จีเอ็ม โฮลเด้น เพิ่มวิศวกร 150 ตำแหน่ง ในประเทศออสเตรเลีย เน้นการพัฒนายานยนต์ ขั้นสูง

จีเอ็ม โฮลเด้น ประกาศว่า ทีมวิศวกรชาวออสเตรเลียใหม่ล่าสุดนี้ จะมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับ และระบบส่งกำลังไฟฟ้า (Electric powertrains) ในอนาคต โดยวิศวกรใหม่ จะทำงานร่วมกับทีมวิศวกรและนักออกแบบของจีเอ็ม โฮลเด้น ที่มีอยู่ก่อนแล้ว

การประกาศดังกล่าวเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับงานวิศวกรรมทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งรวมถึงศูนย์ Technical Center ต่างๆ ของจีเอ็มในประเทศอินเดีย ประเทศเกาหลี และประเทศไทย การขยายงานด้านวิศวกรรมของจีเอ็ม โฮลเด้น เกิดขึ้นหลังการประกาศเรื่องจีเอ็ม เกาหลีใต้ได้รับรางวัลระดับโลกในด้านการออกแบบ วิศวกรรม และการพัฒนารถอเนกประสงค์ระดับโลกรุ่นใหม่ แรงงานด้านวิศวกรรมของจีเอ็ม เกาหลีใต้ จะมีมากกว่า 3,000 คน ในเร็วๆ นี้ โดยเป็นวิศวกรใหม่ที่รับเพิ่มจำนวน 100 คน

        ศูนย์ Technical Center ของจีเอ็มในประเทศอินเดีย เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในฝ่ายวิศวกรรมเครื่องยนต์ระดับโลกของเจนเนอรัล มอเตอร์ส ศูนย์ดังกล่าวประกอบด้วยสตูดิโอการออกแบบและศูนย์วิศวกรรม ซึ่งมีจำนวนพนักงานมากกว่า 2,500 คน โดยเป็นวิศวกร ช่างเทคนิค และนักออกแบบที่มีความเชี่ยวชาญสูง

        ในประเทศไทย จีเอ็มมีวิศวกรจำนวน 150 คน ปฏิบัติงานอยู่ในหลายแผนก ได้แก่ ฝ่ายการผลิต ความปลอดภัย คุณภาพ และวิศวกรรมด้านผลิตภัณฑ์  

        ก่อนที่จะเยี่ยมชมสนามทดสอบรถแลง แลง (Lang Lang) ซึ่งใช้เป็นสนามทดสอบรถยนต์โฮลเด้น และรถยนต์ของจีเอ็มทั่วโลกมานานกว่า 60 ปี นายมาร์ก รอยส์ รองประธานบริหาร และประธานกรรมการของจีเอ็ม ฝ่ายกลุ่มผลิตภัณฑ์ระดับโลกและคาดิลแลค กล่าวที่สำนักงานใหญ่ของโฮลเด้น ในเมืองเมลเบิร์นว่า ทีมวิศวกรชาวออสเตรเลียจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับทีมวิศวกรของจีเอ็มทั่วโลกในการพัฒนาเทคโนโลยี ชั้นนำต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนยานยนต์แห่งอนาคต

        “จีเอ็มมุ่งมั่นที่จะเป็นบริษัทแรกที่นำยานยนต์ที่มีความปลอดภัยและไร้คนขับ เข้าสู่ตลาดยานยนต์เป็นรายไตรมาส แทนที่จะเป็นรายปี  เรากำลังเดินหน้าสู่อนาคตแห่งการขับขี่ที่ไร้คนขับ มีถนนที่ปลอดภัยขึ้น และอุบัติเหตุเป็นศูนย์ และในขณะเดียวกัน จีเอ็มก็กำลังดำเนินการตามแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างน้อย 20 รุ่น ภายในปี 2566” นายมาร์ก กล่าว

        “ความสามารถด้านวิศวกรรมยานยนต์ระดับโลกที่เรามีอยู่ที่โฮลเด้นในประเทศออสเตรเลียจะมีบทบาทที่สำคัญต่อจีเอ็มในการดำเนินตามความมุ่งมั่นที่จะสร้างโลกที่มีอุบัติเหตุเป็นศูนย์ ไร้มลพิษและปราศจากความแออัด”

        ทีมงานด้านการออกแบบ ด้านวิศวกรรม และด้านการพัฒนายานยนต์ของโฮลเด้นจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นมากกว่า 500 คน หลังจากการรับพนักงานครั้งล่าสุดนี้ โดยพนักงานใหม่จำนวน 150 คน จะมีทั้งวิศวกรที่มีประสบการณ์การทำงาน และที่เพิ่งจบการศึกษา     

        จีเอ็ม โฮลเด้นและทีมดูแลโครงการยานยนต์ต่างๆ ของจีเอ็มระดับโกลเบิลนั้น มีการติดต่อและทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ทีมวิศวกรและช่างเทคนิคของจีเอ็ม โฮลเด้นได้ทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงานในภูมิภาคในการปรับแต่ง ทดสอบ และส่งมอบรถกระบะโคโลราโด และรถอเนกประสงค์เทรลเบลเซอร์รุ่นล่าสุด             ซึ่งจำหน่ายภายใต้แบรนด์เชฟโรเลตทั่วภูมิภาคนี้ ทีมวิศวกรของจีเอ็ม โฮลเด้นได้พัฒนาและทดสอบขับรถยนต์นับพันไมล์ที่สนามทดสอบรถยนต์ และศูนย์ Technical Center ในเมืองเมลเบิร์น

        จีเอ็ม โฮลเด้นยังเป็น "โฮมรูม" (Homeroom) ทางวิศวกรรม สำหรับคิดค้นอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ที่เราพบเห็นในรถกระบะโคโลราโด และรถอเนกประสงค์เทรลเบลเซอร์ ซึ่งจำหน่ายทั่วภูมิภาคนี้ ภายใต้แบรนด์โฮลเด้น และเชฟโรเลต

        นายเบรทท์ วิเวียน ผู้อำนวยการบริหาร ฝ่ายวิศวกรรมของจีเอ็ม โฮลเด้น กล่าวว่า วิศวกรชาวออสเตรเลียทั้งหลายมีบทบาทสำคัญในการพัฒนารถยนต์สำหรับโฮลเด้น และจีเอ็มทั่วโลก มาตั้งแต่ปี 2489 และจะดำเนินบทบาทสำคัญนี้ต่อไป

        “การประกาศเรื่องการขยายทีมวิศวกรใหม่เพิ่มขึ้นจำนวน 150 คน ที่จะทำงานให้โฮลเด้นในการพัฒนายานยนต์ขั้นสูงระดับโลก นี่เป็นการพัฒนาสำคัญสำหรับห้องทดสอบการปล่อยมลพิษและสนามทดสอบรถแลง แลง" นายวิเวียนกล่าว

        “ฝ่ายวิศวกรรมของโฮลเด้นมีอนาคตที่สดใสภายใต้การดำเนินงานที่สำคัญทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับโลก ตั้งแต่การสร้างความเชื่อมั่นว่า รถยนต์นำเข้าของโฮลเด้น สามารถเอาชนะสภาวะการขับขี่ที่มีลักษณะเฉพาะของประเทศออสเตรเลียได้ และเพื่อการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ ที่จะเป็นพลังในการสร้าง     ยานยนต์แห่งอนาคตทั่วโลก”

        “จากประกาศในวันนี้ เราจะมีการใช้จ่ายมากกว่า 120 ล้านดอลลาร์ต่อปี (หรือประมาณ 3,960 ล้านบาท) ในการวิจัยและพัฒนายานยนต์ เพื่อการดำเนินงานของเราในประเทศออสเตรเลีย"

        นายวิเวียน กล่าวว่า “โฮลเด้นได้สรรหาคนที่เป็น “สุดยอด” (The best of the best) ในประเทศออสเตรเลียทั้งที่มีประสบการณ์เพิ่งจบการศึกษาเข้าร่วมกับทีมงาน” 

        “เราต้องการพลังความคิดสร้างสรรค์ด้านวิศวกรรมจากคนรุ่นใหม่ในประเทศ และสิ่งนี้จะเป็นโอกาสที่ดีในการทำงานด้านผลิตภัณฑ์ของจีเอ็มทั่วโลก และเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมในอุตสาหกรรมนี้” นายวิเวียน กล่าว