นใจในเรื่องของระบบเบรกแล้วละก็ อาจต้องการระบบเบรกแบบดิสก์เบรกทั้งสี่ล้อ เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่และหยุดรถอย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น


อัตราสิ้นเปลือง: อยู่ภายใต้การใช้งานเดินทางออกนอกเมือง มีช่วงที่รถติดหนักๆ อยู่ 2-3 ช่วง คล้ายกับสถานการณ์ในเมือง รวมไปถึงช่วงที่รถว่างพอที่จะสามารถทำความเร็วได้ถึง 120 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยที่ 13.22 กม./ลิตร และตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองหลังจากที่ขับทดสอบกันในสนามอยู่ที่ 7.8 กม./ลิตร กับการวิ่งทดสอบและเรียกกำลังกันแบบเต็มที่

Toyota Vios versus Honda City

ออพชั่นเสริมที่น่าสนใจ: นอกจากอุปกรณ์ต่างๆ ที่เป็นมาตรฐานทั่วไปแล้ว ออพชั่นเด่นๆ ของคันนี้ก็จะเป็นแป้น Paddle Shift เปลี่ยนเกียร์ได้ที่พวงมาลัย และ Cruise Control ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ, พวงมาลัยปรับระดับได้ 4 ทิศทาง ด้านระบบความบันเทิงสั่งการและควบคุมผ่านหน้าจอขนาด 6.8 นิ้วแบบสัมผัส มีช่องเสียบ HDMI และ USB มาให้ แต่ไม่รองรับการใช้งานแผ่น DVD การถอยจอดติดตั้งกล้องมองหลังมาให้เพื่อเพิ่มความมั่นใจ แต่หากใครที่คุ้นเคยกับเซ็นเซอร์กะระยะถอยหลังแล้วนั้นจะไม่ได้มีติดตั้งมาใน HONDA CITY รุ่นนี้

ทั้งนี้ขอสรุปภาพคร่าวๆ รายละเอียดของทั้ง 2 รุ่นตามตารางนี้ครับ

Toyota Vios versus Honda City

ภาพรวมการขับขี่ของทั้ง 2 คันถือว่าใกล้เคียงกันมาก ถ้าใช้งานแบบทั่วไปแทบจะหาข้อแตกต่างกันไม่ได้เลย ขนาดผู้ทดสอบทั้ง 3 คนยังมีมองต่างกันในบางมุมเลย ดังนั้นถ้าจะให้บอกว่าคันไหนดีกว่าคงจะตอบไม่ได้ เพราะทั้ง 2 ค่ายต่างมีจุดเด่น จุดด้อย ที่แตกต่างกันออกไป ตามความชื่นชอบส่วนตัวของแต่ละบุคคลเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อ ส่วนเรื่องออพชั่นเสริมในตัวรถ ก็มีหลายอย่างที่เหมือนกันและแตกต่างกัน อยู่ที่ผู้ซื้อเองแล้วว่าต้องการเลือกแบบใด และก่อนจะเลือกนั้น ขอแนะนำให้ลองด้วยตัวเองจะดีที่สุด เพราะความชอบของแต่ละคน ไม่เหมือนกันจริงๆ ครับ

Toyota Vios versus Honda City

Toyota Vios versus Honda City 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com 

5 เรื่องน่าสนใจ