Hands on : Toyota Fortuner TRD Sportivo หล่อแบบสายซิ่ง สมรรถนะยังได้อีก ...

การมีรถยนต์สักคันสำหรับหลายคนอาจจะเหนื่อยลากเลือดกว่าจะออกรถมาแต่ละครั้งในชีวิตของคนเรา การมีรถยนต์ทำให้ชีวิตคุณสะดวกสบาย ดูมีฐานะมากขึ้น นั่นคือที่หลายคนคิด หากเมื่อขับมันไปบนถนนคุณจะเริ่มเหลียวมองเพื่อนร่วมทางแล้วคิดว่า ทำไมรถที่เราใช้จึงดูเดิมสนิทมันเหมือนกับที่คนอื่นเขาใช้กันทั่วๆไป ... จุดนี้แหละครับ ก่อเกิดมาเป็นของล่อตาล่อใจให้เราเสียเงินกันอีกครั้งในการ “แต่งรถ”

 

การแต่งรถคือการบ่งบอกความเป็นตัวเองในรถยนต์แบบที่คุณต้องการ อันที่จริงการแต่งรถยนต์ในปัจจุบันมีมากมายหลายสไตล์ตั้งแต่ สายซิ่ง สายแบ๊วไปจนถึง เน้นแรงอย่างเดียวเรื่องอื่นไม่เกี่ยว หาก คำถามที่นักแต่งรถทุกคน.... มักจะคิดเสมอ ก็หลีกหนีไม่พ้นเรื่องงบประมาณที่จ่ายออกไปหลังจากซื้อรถ จนบางครั้งอาจจะมากพอจะซื้อรถยนต์ได้อีกคันก็มี ..

งบประมาณที่ใช้เท่าไรก็ไม่สามารถหยุดสนองตัณหาเรื่องการแต่งรถได้ ทำให้ค่ายรถยนต์  Toyota   ถือ โอกาสสร้างตัวพิเศษอออกมาวางจำหน่ายให้ลูกค้าได้เลือก ในรถยนต์อเนกประสงค์ยอดนิยมของพวกเขา   Toyota Fortuner TRD   พวกมันดูหล่อ ดูเท่ห์กว่า ตั้งแต่เกิด และที่สำคัญคุณแทบไม่ต้องเติมแต่งอะไรในตัวรถอีกต่อไป ...

การจะมีรถสักคันแต่งเสร็จจากโรงงานหลายคนอาจจะหวั่นว่าเราจะจ่ายราคาของแต่งแพงเกินไป แต่ถ้ามันมาพร้อมความภูมิใจจากตราสินค้าชั้นนำระดับโลก เชื่อเลยว่า สาวก  Toyota   หลายคนแทบจะแดดิ้นอยากจะจับจองเป็นเจ้าของแน่ๆ

Toyota Fortuner TRD  น่าจะพูดว่าเป็นหนึ่งในรถรุ่นที่มาพร้อมความครบครันในการตบแต่ ทีมงาน  TRD   จัดการเปลี่ยนแปลตัวรถ ตั้งแต่ด้านหน้า ที่มาพร้อมกระจังน้าใหม่แบบ   Black Chromed   ตลอดจนกันชนหน้าใหม่ให้มาเฉพาะรุ่น เสริมเสน่ห์ตัวรถให้ความสปอร์ตมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม  ส่วนด้านหลังให้ชุดแต่งกันชนท้ายใหม่เฉพาะรุ่น พร้อมท่อไอเสียแสตนเลสดูสปอร์ต แต่ยังไม่เน้นเสียงซิ่งเร้าใจ

ด้านข้าง TRD  จัดการ โยนล้ออัลลอย ขอบ  18   นิ้วดอยไว้ที่ช๊อป แล้วจัดการเสริมหล่อด้วยล้ออัลลอยขนาด   20   นิ้ว มาให้แทน บนล้อปรับขนาดใหม่เป็น  265/50/R20   ดูเต็มซุ้มลงตัวหล่อแบบสปอร์ตๆ 

ตัวรถ   Toyota Fotuner TRD   มีมาวางจำหน่าย  2  สี คือ สีดำ Attitude Black Mica  และสีขาว White Pearl CS   ทว่า ถ้าคุณชอบความแปลกตาในการขับขี่แล้ว ผมแนะนำว่าสีขาวดูน่าสนใจมากกว่า  ด้วยการตบแต่งที่สามารถทำให้เป็นหลังคาดำด้านจาก  TRD   มันอาจจะล่อเป้าพี่ตำรวจบ้างสักหน่อย และหลายครั้งมันก็ทำให้ผมนึกถึงตัวหรู   Range Rover Evoque

เปิดประตูเข้าสู่ภายใน ในภาพรวมต้องยอมรับว่าเปลี่ยนไปเยอะมาก อย่างแรกที่สัมผัสได้ทันที คือตัวรีโมทกุญแจดูซิ่งกว่ารุ่นปกติชัดเจน TRD  เก็บรายละเอียดตั้งแต่แรกสัมผัส ภายในเปลี่ยนการออกแบบจากโทนดำน้ำเงิน มาเป็นโทนดำแดง ตรงคุณลักษณ์คนชอบซิ่งให้รายละเอียดหลายจุด เริ่มตั้งแต่ชายบันได  TRD   ที่มีแสงไฟในยามค่ำคืน พรมบนรถทั้งหมดตัดเย็บใหม่เป็นดำแดง พร้อมสัญลักษณ์  TRD Sportivo   ตลอดจน เบาะนั่งก็เป็นโทนดำแดงเช่นกัน ตัดเย็บเดินด้ายแดงเพิ่มความหล่อในสัมผัส ตลอดจนทีมงาน   TRD  ไม่ลืมที่จะเปลี่ยนการออกแบบเรือนไมล์หน้าปีดมาใช้โทนดำแดง และดูซิ่งด้วยการตบแต่งคาร์บอนเคฟล่าร์ในเรือน พร้อมสัญลักษณ์ภูมิใจ   TRD ท้ายสุดส่งที่ผมอยากฝากชมเชยเลย คือการให้ลายเคฟล่าร์แท้ๆ ไม่ไก่กาเหมือนบางค่ายที่พยายามทำให้รถให้ดูซิ่ง แต่ใช้วัสดุพลาสติกแต่งลายหลอกผู้ซื้อ  มันอาจจะมีน้อยแต่ก็มีมาให้ตรงฐานเกียร์และบนพวงมาลัย .. เป็นสิ่งที่ได้ใจไปเต็มๆ

ด้านระบบเครื่องเสียงใน   Toyota TRD Sportivo   เปลี่ยนไปด้วยระบบเครื่องเสียงเต็มพลังขับกล่อมความมันส์มากขึ้นกว่ารุ่นปกติ งานนี้   TRD   ซบไหล่   JBL   ให้ช่วยมาเพิ่มพลังเสียงให้   Toyota Fortuner  ด้วยชุดลำโพง   9  จุด มีซับวูฟเฟอร์ 1  ดอกขนาด 8  นิ้ว ติดตั้งที่ประตูหลังบานท้าย  พลังเสียงขับกล่อมให้กระหึ่มได้ระดับที่น่าพอใจ แต่ถ้าต้องการเบสหนักมากจริงๆ อาจจะต้องเสียเงินไปเพิ่มซับขนาด  10  นิ้ว อีกสักดอก น่าจะโอเคลงตัวกว่า ที่ให้มาในรถคันนี้

เริ่มสตาร์ทเครื่อง..ปุ่มสตาร์ทก็เปลี่ยนเป็น   TRD   ให้ความรู้สึกซิ่งมากขึ้น ใต้ฝากระโปรงนั้นเป็นเครื่องยนต์   1 GD-FTV   ขนาด   2.8   ลิตร ให้กำลัง   177  แรงม้า ที่  3,400 รอบต่อนาที  พร้อมแรงบิดสูงสุด 450   นิวตันเมตร ที่  1,600-2,400  รอบต่อนาที  ส่งลงเกียร์อัตโนมัติ  6  สปีด  มันมาพร้อม  Paddle Shift   บนคอพวงมาลัยให้ได้บริหารนิ้วยามซิ่ง เรื่องอัตราทดเกียร์ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นเดิมแต่อย่างใด

ออกตัวขับปุ๊ปก็รู้เลยว่า  Toyota TRD Fortuner   ไม่ได้มีสมรรถนะเครื่องยนต์ต่างไปจากเดิม จากที่เคยสัมผัส สิ่งที่ทำให้รถเปลี่ยนไปจากความรู้สึกเดิม เห็นจะเป็นชุดล้อและยางตลอดจนระบบช่วงล่างที่จัดมาพิเศษเฉพาะรุ่นมากขึ้นกว่าเดิม

TRD  เปิดเผยว่า พวกเขาจัดการปรับการติดตั้งช่วงล่างใหม่ โดยเปลี่ยนชุดโช๊คอัพและสปริงจาก   TRD Sportivo เข้าไปใหม่ยกเซท ทำให้รถมีความลงตัวในการขับขี่มากกว่าเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรถติดตั้งล้ออัลลอยขนาด   20   นิ้ว จะมีแรงกระแทกกระทั้นจากถนนมากกว่า เนื่องจากจะต้องหันไปใช้ยางแก้มบางลงตามสูตรซิ่ง

การติดตั้งโช๊คอัพและสปริงใหม่ จึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ระบบช่วงล่างใน  Toyota Fortuner TRD   นั้น ยังคงเป็นระบบช่วงล่างแบบ  แม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลงทางด้านหน้า และ ด้านหลังยังเป็นแบบโฟร์ลิงค์และเหล็กกันโคลงเหมือนที่คุ้นเคยกันมาเป็นอย่างดี

เมื่อได้ชุดโช๊คอัพและสปริงใหม่จาก  TRD   เทียบกับการตอบสนองโช๊ครุ่นเดิมที่ติดตั้งใน   Toyota Fortuner  TRD   มันตอบสนองซับแรงกระแทก ยืดและยุบตัวเร็วกว่ารุ่นปกติอย่างชัดเจน เห็นได้จากช่วงคอสะพานรถจะมีอาการกระโดดยืดยุบน้อยล หากปัญหาหลักเมื่อคุณจะซิ่งในรถยนต์อเนกประสงค์ที่มีความสูงแบบนี้ก็ไม่พ้น อาการโคลงตัวของรถที่ยังมีให้เห็นอยู่มากพอสมควรในระดับที่คุณอาจจะยังโดนศรีภรรยาพาหูชาได้ ถ้าอินกับความเร็วมากเกินไป ...

 

สรุป...Toyota TRD Sportivo   หล่อกินขาด สมรรถนะยังไม่โดน

ตลอดเวลาที่ผมอาศัยชีวิตกับ   Toyota TRD Sportivo   ในการเดินทาง ทั้งในเมืองและนอกเมืองนั้น ต้องยอมรับว่า รถคันนี้สามารถสะกดสายตาหลายคนให้สนใจเมื่อยามขับผ่าน คงไม่บ่อยนักที่จะเห็นรถแต่งเสร็จจากโรงงาน ครบเครื่องครบครันลงตัวในการออกแบบ และ   Toyota Fortuner   ทำได้ดีในเรื่องนี้ทั้งภายนอก และภายในห้องโดยสาร พวกเขาเก็บรายละเอียดตัวรถครบแทบทุกประการ ขาดเพียงสมรรถนะการขับขี่ที่ไม่ได้มีความเป็น   TRD   จริงๆ

จากที่ผมลองขับ   Toyota Fortuner TRD   มาหลายวัน ค้นพบว่า ในเจ้ายักษ์พร้อมล้ออัลลอยขนาด   20   นิ้ว ความหล่อของมัน ต้องแลกกับค่าน้ำมันในกระเป๋าที่เพิ่มขึ้น ... 

ตารางแสดง การทดสอบอัตราประหยัดน้ำมัน   Toyota Fortuner TRD

	กม./ลิตร
ในเมือง	8.52
นอกเมือง	9.2
Bonn Test Mode	13.12

 

 

จากตลอดที่ทำการทดสอบ Toyota Fortuner TRD   หลายวัน ผมพบว่าล้อขนาดใหญ่ของมัน จะทำให้คุณต้องจ่ายค่าน้ำมันเฉลี่ยที่   8   กิโลเมตร/ลิตร กลางๆ เมื่อขับในเมือง และนอกเมือง คุณก็ยังไม่ทางที่จะเห็นฝั่งฝันตัวเลข  2  หลักในเจ้าอเนกประสงค์คันนี้ ที่หล่อเร้าใจ แต่อาจจะไม่ใช่กับใครที่มองหาความประหยัดในการขับขี่

นอกจากเรื่องความประหยัดน้ำมันที่ซดกว่ารุ่นปกติแล้ว ส่วนตัว ผมกลับรู้สึกว่า ช่วงล่างที่ทาง   TRD  ใส่มาให้เฉพาะรุ่นรถคันนี้น่าจะทำได้ดีกว่านี้อีก มันแน่นขึ้นกว่ารุ่นปกติ แต่ยังไม่ที่สุด ดูเหมือนทาง   TRD  จะยังกังวลเรื่องความนุ่มนวลในการเดินทาง ทั้งที่ผมรู้สึกว่าคนจะซื้อสินค้าอะไรก็ตามภายใต้สัญลักษณ์   TRD   นั้น ต้องมีดีดเอ็นเอซิ่งในใจ พวกเขาคงไม่ยีหระต่อช่วงล่างแข้งชนิดรถแข้งมาเอง หรือถ้าทางบริษัทกังวล อาจะทำชุดช่วงล่างพิเศษออกมาวางจำหน่าย ตอบโจทย์ลูกค้าที่ไม่กังวลเรื่องความนิ่มนวล หากอยากได้รถที่ขับมั่นใจ  ส่วนเครื่องยนต์ที่มีกำลังดีอยู่แล้ว ก็น่าจะปรับขับสะท้านสะใจมากกว่านี้อีกหน่อย สมกับตัวตนที่ให้ความเป็น   TRD   มาเต็มพิกัด

อย่างไรก็ดี การที่   TRD   มีวางจำหน่ายเฉพาะรุ่น  2.8   ลิตร ขับเคลื่อนสี่ล้อ ทำให้เสียโอกาสทางการขายต่อลูกค้า งบน้อยและไม่คิดจะลุย ไปอย่างน่าเสียดาย พวกเขาอาจจะอยากได้รถหล่อราคาไม่แพง และเครื่องยนต์  2.4   ลิตร นั้นก็ไม่ได้ขี้เหร่ในเรื่องสมรรถนะการขับขี่  และถ้าคิดจะทำแล้วไหนๆ ก็เป็นของแต่งเสริมองค์ประกอบ อยากให้มองตัวเกียร์ธรรมดา  2.4   บวกรวมเข้ามาด้วย เพราะเกียร์ธรรมดา คือสื่อของสมรรถนะในสายตาคนไทยหลายๆคน

 

Toyota Fortuner TRD Sportivo   ร่างเดิมเสริมความลงตัว เพิ่มราคาขาย เป็นอีกครั้งที่ทำให้เราตกเป็นเหยื่อของการตลาดได้เสมอ แต่ภายใต้เรือนร่างที่หล่อ และฟังชั่นครบครันแต่งพิเศษเฉพาะรุ่น  ดูเหมือนว่า   TRD   จะยังทำรถคันนี้มาไม่สุดจบเสียทีเดียว ทว่าก็ดีพอที่จะพาคุณพร้อมซิ่ง ตั้งแต่นาทีแรกที่ออกจากโชว์รูม

 

เรื่อง โดย ณัฐยศ ชูบรรจง (Bonn)

ติดตามผู้สื่อข่าวและนักทดสอบรถยนต์ นาย ณัฐยศ ชูบรรจง ได้ที่ Facebook หรือ ทาง  Fan page ,Twiter (@Nattayosc), Blog  ส่วนตัว

 

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com