เอเอเอสฯ เปิดรับจอง Bentley Bentayga S Hybrid และ Bentley Bentayga Azure Hybrid รุ่นใหม่ล่าสุด ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การขับขี่แบบเอสยูวีที่สมบูรณ์แบบ

  • โดย : PR Autodeft
  • 21 ต.ค. 65
  • 2,685 อ่าน

(กรุงเทพฯ 18 ตุลาคม 2565) บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลีย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดรับคำสั่งจอง 2 อัครยนตรกรรมเอสยูวีแบบไฮบริดรุ่นใหม่ล่าสุด Bentley Bentayga S Hybrid อัครยนตรกรรมแบบเอสยูวีกับความสปอร์ตแบบเต็มพิกัด และ Bentley Bentayga Azure Hybrid อัครยนตรกรรมแบบเอสยูวีกับที่สุดของความสะดวกสบายในการขับขี่ โดยอัครยนตรกรรมแต่ละรุ่นมี

• Bentayga S และ Azure เปิดรับคำสั่งจองแล้วกับเครื่องยนต์แบบไฮบริด

• แบตเตอรี่รุ่นใหม่มอบสมรรถนะที่ดียิ่งขึ้นและสามารถขับขี่ได้ไกลขึ้นกว่า 44 กิโลเมตรด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว

• แรงบิดเพิ่มขึ้นกว่า 15% หรือ กว่า 400 นิวตันเมตรจากการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า

• พละกำลังเพิ่มขึ้นกว่า 6% หรือ กว่า 134 แรงม้าจากการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า

• เครื่องยนต์แบบไฮบริดมอบสัมผัสแห่งความเงียบสงบสู่ความเร้าใจในการขับขี่

• Bentayga S Hybrid ให้การตอบสนองที่ฉับไวด้วยพละกำลังกว่า 456 แรงม้า

• แชสซีที่แข็งแรงขึ้น พร้อมความสามารถในการปรับ ESC และ โหมด SPORT ให้ตอบสนองที่ดียิ่งขึ้น พร้อมท่อไอเสียแบบสปอร์ตที่พัฒนาสำหรับรุ่น S Hybrid

• Bentayga Azure Hybrid เน้นความผ่อนคลายและความสะดวกสบายสูงสุดในทุกการเดินทางด้วยเทคโนโลยีและคุณสมบัติเพื่อการขับขี่

• อัครยนตรกรรมแต่ละรุ่นมีความแตกต่างกันด้วยคุณสมบัติการออกแบบที่ได้รับการศึกษาวิจัยและคิดค้นมาเป็นอย่างดี

 

เครื่องยนต์เบนซินรุ่น V6 ของ Bentayga Hybrid จะทำงานร่วมกับ มอเตอร์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่รุ่นใหม่ขนาด 18.0 กิโลวัตต์-ชั่วโมง มอบสมรรถนะในการขับขี่ที่โดดเด่น ตั้งแต่โหมดไฟฟ้าที่เงียบสนิท ปราศจากการปล่อยมลพิษไปจนถึงสมรรถนะการขับขี่ที่จะมอบประสบการณ์การเดินทางอันน่าตื่นเต้น โดยการออกแบบแนวสปอร์ตของ Bentayga S Hybrid จะดึงดูดผู้ขับขี่ให้ได้สัมผัสถึงพละกำลังกว่า 456 แรงม้า แต่สำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารเป็นหลัก Bentayga Azure Hybrid คือ อัครยนตรกรรมที่จะมอบความสะดวกสบายและความเงียบสงบ โดยทั้ง 2 รุ่นมีความสามารถในการขับขี่ที่ไกลขึ้นถึง 44 กิโลเมตรในโหมด EV แต่ยังคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพในการขับขี่อันเป็นจุดเด่นของเบนท์ลีย์

 

Bentayga S Hybrid

 

Bentayga S Hybrid รุ่นใหม่ได้เผยโฉมหลังจากการเปิดตัว Flying Spur S Hybrid เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งผู้ครอบครองสามารถสัมผัสสมรรถนะความสปอร์ตและการออกแบบที่โฉบเฉี่ยว พร้อมเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การขับขี่จากขุมพลังของเครื่องยนต์แบบไฮบริดจากอัครยนตรกรรมทั้ง 2 รุ่น

พละกำลังกว่า 456 แรงม้ามาจากเครื่องยนต์เบนซิน TFSI รุ่น V6 ขนาด 3.0 ลิตร และ มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 100 กิโลวัตต์ มอบอัตราเร่ง 100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 5.3 วินาที และ ความเร็วสูงสุด 254 กม./ชม. ด้วยแรงบิดเต็มสูบจากสมรรถนะของมอเตอร์ไฟฟ้า

 

Bentayga S Hybrid ใหม่ มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น โดยในโหมด Sport มีการพัฒนาเสียงในช่องเก็บเครื่องยนต์ V6 TFSi เพื่อเพิ่มอรรธรสความสปอร์ตในระหว่างการขับขี่ พร้อมกับความหน่วงในการขับขี่ที่เพิ่มขึ้น 15% ที่จะทำให้แชสซีมีความแข็งแกร่งขึ้น และ ผู้ขับขี่สามารถปรับ ESC ในโหมด SPORT ให้มีความไดนามิกมากขึ้น ในขณะที่ท่อไอเสียมีเอกลักษณ์ของรุ่น S ให้เสียงที่เร้าใจภายในห้องโดยสาร และยังสามารถปรับเอฟเฟกต์ต่างๆ สำหรับผู้โดยสารที่นั่งในตอนหน้าและหลังได้

ดีไซน์แห่งสุดยอดสมรรถนะ

 

การออกแบบที่สื่อถึงสุดยอดสมรรถนะของ Bentayga S Hybrid นั้น ชัดเจนตั้งแต่แรกเห็น เช่นเดียวกับอัครยนตรกรรมเบนท์ลีย์รุ่น S ของเบนท์ลีย์ Bentayga S Hybrid มาพร้อมชุดแต่ง Bentayga Blackline Specification อันเคร่งขรึมที่มีการใช้เฉดสีดำแทนที่โลหะขัดเงาสำหรับการตกแต่งภายนอกทั้งหมด ยกเว้นโลโก้เบนท์ลีย์ โดยมีกาบบันไดข้างและกระจกมองข้างเฉดสีดำ ไฟหน้าสีเข้ม กระจังหน้าเฉดสีดำ สเกิร์ตข้างเฉดสีดำ และ กันชนหน้าสไตล์ Speed พร้อมล้ออัลลอยด์แบบ S ขนาด 22 นิ้ว ดึงดูดสายตาด้วยตัวเลือกเฉดสีเงิน เฉดสีดำ หรือ เฉดสีผสมระหว่างสีดำและโลหะขัดเงาตัดกับคาลิปเปอร์เบรกสีแดง ส่วนท้ายรถแต่งด้วยสปอยเลอร์ท้ายแบบ Speed-style ไฟท้ายสีเข้ม และ ท่อไอเสียแบบวงรีเฉดสีดำเติมเต็มความสปอร์ตให้กับอัครยนตรกรรมเอสยูวีรุ่น S ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ภายในห้องโดยสารที่ร่วมสมัยและโดดเด่นได้ผสมผสานระหว่างหนังที่ผ่านกรรมวิธีแบบไร้รอยตำหนิจากเมืองครูว์และผิวสัมผัสของกำมะหยี่ Dinamica ที่ใช้สำหรับในรถแข่งมอเตอร์สปอร์ต พร้อมด้วยตัวเลือกหลากหลายเฉดสี คัดสรรมาอย่างพิถีพิถันเพื่อสร้างบรรยากาศความสปอร์ตภายในห้องโดยสาร สัมผัสพิเศษอีกประการหนึ่งคือมาตรวัดแบบดิจิทัลสำหรับผู้ขับขี่ โดยมีแป้นควบคุมที่ออกแบบให้สื่อถึงสมรรถนะของตัวรถเช่นเดียวกับที่ใช้ใน Bentayga Speed พร้อมกับการเพิ่มมาตรวัดพลังงานไฟฟ้าเข้ามา ผนวกกับเบาะโดยสารออกแบบพิเศษ พร้อมโลโก้รูปตัว ‘S’ บนแผงหน้าปัด กาบบันไดเรืองแสง และ พนักพิงศีรษะ

Bentayga Azure Hybrid

 

Bentley Bentayga Azure มอบสมรรถนะในการขับขี่ที่น่าตื่นเต้น แต่ยังคงเน้นความผ่อนคลายและความสะดวกสบายของผู้โดยสารภายในรถ ทำให้ทุกการเดินทางเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจไม่ว่าระยะทางจะไกลแค่ไหนก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ Bentayga Azure Hybrid ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถผ่อนคลายไปกับความเงียบสงบภายในห้องโดยสาร โดยเมื่อขับขี่ในระยะทางไกล การผสมผสานอันทรงพลังของเครื่องยนต์เบนซินรุ่น V6 ขนาด 3.0 ลิตร และ มอเตอร์ไฟฟ้ายังคงมอบการขับขี่ที่เงียบสงบและสมรรถนะที่เหนือชั้นเพื่อส่งมอบประสบการณ์การเดินทางที่เหนือระดับ

สิ่งสำคัญที่สุด 2 ประการที่มีผลต่อความผ่อนคลายภายในห้องโดยสาร คือ ความสะดวกสบายในการขับขี่ และ NVH ซึ่งย่อมาจาก Noise (เสียงรบกวน) Vibration (การสั่นสะเทือน) และ Harshness (ความแข็งกระด้าง) การวิจัยจากผู้คนหลายพันคนในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา พบว่าผู้ที่ได้ยินเสียงรบกวนบนท้องถนนมากกว่า 70 เดซิเบล (db) มีความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้าเพิ่มขึ้น 65% โดยจากตัวอย่างของ Bentayga EWB ได้พิสูจน์แล้วว่าเสียงรบกวนภายในห้องโดยสารมีความเงียบกว่าคู่แข่งระหว่าง 4% ถึง 26% ขึ้นอยู่กับความถี่และตำแหน่งภายในห้องโดยสาร ความสะดวกสบายในการขับขี่จึงเป็นตัวแปรสำคัญอีกประการหนึ่งที่ส่งผลต่อความผ่อนคลายภายในห้องโดยสาร โดยการขับขี่ที่นุ่มนวลย่อมส่งผลต่อการเดินทางที่ผ่อนคลาย สำหรับความเร็วบนท้องถนนทั่วไปและในช่วงความถี่ที่สำคัญตั้งแต่ 5 เฮิรตซ์ ถึง 20 เฮิรตซ์ Bentayga EWB มีการสั่นสะเทือนระหว่างการขับขี่ที่ต่ำกว่าคู่แข่งถึง 27%

Bentayga Azure Hybrid ให้ความสำคัญกับความสบายและความผ่อนคลายของผู้ขับขี่ผ่านการผสมผสานระหว่างการออกแบบ เทคโนโลยี และ งานฝีมือด้วยคุณสมบัติการกำหนดความสบายของเบาะโดยสารส่วนหน้า หรือ Front Seat Comfort Specification ซึ่งสามารถปรับได้ถึง 22 ทิศทาง พร้อมกับการปักเบาะโดยสารแบบ Diamond Quilting Specification เพื่อการระบายอากาศของเบาะโดยสารและรักษาอุณหภูมิที่เหมาะสมของร่างกาย พร้อมฟังก์ชั่นการปรับอุณหภูมิของพวงมาลัยแบบ 3 ก้านเพื่อความสบายและตื่นตัวขณะขับขี่

สำหรับความปลอดภัยในการขับขี่ของ Bentayga Azure Hybrid ได้รับการพัฒนาโดย Touring Specifications ซึ่งเป็นระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ พร้อมกับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติจะรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าตามที่กำหนด โดยจะลดความเร็วลง และ หยุดรถหากจำเป็น และ กลับมาทำงานตามความเร็วที่กำหนดไว้เมื่อเลนว่าง ซึ่งระบบจะทำงานร่วมกับ Lane Assist, Traffic Assist และ Bentley Safeguard ชุดเรดาร์ออนบอร์ดและระบบกล้องของเบนท์ลีย์ที่จะคอยตรวจสอบสภาพการจราจรและถนนโดยรอบอย่างต่อเนื่อง

 

ดีไซน์แห่งความผ่อนคลาย

 

ทีมงานของเบนท์ลีย์ได้ให้ความสำคัญกับ สี เนื้อสัมผัส และ การรับสัมผัส โดยคุณสมบัติสำหรับ Bentayga Azure Hybrid นั้นก็คือการใช้ ‘การปักเย็บเพื่อความผ่อนคลาย' โดยให้ภาพและสัมผัสที่น่าประทับใจบนเบาะบุนวมปักลวดลายเพชรที่รังสรรค์ขึ้นอย่างประณีต และ การตกแต่งด้วยไม้วีเนียร์เปลือย 3 แบบ ซึ่งได้แก่ Dark Walnut, Crown-Cut Walnut และ Koa มอบความเงาแบบละมุนเป็นทางเลือกแทนไม้วีเนียร์ที่มีความมันเงาสูง ผู้ครอบครองยังเพลิดเพลินกับตัวเลือกเฉดสีรองและการแบ่งเฉดสีกว่าอีก 15 เฉดสี โดยสามารถเลือกการเย็บแบบคอนทราสต์แบบมาตรฐานบนเบาะโดยสาร พร้อมโลโก้ Azure ตกแต่งบริเวณแผงหน้าปัด กาบบันไดแบบเรืองแสง และ การปักโลโก้บนเบาะโดยสาร โดยมีชุดแป้นเหยียบคันเร่งและเบรกสไตล์สปอร์ต ระบบไฟเฉดสีต่างๆ สำหรับสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร (Mood Lighting) และ พวงมาลัยทูโทนพร้อมระบบปรับอุณหภูมิ

สำหรับการออกแบบภายนอก Bentayga Azure Hybrid มีกระจังหน้าแบบ Matrix Style Grille สีโครเมียม โลโก้ Azure ล้ออัลลอยด์ 10 ก้าน ขนาด 22 นิ้ว พร้อมคาลิปเปอร์เบรคสีดำ และ การตกแต่งบริเวณฝาปิดช่องเติมเชื้อเพลิงที่ทั้งสง่างามและงดงามเหนือกาลเวลา

 

เส้นทางสู่อัครยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้า

 

Bentayga Hybrid ใหม่ทั้ง 2 รุ่นถือเป็นก้าวสำคัญบนเส้นทางของกลยุทธ์ Beyond100 ของเบนท์ลีย์ โดยภายในปี 2568 อัครยนตรกรรมเบนท์ลีย์ทุกรุ่นจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบไฮบริด ซึ่งจะเป็นปีที่เบนท์ลีย์มีการเปิดตัวอัครยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าเป็นครั้งแรก

 

งานวิจัยของเบนท์ลีย์เกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้ครอบครอง Bentayga Hybrid รุ่นแรกแสดงให้เห็นว่าลูกค้ากว่า 90% ใช้ Bentayga Hybrid เป็นประจำทุกวัน หรือ หลายวันในหนึ่งสัปดาห์ และ ลูกค้าเกือบ 100% ใช้โหมด EV โดยกว่าครึ่งใช้งานอย่างสม่ำเสมอสำหรับการเดินทางด้วยระยะทางน้อยกว่า 30 ไมล์ ซึ่งเครื่องยนต์แบบไฮบริดได้นำเสนอทางเลือกในช่วงการเปลี่ยนผ่านไปสู่อัครยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้า โดยให้ความคุ้นเคยกับการใช้จุดชาร์จเพื่อการเดินทางที่ราบรื่นในอนาคต

 

เอเอเอสฯ มอบข้อเสนอที่ดีที่สุดในการครอบครอง Bentley Bentayga S Hybrid ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 14.7 ล้านบาท และ Bentley Bentayga Azure Hybrid ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 15.2 ล้านบาท พร้อมการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริดนาน 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) การรับประกันจากโรงงานผู้ผลิตฯ และ ผู้ช่วยฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง นาน 3 ปีเต็ม โดยผู้ครอบครองสามารถเลือกแผนต่อระยะเวลาการรับประกันจากโรงงานผู้ผลิต (Bentley Extended Warranty) สูงสุด 4 ปี
 

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด โทร. 080-925-9999 หรือ 02-261-1050 LINE Official Account: @bentleybangkokaas คลิก https://lin.ee/4JOaZyE8V

 

# # # #

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ