ถอดรหัสเทคโนโลยียานยนต์ของ MG ที่จะทำให้คนไทยขยับเข้าใกล้เทรนด์ยานยนต์โลกมากยิ่งขึ้น

  • โดย : พิสน ลีละหุต
  • 31 ก.ค. 63
  • 3,257 อ่าน

เทคโนโลยีของโลกยานยนต์เวลานี้ ทุกคนคงทราบกันดีว่า ทิศทางของทุกค่ายรถคือการพัฒนาโดยมุ่งเน้นไปที่ “ยานยนต์ไฟฟ้า” (Electric Vehicle) เนื่องด้วยปัญหาในเรื่องของมลพิษ ที่กำลังคุกคามสุขภาพของทุกคนและทำลายสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอากาศที่เราหายใจเข้าไป ดังนั้นรัฐบาลในหลายประเทศทั่วโลกจึงมีมาตรการทางกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อมออกมาบังคับใช้ เพื่อบรรเทาปัญหามลพิษที่กำลังเข้าสู่ขั้นวิกฤต และในปัจจุบันแนวทางแก้ไขปัญหาด

MG

คำว่า รถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV (Electric Vehicle) นั้นมีความหมายที่ค่อนข้างกว้าง ครอบคลุมถึงรถทุกชนิดที่มีการใช้พลังงานไฟฟ้าเข้ามาเกี่ยวข้องในระบบขับเคลื่อน ซึ่งสามารถจำแนกแยกย่อยออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ ได้แก่ รถไฮบริด (HEV) รถปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ 100% (BEV) ทั้งนี้รถแบบไฮบริดและปลั๊กอินไฮบริดนั้น ระบบขับเคลื่อนยังต้องมีเครื่องยนต์เข้ามาเกี่ยวเนื่องด้วย จึงถือเป็นเทคโนโลยีที่ใช้สำหรับการเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้รถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ หรือรถยนต์ไฟฟ้าชนิดใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ 100% ที่ไม่มีมลพิษหรือไอเสียออกมาเลยเรียกว่า Zero Emission

 

รถยนต์เครื่องยนต์สันดาป

(ICE)

รถยนต์ไฮบริด

(HEV)

รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด

(PHEV)

รถยนต์ไฟฟ้า 100%

(BEV)

แหล่งพลังงาน

น้ำมัน

น้ำมัน + ไฟฟ้า

น้ำมัน + ไฟฟ้า

ไฟฟ้า

ระบบการขับเคลื่อน

เครื่องยนต์

เครื่องยนต์ + เครื่องกำเนิดไฟฟ้า+ เครื่องแปลงกระแสไฟ+ มอเตอร์ไฟฟ้า + แบตเตอรี่

เครื่องยนต์ +  เครื่องกำเนิดไฟฟ้า+ เครื่องแปลงกระแสไฟ+ มอเตอร์ไฟฟ้า + แบตเตอรี่

เครื่องแปลงกระแสไฟ + มอเตอร์ไฟฟ้า + แบตเตอรี่

ค่าใช้จ่ายของเชื้อเพลิง (บาทต่อกิโลเมตร)*

มากกว่า 1 บาท

มากกว่า 1 บาท

น้อยกว่า 1 บาท

น้อยกว่า 1 บาท

ค่าบำรุงรักษา

ปานกลาง
(ระบบเครื่องยนต์อย่างเดียว)

สูง
(ระบบเครื่องยนต์ และระบบไฟฟ้า)

สูง
(ระบบเครื่องยนต์และระบบไฟฟ้า)

น้อย
(ระบบไฟฟ้าอย่างเดียว)

มลพิษทางอากาศ

สูง

ปานกลาง

น้อย

ไม่มี

จากข้อมูลการศึกษาของ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยคำนวณจากค่าเฉลี่ยของอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานบน ECO Sticker เทียบกับราคาเชื้อเพลิงในเดือนมิถุนายน 2563 และอัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยทั่วประเทศ (ข้อมูลอ้างอิงจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เดือนมิถุนายน 2563)

MG

เมื่อกล่าวถึงรถยนต์ไฟฟ้า SAIC Motor คือหนึ่งในผู้นำทางด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าอันดับต้นๆ ของโลกและเป็นบริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ในจีน ที่มียอดขายรถยนต์รวมกว่า 7 ล้านคันต่อปี โดยมียอดขายรถไฟฟ้า ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2011 จนถึงปัจจุบัน สูงถึง 270,000 คันทั่วโลก

ปัจจุบัน SAIC Motor ยังคงพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีการแนะนำออกมาแล้วถึง 14 รุ่น แบ่งเป็น รถไฮบริด (HEV) 8 รุ่น และรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV (Electric Vehicle) 6 รุ่น โดยได้เพิ่มขีดความสามารถของผลิตภัณฑ์ ทั้งในด้านของระยะทางการขับขี่ ระบบการควบคุมอัตโนมัติ ระบบขับเคลื่อน และระบบการเชื่อมต่ออย่างต่อเนื่อง

สำหรับประเทศไทย SAIC Motor ได้จับมือกับพันธมิตรสำคัญอย่างเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP)ก่อตั้ง SAIC Motor-CP ขึ้น ส่งผลให้ประเทศไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการผลิตและส่งออกรถยนต์พวงมาลัยขวา ภายใต้แบรนด์ MG อีกทั้งยังสร้างจุดเปลี่ยนให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย โดยเป็นผู้ริเริ่มในการนำเทคโนโลยี และนวัตกรรมต่างๆ มาปรับใช้ในรถยนต์เอ็มจีทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็นระบบปฎิบัติการอัจฉริยะ i-SMART ที่สามารถสั่งการด้วยเสียงภาษาไทยได้เป็นครั้งแรกของโลก ระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป Advanced Synchronized Protection System ที่โดดเด่นด้วยระบบช่วยขับขี่ Advanced Driver Assistance System (ADAS) รวมถึงการเปิดตัว NEW MG ZS EV รถยนต์ไฟฟ้าชนิดที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ 100% รุ่นแรกของเอ็มจี ที่ทำให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยคึกคักขึ้นอีกครั้ง

MG

NEW MG ZS EV รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ที่พร้อมมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่า ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้การใช้งานรถไฟฟ้าเป็นเรื่องที่ “ง่าย” สำหรับทุกคน

NEW MG ZS EV ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าที่มีพละกำลังสูงสุดถึง 110 kWh หรือเทียบเท่า 150 แรงม้า พร้อมแรงบิดที่มีมากถึง 350 นิวตันเมตร ดีที่สุดในรถระดับเดียวกัน ตอบสนองผู้ขับขี่ได้ทันท่วงที ซึ่งกำลังที่ดีเยี่ยมนั้นเป็นผลมาจากเทคโนโลยีสุดล้ำ Hair-Pin Winding Design Technology ที่ช่วยให้มอเตอร์ไฟฟ้าส่งกำลังได้เต็มประสิทธิภาพ

MG

ขณะที่แบตเตอรี่ของ NEW MG ZS EV เป็นแบบลิเธียม-ไอออน (Lithium-ion) ขนาด 44.5 kWh วิ่งได้ระยะทางสูงสุดถึง 337 กิโลเมตร ตามมาตรฐานความประหยัดพลังงานและมลพิษ New European Driving Cycle  (NEDC) มาพร้อมกับระบบ Cooling System แบบ Liquid Cooling โดยมีระบบน้ำหล่อเย็นช่วยระบายความร้อนที่เกิดขึ้นในขณะใช้งาน เพื่อให้แบตเตอรี่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น  มากกว่านั้น SAIC Motor ยังได้พัฒนาเทคโนโลยีการเปลี่ยนแบตเตอรี่แบบ Module โดยสามารถเปลี่ยนเฉพาะโมดูลที่เสียหายได้ ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ทั้งหมด ช่วยลดค่าบำรุงรักษาในระยะยาว นอกจากนี้ ยังมีการรับประกันแบตเตอรี่ยาวนานถึง 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร

ในส่วนของการชาร์จแบตเตอรี่นั้น สามารถชาร์จง่ายๆ ได้ที่บ้าน ผ่าน MG Home Charger โดยเมื่อชาร์จไฟเต็ม 100% ระบบจะทำการตัดไฟอัตโนมัติโดยไม่ต้องถอดที่ชาร์จออก จึงสามารถชาร์จทิ้งไว้ได้ทั้งคืน ทำให้พร้อมออกเดินทางในตอนเช้าได้ทันที และในกรณีที่ต้องเดินทางไกล จะสามารถตรวจสอบสถานีชาร์จไฟฟ้าสาธารณะได้ผ่านระบบ i-SMART ซึ่งเมื่อแบตเตอรี่มีระดับต่ำ ระบบจะมีการเตือนอัตโนมัติผ่านทางหน้าจอของรถ พร้อมทั้งแนะนำจุดชาร์จที่ใกล้ที่สุด

MG

ความโดดเด่นของ NEW MG ZS EV นอกจากการเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่ปล่อยมลพิษซึ่งเหนือกว่ารถแบบไฮบริดทุกประเภทแล้ว NEW MG ZS EV ยังมีค่าบำรุงรักษาที่ต่ำกว่าอีกด้วย เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้า มีจำนวนชิ้นส่วนน้อยกว่าระบบอื่นๆ จึงทำให้ดูแลรักษาง่ายและประหยัดได้มากขึ้น โดยมีค่าใช้จ่ายในการเช็คระยะรวม 100,000  กิโลเมตร เพียง 8,545 บาท ซึ่งถูกกว่ารถยนต์สันดาปปกติถึง 3 เท่า

NEW MG ZS EV ถือเป็นหนึ่งบทพิสูจน์ที่แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงของแบรนด์รถยนต์เอ็มจี ที่มุ่งมั่นพัฒนาให้ได้มาซึ่ง “สิ่งที่ดียิ่งกว่า” (Passion to be Better) เพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัส และเข้าถึงยนตรกรรมแห่งอนาคตได้ง่ายยิ่งขึ้น ด้วยราคาที่คุ้มค่า เพียง 1,190,000 บาท บวกกับฟังก์ชั่นและเทคโนโลยีที่อำนวยทั้งความสะดวกและระบบความปลอดภัยแบบจัดเต็ม ทำให้ NEW MG ZS EV ขึ้นแท่นเป็นผู้นำตลาดรถพลังงานไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) ในประเทศไทย ด้วยการครองส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 91.5% ในปีที่ผ่านมา

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ