Girls Review: Honda Civic 2016 รักทุกตัวตน ในแบบที่คุณต้องการ

  • โดย : Autodeft
  • 20 มิ.ย. 59
  • 19,646 อ่าน

หายหน้าไปนานเลยนะคะ ..ช่วงนี้พอดีเดือนงานยุ่งมากๆ ก็เลยไม่มีเวลามาพูดคุยเรื่องราวรถยนต์กับเพื่อนๆเลย แต่ผ่านมากว่าเดือนแล้ว และ Bonn ก็มาทวงเดือนเรื่องรีวิว Civic ว่าจะส่งให้เมื่อไร ..แหะๆ ที่จริงมันก็ผ่านมานานแล้วล่ะ แต่ก็ยังประทับใจไม่รู้ลืม

 

ความประทับใจ   Honda  Civic   ใหม่ มีมาตั้งแต่ช่วงวาเลนไทน์ ตอนนั้นจำได้ เดือนกับ  Bonn   ควบ  Honda  Accord   ไฮบริด (ตัวเก่า)  ไปให้ท่านชายเขาขับ   Civic  ... ที่สนามช้าง... เดือนก็นึกว่าอ่อเดี๋ยวคงขับบนถนนด้วย แต่พอรับ   Bonn   กลับมา เขาบอกว่า  เขาให้ขับแค่ 2  รอบสนามเท่านั้น แถมเดือนยังไม่เห็นรถ เว้นแต่ในภาพที่ออกมาในรีวิวอย่างจำนวนจำกัด 

 

เวลาผ่านในที่สุด   Bonn  ก็นำ   Honda Civic   ใหม่รุ่น  1.5  Turbo RS  มาเสียที คำถามแรกที่เดือนถามบอนด์เลยคือ “แรงป่ะ?” แล้วคำถามนี้เดือนก็ได้ยินมาตลอดเรื่อยๆเลยค่ะ หลังจากที่เพื่อนๆเดือนทราบว่าเดือนได้มีโอกาสทดลองขับพ่อรูปหล่อคันนี้  ก็แหมม .. ทางฮอนด้าเค้าเล่นยัดเทอร์โบมาให้ หลายคนก็ต้องใคร่อยากรู้จริงไหมคะ

ก่อนจะตอบว่าแรงไหม ... มาว่ากันที่ทรวดทรงองค์เอวหนุ่มเนื้อหอมกันก่อน เดือนเคยเห็นบนถนนครั้งนึงค่ะ ยังสะกิดบอนด์เลยว่า “ เหมือนรถแบทแมนเลยอ่ะเธอ” 

มองดูด้านนอก ไม่ว่าจะเป็น โคมหน้าแบบ LED หรือไฟ DRL และไฟเลี้ยว ที่ออกแบบมาไว้อยู่ในที่โคมเดียวกัน รู้สึกถึงความโฉบเฉี่ยวและดูสปอร์ตมากขึ้นค่ะ  ด้านข้างมือเปิดประตูเป็นโครเมี่ยมรมดำ ส่วนด้านหลังที่เดือนรู้สึกลงตัวมากก็ไม่พ้น สปอยเลอร์หลัง ที่ดูเข้ากับไฟท้ายรูปตัว C มากๆ และท่อไอเสียแบบคู่ ยิ่งทำให้ดูสปอร์ตมากยิ่งขึ้น

“เธอลองเอาเองละกัน“ ยื่นกุญแจมาให้ขนาดนี้แล้วจะพลาดได้ยังไงกัน ก็เลยขอลองเสียหน่อย

                พอก้าวเข้ามาในห้องโดยสาร บอกได้เลยค่ะ มีความสปอร์ต .. คือเบาะนั่งมันรู้สึกเตี้ย คล้ายๆอารมณ์รถสปอร์ตค่ะ แต่นั่งได้สบายมากๆ ก็เบาะปรับได้ตั้ง 8 ระดับ ภายในเดือนสะดุดตาตรงหน้าจอ Touch Screen ค่ะ เพราะมันคุ้นๆ เหมือนเคยเห็นใน Honda  HR-V  ซึ่ง Bonn   เองก็จัดแจงรีบมาอธิบายว่า ก็ไม่น่าแปลกใจนัก แถมยังให้ ระบบ Brake Hold และ ระบบเบรกมือไฟฟ้า สรุปได้  DNA   รุ่นเล็กมายกเซท
ด้านความล้ำสมัยก็คงเป็นหน้าปัดจอ  TFT   เดือนชอบมาก ใช้ง่าย ข้อมูลเยอะฟังชั่นครบ ดูสบายตา และในรุ่นนี้ มันยังมาพร้อมระบบ   Honda  Lane Watch   ที่มีในรถยนต์  Honda  Accord เดือนเลยรู้สึกว่า Honda Civic 2016 คันนี้ เหมือนจับเอา HRV + Accord และรวมๆกันเป่าออกมาเป็น Civic2016 นั่นเอง

หลังพวงมาลัย มีระบบ  Paddle Shift  เป็นระบบหนึ่งที่เดือนชอบมากๆใน   Civic   ใหม่   และที่สำคัญระบบนี้มีให้เฉพาะในตัว RS เท่านั้นด้วย ยิ่งเพิ่มความสนุกในการขับขี่ขึ้นไปอีก

 

 

และถึงเรื่องร่างจะซิ่งสุดใจแบบที่เพื่อนๆ เห็น แต่ก็ยังมีระบบ   Engine Remote Start  สามารถสตาร์ทรถ จากรีโมท เพื่อเปิดแอร์เย็นๆก่อนที่เราจะก้าวเข้าไปนั่งบนรถได้ แหมมม .. ระบบนี้ช่างเหมาะกับสภาพอากาศบ้านเราจริงๆ   ส่วนไฮไลท์สำหรับเดือนอีกอย่างนึง คือระบบ Apple car play ค่ะ เพราะเดือนเป็นคนใช้โทรศัพท์ในระบบ iOS พอเดือนเสียบ USB เข้ากับโทรศัพท์ปุ๊ป เดือนก็สามารถใช้งาน iPhone ของเดือนบนหน้าจอ Touch Screen ได้เลย 

                เมื่อปรับเบาะได้แล้ว ก็พร้อมลุยค่ะ ได้รถเทอร์โบมาทั้งที ก็ต้องลองเรื่องความแรงก่อนเลย พอได้ลองเหยียบให้เทอร์โบทำงาน เดือนกลับรู้สึกว่า มันไม่ค่อยกระชาก ไม่ดึง ซักเท่าไหร่ เพราะก่อนหน้านี้บอนด์ได้ให้เดือนลองขับ MG5 ซึ่งก็เป็นรถเทอร์โบเหมือนกัน แต่ความรู้สึกต่อรถ MG5 คือมันจะกระชากมากกว่า เนื่องจากมีอาการเทอร์โบรอรอบ เล็กๆ พอช่วงที่กระชาก เดือนจะรู้ทันทีว่าเครื่องเทอร์โบทำงานแล้ว

แต่สำหรับ Civic มันไม่ค่อยกระชากค่ะ เพราะเดือนดูหน้าจอบูสท์เทอร์โบทำงานตลอดเวลา ความรู้สึกเลยคล้ายๆกับรถเครื่องใหญ่ อย่างเช่น รถเครื่อง 2,000 ซีซี มากกว่า  ความรู้สึกเดือนกับ Civic คันนี้ เดือนเลยรู้สึกว่าเป็นรถเทอร์โบที่มาแบบสุขุม ค่ะ คือไม่กระชาก ไม่หวือหวา แต่ช่วงจังหวะเร่งแซงไว้ใจได้ค่ะ

สำหรับเรื่องช่วงล่าง บอกได้เลยว่า ไว้ใจได้ค่ะ เพราะตอนที่บอนด์ทดลอง เหยียบ Top speed ได้ 207km/h มีช่วงจังหวะที่บินไป 2 รอบ แต่รถคันนี้เอาอยู่ค่ะ สบายมาก โดยระบบช่วงล่างเซทมาแบบหนึบกึ่งแข็ง มันดีพอที่จะให้ความสบาย เพราะขับนอกเมืองเดือนหลับตลอดทางค่ะ

                Honda Civic 2016 1.5 Turbo RSสำหรับเดือน เดือนถือว่าเป็นรถอีกคันนึงที่น่าสนใจมากๆเลย ทั้งรูปร่างหน้าตา เครื่องยนต์ ระบบช่วยเหลือ แต่ที่น่าเสียดายมากๆ คือ เบาะหลัง ค่ะ เพราะเบาะหลังของเจ้า Civic คันนี้ดันหุ้มหนังมาให้ไม่เต็มน่ะสิ มีส่วนที่เป็นพลาสติกแข็งอยู่ และที่สำคัญ เบาะหลังคันนี้ดันพับไม่ได้ ก็เป็นอีกข้อนึงที่น่าเสียดาย  ส่วน ซันรูฟ ก็เป็นอีกอย่างที่เดือนอยากให้มี เพราะทั้งพี่ใหญ่ อย่าง HRV หรือ Accord ก็มีมาให้ในรุ่นท๊อป 

แต่โดยภาพรวมแล้ว ถ้าอยากได้ความหล่อ สปอร์ต ใจดี ... เอ้ย ไม่ใช่ละ เอาเป็นว่า ถ้าอยากได้ความหล่อ แรง สปอร์ต สุขุม คันนี้ก็เป็นอีกคันนึงที่น่าสนใจค่ะ ...

 

 

Honda Civic 2016 1.8 EL หล่อ มาดนิ่ง คงความแรงส์!

หลังจากที่เดือนมีโอกาสได้ลอง Civic Turbo RS ไปแล้ว ก็เลยแยบๆถามบอนว่า “ แล้วตัว 1.8 ล่ะ มันจะรู้สึกเหมือนกันไหม “ บอนด์ไม่ตอบอะไรเดือนค่ะ แต่หลังจากที่คืนเจ้าเทอร์โบหน้าหล่อไปประมาณสัปดาห์ ก็เอาเจ้าซีวิค 1.8 สุดหล่อ มารับเดือนที่บ้าน ..

ภายนอกคงไม่ต้องอธิบายอะไรมาก เพราะดูๆแล้วก็หน้าตาเหมือนกันเจ้าเทอร์โบ ต่างกันที่ไฟหน้าเปลี่ยนเป็นแบบโปรเจคเตอร์แทน และก็เอาชุดแต่ง RS ออกไป

พอเข้ามาในห้องโดยสาร ก็ยังรู้สึกคุ้นตาอยู่เหมือนเดิม เพราะภายในเหมือนๆกันเลยค่ะ เพียงแต่ตัว Paddle shift ที่เดือนโปรดปรานมันหายไป .. ส่วนเบาะก็ปรับไฟฟ้าได้แค่เฉพาะคนขับค่ะ แล้วก็ไม่มี Honda lane watch แต่เอาเข้าจริงๆเดือนแทบไม่ค่อยได้ใช้งานเลยค่ะ เพราะเวลาเราเปิดไฟเลี้ยวซ้าย เดือนก็มองที่กระจกอยู่แล้ว พอมองที่จอเดือนว่ามันไม่ค่อยสะดวกซักเท่าไหร่ ส่วนแอร์ก็เหลือแต่เพียงปรับอุณหภูมิได้เพียงด้านเดียวจากฝั่งคนขับ แต่อีกฝั่งนึงก็เพิ่มสวิทซ์ควบคุมแอร์มาให้แทนค่ะ ก็ไม่ต้องปรับที่หน้าจอเหมือนรุ่น RS ละ

และที่สำคัญก็คือ ยังคงระบบ Engine Remote Start ไว้ให้ ซึ่งระบบนี้เป็นระบบที่เดือนใช้บ่อยที่สุดใน Honda Civic 2016 อ้อ! อีกเรื่องนึงที่ลืมบอก เจ้า 1.8 นี่รองรับน้ำมันเชื้อเพลิง E85 ได้ด้วยนะ ..

สำหรับคันนี้บอนพาเดือนไปที่ชลบุรีค่ะ เพื่อลองทดสอบนอกเมือง โดยขาไปเดือนขอเป็นผู้โดยสารก่อนค่ะ จะได้ทดสอบการนอนบนรถว่าจะสามารถนอนได้ไม๊ ;) คันนี้บอกได้เลยว่า ช่วงล่างค่อนข้างนิ่มค่ะ เรียกได้ว่าเดือนหลับได้เร็วกว่าตอนที่นั่งอยู่บนเจ้าเทอร์โบซะอีก แต่เวลาช่วงที่บอนด์เร่งแซง หรือลองแฉลบไปหาคันนู่นคันนี้ เดือนก็แอบเสียวอยู่นิดๆเลยแหละ เดือนรู้สึกว่าตัว RS มันมั่นใจได้มากกว่าค่ะ สำหรับเสียงลมปะทะ ไม่ดังเท่าไหร่ค่ะ

หลังจากที่ทดสอบการหลับบนรถไปเรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงเวลาที่ต้องลองขับบ้างแล้ว .. อย่างแรกเลยที่รู้สึกคือ เมื่อเทอร์โบมันหายไป เจ้าซีวิคตัวนี้มันก็คือรถเครื่อง 1.8 แหละค่ะ (งงไม๊?) เพราะมันไม่มีตัวช่วยอย่างเทอร์โบมาช่วยทำงาน ดังนั้นความรู้สึกเลยค่อนข้างแตกต่างกันค่ะ มันไม่มีจังหวะที่หลังติดเบาะเหมือนตัวเทอร์โบ และบอนด์เองก็ถามเดือนมาเหมือนกันว่า “ เธอว่าคันนี้ความรู้สึกมันเหมือนรถอะไร? ” เดือนตอบได้ทันทีค่ะ ว่าเหมือน HR-V เลย ทั้งเรื่องการทดรอบของเกียร์ หรือแม้แต่กำลังเครื่องยนต์ต่างๆ .. ซึ่งเท่าที่เดือนลองเหยียบดู เจ้าซีวิค 1.8 เมื่อทำความเร็วสูงสุด รอบเครื่องค้างอยู่ที่ประมาณ 6,000 รอบ แต่เสียงเครื่องมันช่างทรมานใจเดือนจริงๆ ฟังแล้วรู้สึกกลัวว่าเกียร์จะทำงานหนัก อยู่เหมือนกันแฮะ แต่มันก็เป็นปกติของเกียร์ CVT  

ทว่าเมื่อบอนด์พาเดือนไปนั่งทดสอบ Top Speed  ซึ่งตอนแรกเดือนพูดกับบอนด์เลยว่าตัวเทอร์โบ มันล๊อกความเร็วไว้ที่ 207 km/h คันนี้มันคงได้ไม่เกิน 200 km/h หรอก .. แต่!! มันทำได้มากกว่าที่เดือนคิดค่ะ เท่าที่บอนด์เหยียบมันได้ประมาณ 209 km/h ซึ่งมันยังไปต่อได้อีก แต่ด้วยสภาพถนนและสภาพการจราจรในวันที่เราทดสอบไม่เอื้ออำนวย เราจึงต้องหยุดมันไว้ที่ 209 km/h พอเดือนได้เห็นตัวเลขแล้วรู้สึกว่า อื้อหืออออ .. 1.8 ก็ไม่ใช่ย่อยๆนะเนี้ยยย ไม่น้อยหน้าเจ้าเทอร์โบ เลย แต่ว่าพอช่วงที่ทำความเร็วสูงๆ เจ้าซีวิค 1.8 จะค่อนข้างคุมยากกว่าค่ะ และช่วงล่างก็ช่างนิ่มนวลซะเหลือเกิน มันเลยทำให้เดือนรู้สึกกลัวกว่าตอนนั่งเจ้าเทอร์โบอีก .. (แต่ก็รอดมาได้ ...ปาดเหงื่อแปป) ...

 

สำหรับเดือน ถ้าให้ลองเปรียบเทียบระหว่าง 2 คันนี้ .. มันเหมือน มวยค่ายเดียวกัน ต้องมาต่อยกันเอง .. ก็เพราะรูปร่างภายนอกมันเหมือนกันหมด ถ้าไม่นับตัว RS ที่เพิ่มชุดแต่งเข้ามา .. แต่เอาเป็นว่า ถ้าอยากลองของใหม่ ทั้งเครื่องยนต์และเกียร์ใหม่ หรือต้องการขับรถแรงๆ สนุกๆ ก็แนะนำให้ลองมองตัวเทอร์โบดีกว่าค่ะ มันน่าจะตอบโจทย์ขาซิ่งได้มากกว่า  แต่ถ้าเน้นขับชิลๆ ขับแบบประหยัด เติม E85 ได้ ไม่เน้นความแรง และอยากได้ความหล่อของ Civic2016 ตัว 1.8 ก็น่าจะเป็นคำตอบที่ดีค่ะ

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com

[GALLERY2167]

5 เรื่องน่าสนใจ