เบนท์ลีย์ มอเตอร์สยืนยันแผนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าคันแรก พร้อมลงทุนกว่า 2.5 พันล้านปอนด์ ตอกย้ำภาพลักษณ์ความยั่งยืนองค์กร

อัครยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าคันแรกของเบนท์ลีย์จะได้รับการพัฒนาและประกอบขึ้นในสหราชอาณาจักรด้วยงบประมาณการลงทุนกว่า 2.5 พันล้านปอนด์ หรือ ประมาณ 111,986,400 บาท ตอกย้ำภาพลักษณ์ด้านความยั่งยืนขององค์กรในอีกทศวรรษข้างหน้า

การประกาศดังกล่าวเป็นแรงผลักดันสำคัญสำหรับระบบเศรษฐกิจในสหราชอาณาจักร และยังถือเป็นก้าวย่างที่สำคัญสำหรับเบนท์ลีย์สู่การเป็นผู้ผลิตอัครยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าแบบเต็มรูปแบบ

อัครยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าคันแรกมีกำหนดจะออกจากสายการผลิตในปี 2025 และจะถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญในประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีชื่อเสียงของเบนท์ลีย์ นอกจากนี้ยังเป็นก้าวที่สำคัญสำหรับแผนกลยุทธ์ ‘Beyond100’ ซึ่งได้ประกาศการดำเนินงานไปในปี 2020 เพื่อตอกย้ำความเป็นองค์กรที่ใช้พลังงานไฟฟ้าและมีความเป็นกลางทางคาร์บอนทั้งระบบในปี 2030

แผนการลงทุนครั้งสำคัญนี้จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของเบนท์ลีย์ และโรงงาน ณ เมืองครูว์ ด้วยการลงทุนด้านระบบที่มีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

Adrian Hallmark ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส กล่าวว่า “Beyond100” คือกลยุทธ์ที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมที่สุดของเบนท์ลีย์และในตลาดขณะนี้ เป็นแผนงานที่มุ่งเน้นด้านความเป็นกลางทางคาร์บอนของระบบธุรกิจทั้งหมดของเรา โดยรวมถึงการเปลี่ยนไปใช้พลังงานไฟฟ้าแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ในระยะเวลาเพียง 8 ปี

“เป้าหมายของเราคือการเป็นมาตรฐานที่ไม่เพียงแค่การผลิตอัครยนตรกรรมหรือการรับรองด้านความยั่งยืนเท่านั้น แต่รวมถึงขอบเขตการดำเนินงานทั้งหมดของเราด้วย โดยแผนการผลิตอัครยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าคันแรก ถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับเบนท์ลีย์และสหราชอาณาจักร และเป็นส่วนสำคัญสำหรับอนาคตที่ยั่งยืนของเรา”

Peter Bosch กรรมการบริหารฝ่ายผลิต เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส กล่าวเสริมว่า “วันนี้อาจเป็นวันที่สำคัญที่สุดของเบนท์ลีย์ และเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงการทำงานหนักและทักษะของเพื่อนร่วมงานของเรา การเดินทางของเราได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เราได้ปักธงความสำเร็จในการผลิตอัครยนตรกรรม และได้เปลี่ยนผ่านสู่องค์กรที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนด้วยการรับรองด้านสิ่งแวดล้อมชั้นนำในอุตสาหกรรม และด้วยแนวคิด 'Dream Factory' เราได้เริ่มลดการใช้น้ำ ของเสีย และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้านอื่นๆ จนถึงปี 2030 นอกจากนี้ งานฝีมืออันเป็นเอกลักษณ์ ปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า และประสบการณ์ของพนักงานจะได้รับการพัฒนาด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ประกอบกับความยืดหยุ่นที่เพิ่มมากขึ้น และแนวทางใหม่ในการปรับเปลี่ยนในแบบเฉพาะตัว โดยเราจะพัฒนาให้เป็นมาตรฐานของการผลิตอัครยนตรกรรมหรูแห่งอนาคต”

เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลีย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ดำเนินรอยตามแผนแม่บท ‘BEYOND100’ กลยุทธ์ที่ว่าด้วยเส้นทางสู่ผู้ผลิตอัครยนตรกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนขององค์กร ด้วยการลงทุนด้านเทคโนโลยี อุปกรณ์ เครื่องมือสำหรับดูแลรักษารถยนต์เบนท์ลีย์ไฮบริดนำเข้าจากโรงงานผู้ผลิต และด้านการพัฒนาบุคลากรในส่วนงานบริการหลังการขายให้มีความรู้และความเชี่ยวชาญในเรื่องของการดูแลรักษาเครื่องยนต์ไฮบริด ตลอดจนการนำระบบซอฟแวร์ในการดูแลและบริการลูกค้ามาใช้เพื่อมอบประสบการณ์การบริการหลังการขายที่เหนือระดับให้กับลูกค้าคนสำคัญ