Yamaha ประกาศแผนธุรกิจ เดินหน้าฉลอง 50 ปี พร้อมรุกด้วยสินค้าใหม่

  • โดย : Autodeft
  • 30 ม.ค. 57
  • 7,138 อ่าน

บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ประกาศแคมเปญ Revs Your Heart เร่งชีวิต ให้เร้าใจ เดินเครื่องเสริมทัพสินค้ารุ่นใหม่ๆ สร้างความได้เปรียบในการแข่งขันทางการตลาดต่อเนื่อง 3 ปี (ปี 2014 – 2016) วางเป้าหมายเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 25%

 

บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ประกาศแคมเปญ Revs Your Heart เร่งชีวิต ให้เร้าใจ เดินเครื่องเสริมทัพสินค้ารุ่นใหม่ๆ สร้างความได้เปรียบในการแข่งขันทางการตลาดต่อเนื่อง 3 ปี (ปี 2014 – 2016) วางเป้าหมายเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 25%

นายประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ผู้ผลิต และจำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า กล่าวว่า ภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์ในปี 2013 มีอัตราการเติบโตลดลงที่ 6% โดยมียอดจดทะเบียนรวมประมาณ 2 ล้านคัน แบ่งเป็นสัดส่วนรถจักรยานยนต์ออโตเมติก 45% และรถจักรยานยนต์แบบมีเกียร์  55%

Yamaha

ซึ่งในปี 2013 บริษัทฯ มียอดจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ภายใต้แบรนด์ยามาฮ่าอยู่ที่ 3.8 แสนคัน อันเนื่องจากภาพรวมทางเศรษฐกิจที่ตกลงในทุกภาคส่วน และปัญหาความไม่มั่นคงทางการเมือง ของประเทศ โดยมีส่วนแบ่งการตลาดที่ 19%

โดยในปี 2014 นี้ ยามาฮ่าคาดการณ์ว่าความต้องการของตลาดรวมรถจักรยานยนต์จะตกลงอยู่ที่ประมาณ 1.8 ล้านคัน ลดลงจากเดิม 10% เทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งยามาฮ่าได้ตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 3.6 แสนคัน หรือลดลง 4% แต่ส่วนแบ่งการตลาดจะเพิ่มขึ้นเป็น 20% เทียบจากปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกัน มุ่งเน้นเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยกำหนดนโยบายที่จะทำการตลาดเชิงรุกเต็มรูปแบบอย่างต่อเนื่องภายใต้แบรนด์สโลแกน “Revs Your Heart” “เร่งชีวิต ให้เร้าใจ” ซึ่งถือเป็นสโลแกนใหม่ของยามาฮ่าที่ใช้ทั่วโลก พร้อมเปิดตัวสินค้าใหม่ที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัย และโดนใจผู้ใช้รถจักรยานยนต์

สำหรับกลยุทธ์สำคัญในการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดของยามาฮ่าประกอบไปด้วย 3 ส่วนด้วยกันคือ

1. สร้างสรรค์กิจกรรมส่งเสริมภาพลักษณ์ภายใต้แบรนด์แคมเปญใหญ่ “Revs Your Heart”     ที่ยามาฮ่าจะใช้สื่อสารทั่วโลก ต่อเนื่อง 3 ปี และเน้นกลยุทธ์การตลาดแบบดิจิตอล มาร์เก็ตติ้งที่สร้างสรรค์ และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพกับสภาพการแข่งขันทางการตลาดยุคใหม่

2. สร้างยอดขายที่มากขึ้นให้กับผู้จำหน่ายด้วยการเพิ่มสินค้าใหม่ ที่มีศักยภาพในการแข่งขันสูง และสร้างความแตกต่างด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ เข้าสู่ตลาด พร้อมเทคโนโลยีหัวฉีดรุ่นใหม่ ที่จะช่วยประหยัดน้ำมัน และดีไซน์ที่ตอบความต้องการของตลาดในหลากหลายรูปแบบมากยิ่งขึ้น ทั้งในกลุ่มรถจักรยานยนต์เกียร์ออโตเมติก เน้นที่กลุ่มวัยรุ่น ซึ่งเป็นลูกค้าเป้าหมายหลัก และกลุ่มรถจักรยานยนต์แบบมีเกียร์ ที่จะเน้นมากเป็นพิเศษด้วยกิจกรรมส่งเสริมการขายในพื้นที่ทั่วประเทศ  โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 30% สำหรับรถจักรยานยนต์เกียร์ออโตเมติกมากกว่า 20% สำหรับรถจักรยานยนต์แบบมีเกียร์ และมากกว่า 25% สำหรับรถจักรยานยนต์แบบสปอร์ตภายใน 3 ปีจากนี้

3. รักษาฐานลูกค้าด้วยบริการหลังการขาย ขยายเครือข่ายโชว์รูมยามาฮ่าสแควร์ ปรับปรุงศูนย์บริการให้มีมาตรฐานที่สูงขึ้น และขยายเครือข่ายอะไหล่ในพื้นที่เพื่อตอบรับความต้องการของลูกค้า และผู้ใช้รถจักรยานยนต์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

“ในระยะเวลา 3 ปีจากนี้ บริษัทฯ มีกลยุทธ์การพัฒนาสินค้าใหม่ๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพให้สามารถแข่งขันในตลาดได้ทุกเซกเมนต์ จะเปิดตัวรถจักรยานยนต์ยามาฮ่ารุ่นใหม่ทั้งสิ้น 12 รุ่น รวมถึงการ พัฒนาด้านเทคโนโลยีเครื่องยนต์ให้มีความทันสมัยมากขึ้น ตอกย้ำความโดดเด่นเรื่องการประหยัดน้ำมัน และการดีไซน์ของสินค้าที่ลงตัวตอบสนองความต้องการของผู้ใช้รถจักรยานยนต์แต่ละกลุ่มได้เป็นอย่างดี ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของยามาฮ่ามาโดยตลอด อีกทั้งปีนี้เป็นปีครบรอบ 50 ปี ของบริษัทฯ เราจึงถือเป็นโอกาสดีในการสร้างจุดเปลี่ยนให้กับแบรนด์ยามาฮ่าได้เติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อไปนายประพันธ์ กล่าวเสริม

นอกจากนี้ยามาฮ่าพร้อมสำหรับการเสริมสร้างประสิทธิภาพด้านเครือข่ายบริการ และอะไหล่ (3S) อันเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า ซึ่งในส่วนของการขายจะมีการเพิ่มเครือข่ายยามาฮ่าสแควร์ (YSQ) เป็นจำนวน 700 แห่งครอบคลุมทั่วประเทศ ภายใน 3 ปีรวมถึงการเพิ่มช่องทางการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าโดยการสื่อสารรูปแบบใหม่ๆ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 อีกทั้งตลาดรถบิกไบค์ ซึ่งมียอดจดทะเบียนเพิ่มมากขึ้นทุกปี ยามาฮ่าตั้งเป้าเปิดโชว์รูมรูปแบบใหม่ และขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายเพิ่มมากขึ้น โดยจะมีรถยามาฮ่าบิ๊กไบค์ทั้งสิ้น 7 รุ่น  ที่จะทำตลาดในปี 2014

ส่วนด้านการบริการหลังการขาย  จะมีการปรับปรุงศูนย์บริการรูปแบบใหม่ให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น และมีการขยายจำนวนศูนย์ซ่อมบำรุงหัวฉีด (YiS : Yamaha Innovative Service) ซึ่งถือว่าเป็นศูนย์บริการที่มีอุปกรณ์การตรวจเช็คระบบหัวฉีดที่ทันสมัยที่สุด นอกจากนั้นจะเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าผ่านโครงการบริการส่งอะไหล่เร่งด่วนภายใน 48 ชม. การรับประกันคุณภาพอะไหล่แท้ และอะไหล่ตกแต่ง รวมถึงการเพิ่มการบริการ Call Center สำหรับอะไหล่

ด้วยกลยุทธ์ทั้งหมดที่กล่าวมานี้  บริษัทฯ มีความมั่นใจว่าจะสามารถเพิ่มความพึงพอใจให้ลูกค้า  สร้างความแข็งแกร่งให้ตราสินค้า และสามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com

[GALLERY263]

5 เรื่องน่าสนใจ