Hands On: Subaru Impreza 2017 สัมผัสแรกปลื้มใจ ตัวตนใหม่ที่แตกต่าง

  • โดย : Autodeft
  • 19 ม.ค. 60
  • 14,289 อ่าน

นานกี่ปีแล้วที่ Subaru Impreza ไม่ได้วางจำหน่ายในฐานะรถยนต์รุ่นใหม่ในประเทศไทย ... ถามผม..ผมเองก็จำไม่ได้เช่นกัน แต่เรื่องหนึ่งเกี่ยวกับรถยนต์ Subaru impreza ที่ยังพอจะบอกได้คือ มนต์เสน่ห์สุดขลังของมันไม่เคยเสื่อมคลาย

 

แม้ในตอนนี้มันจะเป็นรถยนต์มือสองที่มีอายุอานามร่วมๆ 20 ปี   ก็ยังคงมีราคาค่อนข้างสูง รถมีจำนวนเพียงกระหยิบมือเดียว แต่ทุกครั้งที่ผมเปิดเข้าชมเว็บไซต์รถมือสองชั้นนำ และยกหูโทรไปถามเจ้าของรถ บ่อยครั้งที่รถยนต์เหล่านี้จะจรลีไปอยู่กับเจ้าของใหม่อย่างรวดเร็ว

และมันคือตำนานที่สาวกหรือคนที่ต้องการรถยนต์ที่แตกต่างมักจะควานหาเก็บเอาไว้

ระหว่างที่ผมทดลองขับ   Subaru Levorg   ในช่วงเดือนพฤศจิกายน โทรศัพท์ดังขึ้นพร้อมเสียงคุณเปรียวจาก Subaru  ไถ่ถามสารทุกข์สุขดิบ ช่วงหลังผมไม่ค่อยมีโอกาสคุยกับคุณเปรียวมากนัก แต่วันนี้ที่คุณเปรียวโทรมาทำเอาผมอมยิ้มไม่หยุด ทางคุณเปรียวชวนเดินทางไปกับ  Subaru   เพื่อเปิดตัวทดสอบ   Subaru Impreza   ใหม่ ....

ผมเองติดตามรถยนต์รุ่นนี้มาตั้งแต่เปิดตัว จนล่าสุดรับรางวัล   Japan Car of the year   ที่ประเทศญี่ปุ่น งานนี้มีหรือที่ผมจะพลาด!! ลองรถที่แม้แต่นักข่าวในญี่ปุ่น มันบอกว่าสุดยอดมากๆ กัน

การใช้เวลาบินข้ามน้ำ ข้ามทะเล มายังสิงคโปร นับเป็นครั้งแรกของผมที่มาเยือนแดนใต้สุดเขตขอบขันแหลมทองของเอเชีย มาที่นี่ Subaru   จัดการเปิดตัวเจ้ารถยนต์  Subaru Impreza  ใหม่ พร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในดินแดนสิงโตทะเลแห่งนี้ แต่ทางตันจง อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ Subaru  พวกเขาก็เล็งๆ เหมือนกันว่าจะนำรถรุ่นดังกล่าวเข้าไปขายในประเทศไทย ด้วยการกรีฑาทัพนักข่าว รวมถึงตัวแทนจำหน่ายมาดูรถตัวเป็นๆ งานนี้ โอกาสมาไทยสูงมากๆ ครับ …..

สำหรับประเทศไทย  Subaru impreza   อาจจะเป็นรถที่คนไทยคุ้นเคยในอดีตว่า นี่คือตัวแรงของค่ายดาวลูกไก่ หากระยหลัง  Subaru impreza   ที่เรารู้จักกลับเปลี่ยนไปด้วยแนวทางของค่าย ที่ต้องการให้ไลน์อัพความแรงชัดเจน  Subaru   จึงถอด  Subaru Impreza WRX  ออกจากไลน์ของคอมแพ็คคาร์ แล้วไปตั้งรุ่นใหม่ “Subaru WRX”   ตรงๆ จนต้องยอมรับว่าเสน่ห์บางประการของ  Subaru Impreza   ในอดีตจะแตกต่างจากปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง

เจอหน้าค่าตา  Subaru WRX   ใหม่ ต้องยอมรับว่างานออกแบบ  Subaru   ยุคใหม่เข้าท่าไม่หยอก ทางซูบารุจัดการออกแบบ  Subaru impreza   ใหม่ ให้ความสปอร์ตมาเต็มพิกัดไม่ทิ้งคราบความเป็นคอมแพ็คคาร์เจ้าเสน่ห์ที่เห็นต้องหลงใหล ภายใต้ปรัชญาการออกแบบใหม่   Dynamic &Solid   ตั้งแต่ด้านหน้าที่มาพร้อมไฟหน้าอันโฉบเฉี่ยวในโคมมีไฟ Day Time Running Light  โคมไฟมาพร้อมลูกตา  Projector   สามารถปรับเลี้ยวได้ตามจังหวะการคัดพวงมาลัย ( Steering Responsive  Headlight )  กระจังหน้าใหม่แบบ 6   เหลี่ยม ดีไซน์ได้สปอร์ตลงตัว รับเข้ากับกันชนหน้า

ด้านข้างตอบการออกแบบด้วยความสปอร์ตเหนือชั้นในการขับขี่ ด้วยเส้นสายที่มีความสันให้ความลงตัวตั้งแต่ด้านหน้าจรดบั้นท้าย มาพร้อมสองตัวถังแนะนำออกมาตอบโจทย์ รุ่นซีดาน และแฮทช์แบ็ค ทั้งคู่ลงตัวด้วยไฟท้าย  LED   สง่างามสมส่วนผ่านล้ออัลลอยขอบ  17   นิ้ว พร้อมยางขนาด  205/50/R17   

ในบางมุมมอง ผมรู้สึกว่า   Subaru Impreza   ใหม่ หยิบเอาเส้นสายจากการออกแบบจาก  Subaru Levorg   มาใช้ โดยเฉพาะรุ่น  5  ประตู มันดูคล้ายกับ   Subaru Levorg   โดนทีมวิศวกรปรับสัดส่วนด้วยไฟฉายย่อส่วนจงลงมามีขนาดเล็กกว่าพี่ชายของมัน

ส่วนในรุ่น  4  ประตู ซีดานและดูคล้ายๆ  Subaru WRX   อยู่บ้างในบางมุมมอง แต่มีเส้นสายการออกแบบที่มีคมสันมากกว่า รวมถึงไฟท้ายกับไฟหน้าโฉบเฉี่ยวกว่า ซึ่งถ้าคุณๆ จะถามผมว่า เส้นสายของตัวไหนสวยกว่ากัน ระหว่างซีดาน และแฮทช์แบ็ค

สำหรับผมตัดสินให้ “ซีดาน” ชนะเรื่องการออกแบบไป เนื่องจากช่วงตัวและเส้นสายทำออกมาได้สมส่วนมากกว่า อาจเพราะ มันเผื่อเส้นสายไว้สำหรับรุ่น   WRX   ด้วย... เลยค่อนข้างดูประณีตบรรจงกว่ารุ่น  5  ประตู

เลี้ยวมาดูภายในห้องโดยสาร   Subaru Impreza   ใหม่ จัดเต็มครบครันความทันสมัยทุกความต้องการ ดั้งเดิม  Subaru  ชอบมาตกม้าตายเรื่องภายในห้องโดยสารอยู่บ่อยครั้ง หากครั้งนี้พวกเขาตั้งใจมากๆ ในการออกแบบให้มันดูลงตัวยิ่งขึ้นกว่าเดิม

สัมผัสแรกเมื่อเข้ามาในห้องโดยสาร คือเบาะนั่งคู่หน้าขนาดใหญ่ จนคนตัวใหญ่ไซส์หมีแบบผมนั่งได้สบาย เป็นการปรับเปลี่ยนครั้งสำคัญของรถยนต์ที่หลายคนชอบติดภาพลักษณ์สปอร์ตว่าอาจจะนั่งไม่สบาย

เบาะด้านคนขับให้เบาะปรับไฟฟ้า  8  ทิศทาง พวงมาลัยปรับสูงต่ำยืดหดได้ตามต้องการ ช่วยเรื่องความสบายปรับท่านั่ง ตรงหน้าคนขับเป็นเรือนไมล์ดีไซน์ใหม่ ตอบความใค่รรู้ข้อมูลการเดินทางด้วยชุดหน้าจอขนาด 4.2   นิ้ว รอบเครื่องบ่งการใช้งานได้สูงสุด   6,500   รอบต่อนาที มีปุ่ม   Push Start   มาให้ ตรงกลางมีจอแสดงผลอัจฉริยะเพื่อแสดงข้อมูลต่างๆ ขนาด   6.3  นิ้ว จัดไว้กลางคอนโซลหน้า ให้คนนั่งได้ดูและขวัญผวาหากคุณขับเร็วไปพร้อมๆ กัน

 ถัดลงมาเป็นเครื่องเสียงใหม่ทำงานผ่านจอสัมผัส ขนาด  8  นิ้ว  รองรับการเชื่อมต่อจาก  Android Auto และ  Apple Car Play   แล้ว รวมถึงยังมีฟังชั่นสั่งงานด้วยเสียงมาให้ แต่ผมยังไม่มีโอกาสที่จะลองเล่นมันในการทดสอบนี้ แหงนมองบนหลังคามีมูนรูฟตอบโจทย์คอสปอร์ต มันมีมาให้ในทุกรุ่น แต่ในบ้านเราอาจจะต้องยอมรับว่า เราอาจจะไม่ได้เห็นในเวอร์ชั่นเมืองไทย (ถ้าวางขาย)

พวงมาลัยแบบ  3  ก้านยังพรั่งพร้อมปุ่มมัลติฟังชั่นต่างๆ ค่อนข้างคุ้นเคยอย่างดี ไม่ว่าจะ ปุ่มควบคุมการทำงานระบบเครื่องเสียง  Cruise Control ไปจนถึงฟังชั่นควบคุมชุดจอแสดงผลตรงหน้าของคุณเอง หลังพวงมาลัง ให้  Aluminum Paddle  ช่วยในการปรับขึ้นลงเกียร์ได้ตามความต้องการ น่าเสียดายใน   Subaru Impreza  ใหม่ ไม่มีโหมดการขับขี่ เช่น โหมด   S  มาให้เล่นกัน เหมือนในพี่ใหญ่  Levorg

ส่วนทางด้านหลัง   Subaru   ตอบความสบายในการโยสารและฟังชั่นในการใช้งาน  ด้วยเบาะนั่งหลัง ที่นั่งสบายผมสัมผัสมันบ่อยครั้งตอนเวียนเทียนกันขับเจ้า  Subaru impreza   ใหม่ การนั่งตอนหลังทำได้ดีเป็นรถที่นั่งสบายจะลุกเข้าออกก็ง่ายพื้นที่วางขาและพื้นที่เหนือหัวเหลือเฟือ

พอนึกย้อนถึงตอนขับ   Subaru Levorg   ว่ามันมีพื้นที่ในการโดยสารตอนหลังค่อนข้างแคบ เจ้า  Subaru  Impreza  กลับแก้เกมได้อย่างถูกต้อง รวมถึงยังมีที่เท้าแขนตรงกลางพร้อมช่องวางแก้ว  2  ที่ ตลอดจนตัวเบาะยังสามารถปรับพับได้ทั้งในรุ่นซีดาน และแฮทช์แบ็คในอัตรา   60/40   อีกด้วย

ใต้เรือนร่างอันงดงาม   Subaru   แนะนำนวัตกรรมใหม่ในการพัฒนารถยนต์ของพวกเขามาเป็นครั้งแรกในรถยนต์  Subaru Impreza   สมัยนี้รถสวยขับดีอย่างเดียวคงไม่พอ ต้องมีความปลอดภัยมั่นใจในการเดินทางด้วย

ทีมวิศวกรของ   Subaru   เปิดเผยว่า แนวทางการพัฒนารถยนต์ยุคต่อไปของพวกเขาจะให้ความสำคัญกับความปลอดภัยมากขึ้น จากเดิมที่มีการให้ความสำคัญอยู่แล้วเนื่องจากกระแสโลกกำลังเดินทางไปทางนั้น ดังนั้นพวกเขาจึงได้พัฒนาโครงสร้างใหม่ล่าสุดที่เรียกว่า   “Subaru Global Platform”  ออกมา

โครงสร้างใหม่มีความสำคัญอย่างมากต่อรถยนต์  Subaru   รุ่นต่างๆต่อไปในอนาคต  ด้วยการปรับเปลี่ยนการวิศวกรรมโครงสร้างให้มีความแข็งแรงและความปลอดภัยมากขึ้น  เมื่อเกิดการชน และไม่เพียงเท่านี้ โครงสร้างใหม่ยังให้ประสิทธิภาพในการขับขี่มากขึ้นด้วย

 

3  หัวใจหลักสำคัญ ที่ทาง   Subaru  บอกผมว่า   Subaru Global Plaform   จะเปลี่ยนความรู้สึกเมื่อเทียบกับรถยนต์   Subaru   ดั้งเดิมที่เคยผ่าน คือ

1. การสั่นสะเทือนและการเก็บเสียงดีขึ้น เนื่องจากตัวรถมีการใช้โครงสร้างที่แข็งแรงมากยิ่งขึ้นทำให้การสั่นสะเทือนจากช่วงล่างและจากเครื่องยนต์มีผลต่อห้องโดยสารน้อยลง ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร จึงรู้สึกสบายในการเดินทางมากขึ้น

2.สมรรถนะที่ดีขึ้น เมื่อโครงสร้างตัวถังมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ย่อมส่งผลต่อการทำงานของระบบกันสะเทือน ทำให้รถสามารถตอบสนองได้ขับขี่มากขึ้น รวมถึงโครงสร้างใหม่ยังมีการปรับวางเครื่องยนต์ต่ำลงไปอีก  5 มม.  ช่วยลดจุดศูนย์ถ่วงต่ำลงกว่าเดิม ทำให้แรงเหวี่ยงของรถในระหว่างการขับขี่ลดลง โดยเฉพาะยามเข้าโค้ง หรือเปลี่ยนเลนกะทันหัน

3.ปลอดภัยขึ้น  เมื่อโครงสร้างมีความแข็งแรงมากขึ้น เมื่อเกิดการชนรถย่อมมีความปลอดภัยมากขึ้น ทีมวิศวกรบอกว่า เมื่อเทียบกับรุ่นเดิมโครงสร้างใหม่สามารถซับแรงการชนได้ดีขึ้นถึงร้อยละ 40

ผมยังจำคลิปวีดีโอที่ทาง   Subaru   ให้ชมการทดสอบภายในของพวกเขา ด้วยการจำลองรถบรรทุกน้ำหนัก  2.5  ตัน พุ่งชน Subaru Impreza   ใหม่ เฉียงทางด้านข้างที่ความเร็ว  90  ก.ม./ช.ม.   รถอาจกระเด็นเมื่อเกิดการชน แต่ผลคือโครงสร้างห้องโดยสารยังไม่ผิดรูปแต่อย่างใด .... ถ้าเป็นเหตุการณ์จริง งานนี้คุณออกมากดโทรศัพท์เรียกประกันได้สบายแน่นอน

การพัฒนาโครงสร้างตัวถังใหม่ ส่วนหนึ่งมาจากการปรับกลยุทธ์ของบริษัทที่ไม่เพียงต้องการให้รถยนต์ของพวกขับสนุกมีสมรรถนะเยี่ยม เหมือนแต่ก่อน หากทีมวิศวกรกล่าวย้ำในเรื่องความปลอดภัยอีกรอบ ก่อนจะบอกว่าในตอนนี้ทางบริษัทหันมาสนใจคำว่า  “สมรรถนะในภาพรวม”  ..มันดีมากกว่าแค่รถเครื่องแรงขับสนุก

 

Subaru   ให้นิยามสิ่งที่พวกเขาบอกกับผมว่า  “Enjoyment and Peace of Mind” ในสไลด์ที่ผมผ่านตา ก่อนจะมานั่งใน  Subaru  Impreza   มันประกอบด้วย  2  ส่วนสำคัญ คือ  Dynamic Quality   และ Safety Performance

ด้านความปลอดภัย ผมคงไม่มีโอกาสจะทดสอบ แต่ทางด้านสมรรถนะในการขับขี่ กำลังจะได้รู้ในอีกไม่กี่อึดใจ ... เจ้า Subaru Impreza   จะตอบคำถามกับผม ....ด้วยตัวมันเอง

ใต้ฝากระโปรงใน  Subaru Impreza   ใหม่ที่ได้ขับทดสอบใงนวดนี้เป็นรุ่นเครื่องยนต์  2.0   ลิตร (ในสิงคโปรมีสองรุ่นคือรุ่นเครื่องยนต์  1.6  และ   2.0  ลิตร) ขุมพลังสูบนอนรหัส   F20B   บล็อกนี้ค่อนข้างคุ้นเคยในบ้านเรา มันสถิตย์ ใน   Subaru  XV   และ  Subaru Forester   แต่ใน Subaru Impreza ใหม่ ทาง   Fuji Heavy Industry (FHI) เปิดเผยว่าเครื่องยนต์ใหม่ใน   Subaru Impreza   ใหม่ เป็นเครื่องยนต์ที่ได้รับการพัฒนาชิ้นส่วนต่างๆ ใหม่ถึงร้อยละ   80   เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์รุ่นเดิม รวมถึงยังเปลี่ยนระบบจ่ายน้ำมันจากเดิม Port Injection  มาเป็นแบบ   Direct Injection เพิ่มการตอบสนองของเครื่องยนต์ ด้วยกำลังอัดในกระบอกสูบเพิ่มขึ้น จากเดิม  10.5:1  มาเป็น  12.5:1

การปรับปรุงภาพรวมเครื่องยนต์ เราหลายคนมักจะไปมองที่ตัวเลขกำลัง ที่สมควรจะเพิ่มขึ้น แต่ในความเป็นจริงเครื่องยนต์บล็อกใหม่ของ   Subaru Impreza  ไม่ได้มีกำลังมากขึ้น ด้วยกำลังสูงสุดเพียง  156  แรงม้า  สูงสุดที่   6,000 รอบต่อนาที และให้แรงบิดสูงสุด 196  นิวตันเมตร ที่  4,000   รอบต่อนาที 

เปรียบเทียบกับเครื่องยนต์ F20B รุ่นเดิม ตามรายละเอียดทางเทคนิค ผมพบว่ากำลังแรงม้าเพิ่มขึ้นเพียง   5   แรงม้า  แต่การตอบสนองของเครื่องยนต์ มาเร็วขึ้นกว่าเดิม   200   รอบต่อนาที มันอาจจะไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงที่ดีมากมายนัก ทว่าทาง   FHI   บอกว่า พวกเขาเชื่อว่ามันเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป

 

ตัดภาพ...กลับมาที่ผมกับเจ้า   Subaru Impreza   นาทีนี้ผมพร้อมแล้วที่จะออกเดินทางพร้อมกับ  Subaru  Impreza   ใหม่ในสนามทดสอบ ในรถมีผู้โดยสารสี่คนด้วยกัน รวมๆกันผมว่าน่าจะมี สัก   300   กิโลกรัม เพิ่มเข้ามาจากน้ำหนักตัวเปล่ารถ

ผมออกตัวด้วยเกียร์   D   Subaru Impreza   ใหม่ ตอบสนองการออกตัวได้ไม่ดีนัก ผมรู้สึกว่ารถค่อนข้างออกตัวอืดอาดกว่าที่คิดสักหน่อย ในความรู้สึกเครื่องยนต์ขนาด 2.0   ลิตร น่าจะออกตัวได้รวดเร็วและรุนแรงเร้าใจกว่านี้ตามสไตล์  Subaru แต่คิดอีกทีนั่งกันเต็มลำขนาดนี้จะให้ออกตัวว่องไวก็คงจะไม่น่าเป็นไปได้

ที่สำคัญ ธรรมชาติระบบเกียร์   CVT ตอบสนองต่ออัตราเร่งไม่สู้ดีเท่าที่ควร ทาง  Subaru  เปิดเผยว่า พวกเขาไม่ต้องการอัตราเร่งกระโชกโฮกฮาก เนื่องจากต้องการให้สามารถตอบสนองเรื่องอัตราประหยัดได้ดีขึ้น

ไม่ทันไรผมก็ถึงช่วงสถานีสลาลม บนหน้าปัดบอกความเร็วที่   50   ก.ม./ช.ม.  ผมตวัดพวงมาลัย หลบกรวยที่กำหนด น่าแปลกใจการโคลงตัวของ   Subaru Impreza   ใหม่ น้อยมาก เทียบกับรถ Subaru   ที่เคยผ่านมือ อย่าง Subaru  Levorg   ถือว่าเจ้า   Subaru  Impreza   ใหม่ทำได้ดีกว่ามาก พอสมควร อาการเหวี่ยงของตัวรถลดลงอย่างเห็นได้ชัด การเทซ้ายหรือขวา น้อยมาก ซึ่ง Subaru   เดิมทีก็เป็นรถที่มีแรงเหวี่ยงน้อยอยู่แล้ว

รวมถึงการตอบสนองจากระบบกันสะเทือนเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โช๊คอัพตอบสนองไวขึ้นจากโครงสร้างที่มีความแข็งแรงยิ่งขึ้น อาการตอบสนองช่วงล่างค่อนข้างออกไปทางสไตล์รถยุโรป แน่นหนึบโช๊คยืดและยุบไว

ผมจำได้ว่าทางวิศวกรบอกว่า พวกเขามีการเปลี่ยนแปลงจุดยึดชุดโช๊คอัพหลังใหม่ ยึดโดยตรงเข้ากับตัวรถ ทำให้ช่วงหลังของรถตอบสนองดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งผมเองก็รู้สึกว่าท้ายรถ  Subaru Impreza   ค่อนข้างจะตอบสนองได้ค่อนข้างดี มันไปได้ตามใจคิด โดยเฉพาะเมื่อกรวยสุดท้ายของการสลาลอม ทาง  Subaru   จัดเพลทเหล็กโรยน้ำมาเพื่อให้รถเกิดอาการลื่นไถล

ช่วงล่างของอิมพรีซ่าไม่แสดงอาการควบคุมยากแต่อย่างใด ยิ่งเมื่อรวมการตอบสนองระบบควบคุมการทรงตัว รวมถึงระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ  Symmetrical All Wheel Drive ส่งผลให้รถเกิดอาการลื่นไถลน้อยกว่า รถคู่แข่งในระดับเดียวกันที่ส่วนใหญ่จะเป็นแบบขับเคลื่อนล้อหน้า และยังแก้อาการง่ายกว่า

ยิ่งกว่านั้นพวงมาลัยเซทมาค่อนข้างลงตัวมันคมพอๆกับรถสปอร์ตที่ผมเคยผ่านมือมาบางรุ่น อย่าง   Subaru BRZ   น้ำหนักพวงมาลัยกำลังดีเหมาะมือ และให้การควบคุมทิศทางสนองตามใจผู้ขับขี่  จะไปทางไหน เพียงออกแรงที่มือปรับทิศทาง มันไปตามที่คุณต้องการ

 

สรุป Subaru  Impreza  2017   ...... สนองตอบการควบคุม แต่อย่าหวังเรื่องความแรง 

 

ผมลงจาก   Subaru Impreza  ใหม่ ยอมรับว่าผมไม่เคยผ่านมือรถยนต์   Subaru Impreza   มาก่อน  มีเพียงรถเพื่อน   Subaru Impreza GC 6 ที่เคยยึดกุญแจรถเพื่อนมาขับนานมาแล้ว และ  Subaru XV   ที่มาจากพื้นฐานของรถยนต์   Impreza   เท่านั้นที่พอจะเทียบได้ 

ในความรู้สึกยอมรับว่า เมื่อพูดว่าเป็นรถ Subaru ทุกคนแทบจะบอกว่า “เฮ้ย!! สายซิ่งนี่หว่า” แต่เมื่อมาขับ Subaru Impreza   ใหม่ ยอมรับว่า มันไม่แรงอย่างที่คิด ด้วยเครื่องยนต์มีกำลัง   156   แรงม้าเท่านั้น

ใช่!! ...มันอาจจะเท่ากับรถยนต์บางรุ่นในกลุ่มเดียวกัน แต่เมื่อมานึกว่า Subaru Impreza   ใหม่ มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ รวมถึงตามรายละเอียดทางเทคนิค น้ำหนักตัวเปล่ามันยังหนักถึง   1,403 กิโลกรัม ในขณะรถคู่แข่งที่ผมบอกว่ามีกำลังใกล้เคียงกัน มีน้ำหนักตัวเปล่าเพียง  1,200   กิโลกรัมเศษๆ มันหนักกว่าเท่ากับคุณเอาเข้าสารสองกระสอบไปวางไว้ในรถแล้วใช้เครื่องที่กำลังเดียวกัน .... มันจะไม่อืดกว่าได้อย่างไร

ไม่น่าแปลกใจนัก ที่ผมรู้สึกว่ามันค่อนข้างจะอืดในความรู้สึก ยิ่งในการทดสอบของผมอัดกันไปแน่นถึงสี่คน ถ้าคิดน้ำหนักต่อคนเฉลี่ยคนละ  100   กิโลกรัม น้ำหนักรวมรถจะเท่ากับ  1,800   กิโลกรัมเลยทีเดียว

ใช่...ผมบอกว่าอืด ... อย่างน้อยก็สัมผัสแรกในตอนนี้

 แต่เมื่อแหงะดูตัวเลขอัตราเร่ง  0-100   ก.ม./ช.ม.   จากโบว์ชัวร์มันกลับทำผมทึ่งด้วยตัวเลข  9.8   วินาที ถ้าเป็นไปตามตัวเลขมันก็ได้ความรู้สึกใกล้เคียงกับน้องๆ รถสปอร์ตบางรุ่น ซึ่งอาจจะเป็นเพราะเราทดสอบเพียงเหยียบเร่งมันสั้นๆเท่านั้น จึงยังไม่รู้สึกปรู๊ดปร๊าด และมิหนำซ้ำวิศวกรคนที่ดูแลงานด้านเครื่องยนต์ เขามั่นใจว่า  156   แรงม้า นั้นเหลือเฟือแล้วถ้าใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไป

อีกสาเหตุที่มั่นใจว่าเกี่ยวแน่นอน คือระบบเกียร์   CVT  งวดนี้ทางทีมวิศวกรยอมรับว่า พวกเขาจูนเกียร์ให้ตอบสนองความประหยัดในการขับขี่มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม อาจจะเป็นสาเหตุให้การตอบสนองของชุดเกียร์เชื่องช้า และพาลเพื่อนร่วมงาน อย่างเครื่องยนต์แสดงประสิทธิภาพได้ไม่เต็มที่

.แต่คงต้องรอจนกว่าเราจะมีโอกาสสัมผัสยามขับจริงบนถนน จึงจะสามารถบอได้ว่า เจ้า   Subaru  Impreza   นั้น อืดจริงๆ หรือเปล่า

แม้เครื่องยนต์จะไม่โอเคในเรื่องการตอบสนอง แต่เการควบคุมและทรงตัว ผมกล้าพูดว่า   Subaru Impreza  ใหม่ทำได้ดีจนต้องชูนิ้วเยี่ยมให้ไปเลย

การเปลี่ยนโครงสร้างหลักตัวรถใหม่ ด้วยการใช้เหล็ก   high Tensile  มากขึ้น สร้างความแข็งแรงมากขึ้น มันอาจจะทำให้โครงสร้างน้ำหนักมากขึ้นถึง   80  กิโลกรัม เมื่อเทียบกับรุ่นที่ผ่านมา (Subaru  รุ่นก่อนหน้ามีน้ำหนักตัวรถเปล่า  1,320  กก) หากด้วยการลดจุดศูนย์ถ่วงและปรับการวิศวกรรมในหลายส่วนของโครงสร้าง โดยเฉพาะความแข็งแกร่งของมัน ทำให้รถมีอาการโคลงตัวน้อยมาก และน่าจะเรียกว่าน้อยที่สุดในคอมแพ็คคาร์ที่เคยผ่านมือมา  

 

ตลอดจนการปรับโครงสร้างดังกล่าวทำให้ระบบกันสะเทือนตอบสนองดีขึ้น ยิ่ง   Subaru  หลายรุ่นที่ผ่านมาจะมีอาการหอกข้างแคร่ ท้ายชอบไหลไม่ไปตามใจคิด ยิ่งใครขับรถเร็วจะเจออาการนี้บ่อยครั้ง แต่ด้วยโครงสร้างใหม่ที่ปรับให้ช่วงล่างตอบสนองดี แถมยังนั่งได้สบายไม่ดีดเป็นม้า

รวมถึงการตอบสนองพวงมาลัย มันไปได้ดั่งใจคิด มันทำได้ดีเทียบเท่า  Subaru BRZ  จนผมอนุมานว่าเป็นพวงมาลัย ที่มีอัตราทดเดียวกัน น้ำหนักพวงมาลัยกำลังดีเหมาะสมต่อการขับขี่ทั่วไป แม่นยำคม และตอบโจทย์ในการควบคุมยามเกิดการลื่นไถลก็แก้อาการรถไม่ยากเหมือนรถรุ่นอื่นๆ

 ถามผมก็เรียกว่า คุ้มค่าที่จะจ่ายเงินเพิ่มหรือเฝ้ารอรุ่นใหม่

ผมเองอาจจะพูดถึงสมรรถนะในการขับขี่มากเป็นพิเศษ เพราะว่าเป็นสิ่งที่สัมผัสได้ทันที แต่ทาง  Subaru  กล่าวอย่างมั่นอกมั่นใจว่า รถรุ่นใหม่มีการเก็บเสียงดีขึ้นกว่ารุ่นเดิม ด้วยโครงสร้างใหม่มีการปรับจุดเชื่อมต่างๆ ลบเสียงรบกวนจากชิ้นส่วนโครงสร้างการทำงานของช่วงล่าง ซึ่งเรื่องนี้ผมเองบอกยาก... เนื่องจากเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ขับเพียง 2-3   รอบสนามเท่านั้นเอง

หลายคนอาจจะติดภาพลักษณ์ของ  Subaru Impreza   มันคือรถเก๋งคอมแพ็คสายซิ่ง ที่มาพร้อมความมั่นใจและความเร้าใจในการขับขี่ หากแต่รุ่นใหม่ เชื้อสายดีเอ็นเอสปอร์ตของมันอาจจะห่างหายไปจากเดิม รถมาพร้อมการตอบโจทย์เรื่องความสบายและมั่นใจในการขับขี่มากกว่า ส่วนความสปอร์ตลดดีกรีลงไปมาก จนแทบจะเหลือเพียงคำว่า มั่นใจ ปลอดภัย และสะดวกสบายเท่านั้น ...... เอง

 

Subaru Impreza  ใหม่ จะได้เห็นในไทยไหม

ถึงตรงนี้ ผมคิดว่ามีโอกาส  70 %  ที่รถรุ่นนี้จะมาวางจำหน่ายกลับมาทวงบัลลังค์คอมแพ็คาร์ ตำนานสปอร์ตของมันอีกครั้ง

ถึงจะยังไม่ยืนยันในเรื่องนี้ แต่ทาง  Subaru  บอกแล้วว่า ยังไงสาวกจะได้พบ   Subaru XV   ปีนี้ และด้วยเชื้อสายเดียวกัน ยังไงเสียมันก็คือเจ้า  Subaru Impreza   ยกสูงพร้อมลุย  ......  เป็นรถที่มีโอกาสจะได้สัมผัสอย่างแน่นอน สำหรับสาวก  Subie  ชาวไทย

Subaru Impreza   ใหม่ จะมีโอกาสมาไทยหรือไม่ ต้องยอมรับว่า ทาง ตันจง อินเตอร์เนชั่นแนล ยังไม่ปิดประตูปังใส่ประเทศไทย แถมล่าสุดการเข้ามาตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ในไทย ก็ทำให้โอกาสรถรุ่นนี้ที่เข้ามาขายมีมากขึ้น ..

สองคำถามเดียวที่ยังคาใจคือ ราคาเท่าใด และเมื่อไรกัน

ในคำถามแรกผมลองอนุมาณคร่าวๆ จาก การเขยิบราคาจำหน่ายของ  Subau Levorg   เพิ่มขึ้น รวมถึงลอพิจารณาจากรถยนต์   Subaru Forester   และ   XV   เดิม ผมลองจับราคารถที่ขายในสิงคโปรมาหาค่ากลางความแตกต่างแล้วประเมินค่าออกมาเป็นราคาน่าจะเป็นจากราคาจำหน่ยที่สิงคโปร

การคำนวณที่ผมลองดีดสีตีเป่าเล่นๆ บนเครื่องคิดเลข ค่อนข้างน่าสนใจ มันจะตกเฉลี่ยที่ราวๆ  1.4   ล้านบาท เป็นค่าตัวเจ้ารุ่น  5   ประตู เครื่อง  2.0   ลิตรพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ แต่ต้องยอมรับเมื่อถกคุยกับเพื่อนสื่อบางท่านว่า ตอนนี้ ทาง  Subaru   ยังนำเข้ารถจากโรงงานที่กุนมะ ประเทศญี่ปุ่น  มาจำหน่ายในแถบบ้านเรา ส่วนโรงงานในมาเลเซียเอง ก็มีกระแสข่าวว่าเตรียมขึ้นไลน์การผลิตเจ้า  Subaru XV  ใหม่ที่มาพร้อมแพลทฟอร์มเดียวกัน ดังนั้นรถทั้งหมดน่าจะนำเข้าจากญี่ปุ่น แต่ผมก็แว่วว่ามีการผลิตในจำนวนจำกัดในโรงงานที่มาเลเซียเช่นกัน ซึ่งหมายความว่า ราคา  1.4  ล้านบาท ได้เครื่อง  2.0   ลิตรขับสี่ ที่หาไม่ได้ในคอมแพ็คคาร์ ก็ยังพอจะลูบคลำได้บ้าง (แต่ทางที่ดี สัก  1.2-1.3   กำลังพอจะดันสู้คู่แข่งได้)

ดังนั้นมีความเป็นไปได้ราคาอาจจะทะลุไปถึง  1.5-1.7   ล้านบาท  .. ซึ่งราคานี้เดิมทีเป็นพื้นที่ของ  Subaru Levorg  ถ้าถามแล้ว ก็คงไม่มีใครซื้อเจ้าคอมแพ็คคาร์เครื่อง  2.0   ลิตร บ้านๆ  พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อในราคานีแน่นอน  

ยิ่งในบ้านเรา ตลาดคอมแพ็คคาร์ ไม่น่าจะมีวันกลับมาบูมเหมือนในอดีต รถที่ขายได้ในวันนี้มีเพียง   Toyota – Honda  หรือเพียงค่ายไหนที่ให้ของดีราคาคุ้มค่า และดีไซน์เข้าตา สำหรับ  Subaru Impreza  ใหม่ มันยังเป็นรถอินดี้เจาะเฉพาะคน ถ้าราคาไม่ดีก็ยังยากที่จะสู้รบปรบมือ

ถ้ามาเมื่อไรกัน ...

คำถามนี้เป็นข้อสมมุติ ทาง "ตันจง" เกิดฮึดลูกบ้า เอาเข้ามาขายจริงๆ  จากความคิดเห็นส่วนตัวผมมอง ว่ามีความเป็นไปได้  3  ช่วงเวลา ช่วงเวลาแรก กลางปีนี้... มันหมายถึงช่วงเวลาก่อนที่  Subaru XV   จะเปิดตัวนช่วงปลายปีนี้ในบ้านเรา

ช่วงเวลาที่ 2 คือ หลังจาก  Subaru  XV เริ่มวางจำหน่าย มันจะเป็นตัวเลือกสำคัญ เนื่องจากหาก  Subaru XV   มาราคาแพงกว่ารุ่นปัจจุบันมาก มันก็จะได้รับความสนใจน้อยลง และเมื่อนั้น  Subaru Impreza   ก็จะสามารถแจ้งเกิดได้ เป็นตัวเลือกสำหรับสาวก

ส่วนช่วงเวลาที่ 3 คงเป็นตอนไมเนอร์เชนจ์ และเริ่มเปิดโรงงานในไทยไปแล้ว การเปิดโรงงานในไทยจะทำให้ราคาสามารถแข่งขันได้ และด้วยความเป็น  Subaru   จะทำให้รถเป็นที่สนใจของคนที่มองหาสมรรถนะการขับขี่

Subaru  Impreza   ใหม่ จะมาไทยหรือไม่ คงต้องจับตาดูต่อไป แต่ถ้าคุณถามว่ารถคันนี้เป็นอย่างไร ให้ตอบสั้นๆ มันเป็นรถที่ปลอดภัย และขับมั่นใจในทุกเส้นทาง ...แต่ไม่ได้แรงอย่างที่คิด

 

 

 

ขอบคุณ  Subaru  ประเทศไทย ที่เชิญทีมงานเข้าร่วมเปิดตัว  Subaru Impreza   ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และร่วมทดสอบรถยนต์  Subaru Impreza   ใหม่ รุ่นปี   2017   ที่ประเทศ สิงคโปร

 

เรื่องโดย  ณัฐยศ ชูบรรจง   Content Specialist -  นักขับทดสอบรถยนต์   Autodeft.com   ติดตามได้ที่   

 

ติดตามเรื่องราว ข่าวสาร และความรู้ รถยนต์ได้กับพวกเรา ได้ที่  www.Autodeft.com 

หรือผ่านทาง   Fanpage Facebook กดไลค์และ  Follow   ได้ที่   www.facebook.com/autodeft 

 

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ