Lamborghini Urus Performante สัมผัสปรากฏการณ์ใหม่แห่งมาตรฐานซูเปอร์เอสยูวีระดับโลก

  • โดย : PR Autodeft
  • 23 ส.ค. 65
  • 3,124 อ่าน

Sant’Agata Bolognese/Pebble Beach 19 สิงหาคม 2565 - ออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี (Automobili Lamborghini) สุดยอดแบรนด์ซูเปอร์สปอร์ตคาร์หรูระดับโลกสัญชาติอิตาลี ประกาศเปิดตัว “Urus Performante” ปรากฏการณ์ใหม่แห่งสุดยอดสมรรถนะและสัมผัสการขับขี่แนวสปอร์ตในแบบฉบับซูเปอร์เอสยูวี ภายใต้รูปลักษณ์ที่สะท้อนถึงความหรูหราเหนือระดับของยานยนต์ Urus พร้อมสะกดทุกสายตาทั้งบนท้องถนน สนามแข่งขัน หรือแม้แต่บนเส้นทางสุดทรห

• พบกับมาตรฐานใหม่แห่งสุดยอดสมรรถนะซูเปอร์เอสยูวีเพื่อ “การขับขี่ที่เร้าใจ”

• เหนือระดับด้วยดีไซน์อากาศพลศาสตร์แบบใหม่และการลดน้ำหนักให้เบายิ่งขึ้น

• บอดี้โหลดต่ำและกว้างขึ้น แต่น้ำหนักเบาลงถึง 47 กิโลกรัม พร้อมกำลังเครื่องยนต์สูงสุดที่ 666CV เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ของอัตราส่วนน้ำหนักต่อกำลังเครื่องยนต์ของซูเปอร์เอสยูวี

• มอบอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 3.3 วินาที และทำความเร็วสูงสุดที่ 306 กม./ชม.

• ปรับจูนโหมดการขับขี่ที่ลงตัวกว่าเดิม และเสริมโหมด RALLY สำหรับทางดิน 

ก่อนการเปิดตัว Urus Performante ยังได้สร้างสถิติใหม่ในหมวดยานยนต์เอสยูวี จากการทดสอบวิ่งบนทางลาดชันสุดหฤโหดของ Pikes Peak International Hill Climb Road ที่มีระดับความสูงกว่า 4,302 เมตร (14,115 ฟุต) โดยสามารถทำเวลาเพียง 10:32.064 นาที ทุบสถิติเดิมที่เคยมีไว้ที่ 10:49.902 นาที เมื่อปี 2018

 

Urus Performante คือ การยกระดับสมรรถนะการขับขี่และรูปลักษณ์ที่หรูหราของยานยนต์เอสยูวีลัมโบร์กินีให้เหนือขึ้นไปอีกขั้น โดยยังคงรักษามาตรฐานการใช้งานแบบอเนกประสงค์ที่หรูหราสะดวกสบาย และผสานประสบการณ์การขับขี่ที่เป็นหนึ่งเดียวกับยานยนต์ไว้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งไม่เพียงเฉพาะการใช้งานบนท้องถนนประจำวัน แต่ยังมอบความโดดเด่นบนทุกเส้นทางด้วยดีไซน์อันหรูหราน่าประทับใจ จนถือเป็นเกณฑ์สมรรถนะใหม่ของวงการยานยนต์ระดับโลกเลยทีเดียว” สเตฟาน วิงเคิลมันน์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี กล่าว “รถยนต์ Urus รุ่นนี้สร้างมาตรฐานใหม่ทันทีที่เปิดตัว แสดงให้เห็นถึงความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีของลัมโบร์กินี เพื่อการสร้างสรรค์ซูเปอร์เอสยูวีรุ่นแรกของโลกสู่อุตสาหกรรมยานยนต์อย่างเต็มภาคภูมิ เพราะ Urus Performante ยกระดับมาตรฐานของวงการเอสยูวีอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน”

สุดยอดงานออกแบบเพื่อสมรรถนะขั้นสูง

 

Urus Performante สะกดทุกสายตาตั้งแต่แรกเห็นด้วยดีไซน์แนวอากาศยานในทุกมุมมอง โดดเด่นตั้งแต่รูปลักษณ์ด้านหน้า ด้วยงานออกแบบฝากระโปรงและแผงกันชนขนาดใหญ่โดยใช้รูปทรงที่เฉียบคม เพื่อสื่อถึงดีเอ็นเอสายพันธุ์ซูเปอร์สปอร์ตของ Performante อย่างเด่นชัดโดยยังคงแฝงกลิ่นอายแห่งความหรูหราภูมิฐานของรถยนต์ Urus ไว้อย่างกลมกลืน นอกจากนี้ Urus Performante ยังเน้นการใช้วัสดุคอมโพสิตในการผลิต ทำให้เป็นรถยนต์รุ่นที่ใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ในสัดส่วนสูงที่สุดในรถยนต์เซกเมนต์เดียวกัน

 

“งานดีไซน์ที่ดุดันและโดดเด่นของ Urus Performante ผสานเข้ากับระบบอากาศพลศาสตร์ที่ปรับปรุงใหม่ได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งทั้งสองด้านต่างช่วยส่งเสริมซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะม่านอากาศบนแผงกันชนหน้ากับงานออกแบบแนวใหม่เพื่อมอบความสวยงามที่แตกต่าง รวมถึงฝากระโปรงคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบารุ่นใหม่ และการใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ในส่วนต่าง ๆ เกือบทั้งหมดซึ่งถือเป็นแบบฉบับการสร้างสรรค์ยานยนต์ Performante ที่ตกทอดกันมาของลัมโบร์กินี ทำให้ Urus Performante คือซูเปอร์เอสยูวีที่ผสานความเป็นหนึ่งเดียวกับนักขับได้อย่างสมบูรณ์แบบ” มิตจา โบร์เคิร์ต ผู้อำนวยการฝ่ายการออกแบบ กล่าว

Urus Performante มีการออกแบบเส้นสายบนฝากระโปรงให้ยาวต่อเนื่องลงมาถึงแผงกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ และมาพร้อมช่องระบายลมวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์สีเดียวกับตัวรถ โดยลูกค้าสามารถเลือกแบบโชว์วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ได้ ทั้งยังสามารถเลือกหลังคาเป็นวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ให้เหมือนกับยานยนต์ซูเปอร์สปอร์ตของลัมโบร์กินีอย่าง Huracán Performante และ Super Trofeo ได้ตามต้องการ

 

แผงกันชนหน้าและสปลิตเตอร์วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ถูกออกแบบให้มีเส้นสายใหม่ที่ดูดุดันกว่าเดิม ช่องดักอากาศสีดำด้านหน้าช่วยเสริมประสิทธิภาพการระบายความร้อนเครื่องยนต์พร้อมเพิ่มความดุดันแนวซูเปอร์สปอร์ตอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ม่านดักลมแบบใหม่นั้นทำให้อากาศไหลเข้าทางล้อหน้าได้มากขึ้น และผสานกับการออกแบบตรงช่องระบายลมบนฝากระโปรง ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์พร้อมทำให้เครื่องยนต์เย็นลง ส่วนสปอยเลอร์ด้านหลังดีไซน์ใหม่ยังช่วยเพิ่มแรงกดด้านหลังของ Urus Performante ได้อีก 38% 

การออกแบบสปริงใหม่ยังช่วยให้โครงแชสซีของ Performante ต่ำลงอีก 20 มม. และเพิ่มความกว้างฐานล้อขึ้นอีก 16 มม. ซุ้มล้อวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ สามารถจับคู่กับล้อน้ำหนักเบาขนาด 23 นิ้วหรือแบบมาตรฐาน 22 นิ้ว พร้อมน็อตไทเทเนียมและยาง Pirelli ที่พัฒนาขึ้นเพื่อรุ่นนี้โดยเฉพาะ

 

Urus Performante โหลดตัวรถให้ต่ำลงเพื่อเสริมภาพลักษณ์ที่บึกบึนด้วยการออกแบบกันชนหน้าและหลังขนาดใหญ่ ซึ่งเพิ่มความยาวตัวรถ 25 มม. การออกแบบด้านหลังมีความสวยงามไม่แพ้ด้านหน้าด้วยสปอยเลอร์ขนาดใหญ่และการออกแบบฟินสปอยเลอร์หลังที่ทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์นั้นได้แรงบันดาลใจจากรุ่น Aventador SVJ ซึ่งช่วยเพิ่มแรงกดให้ตัวรถ

 

กันชนหลังและดิฟฟิวเซอร์ใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ มาพร้อมกับท่อไอเสียแบบ Akrapovic วัสดุไทเทเนียมน้ำหนักเบาเป็นมาตรฐาน ช่วยเพิ่มพลังเสียงที่กระหึ่มทรงพลังอันเป็นเอกลักษณ์ของลัมโบร์กินีซึ่งจะแตกต่างไปตามโหมดการขับขี่ที่เลือก ยิ่งไปกว่านั้นการใช้ธีมสีทูโทนยังช่วยเสริมภาพลักษณ์ของ Performante ให้โดดเด่นขึ้น จากการทำชิ้นส่วนอื่น ๆ ให้มีสีแตกต่างจากตัวรถ ทั้งมือจับประตูสีดำ ช่องระบายลมคาร์บอนไฟเบอร์เคฟลาร์บนฝากระโปรงและสปอยเลอร์ลิปคาร์บอนไฟเบอร์เคฟลาร์ เป็นต้น

การออกแบบห้องโดยสารภายในตกแต่งด้วย Alcantara สีดำ Nero Cosmus เป็นมาตรฐาน พร้อมงานเย็บเบาะนั่งหกเหลี่ยมในสไตล์ “Performante Trim” นอกจากนี้ยังเลือกออปชันเสริมได้จากธีมการตกแต่งด้วยหนังทั้งคัน และสีสันภายใน โดยสามารถเลือกสไตล์ “Performante Trim” ให้ครอบคลุมทั้งในส่วนประตู เส้นแนวหลังคา พนักพิง และผนังด้านหลังห้องโดยสาร รวมถึงโปรแกรมการตกแต่งเฉพาะแบบ Ad Personam ของลัมโบร์กินีที่มีตัวเลือกวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ผิวด้านเพื่อการตกแต่งภายใน มือจับประตูสีแดง และขอบประตูพร้อมโลโก้ Ad Personam สำหรับพวงมาลัย Alcantara และหนังสีดำตกแต่งในโทนสีดำด้านให้เข้ากับห้องโดยสารธีมอลูมิเนียมชุบดำ สำหรับออปชั่น “Dark Package” จะสามารถเลือกการตกแต่งโทนสีดำด้านให้ครอบคลุมรายละเอียดของห้องโดยสารส่วนอื่น ซึ่งรวมถึงส่วนก้านของแผงควบคุมกลาง TAMBURO ที่ควบคุมฟังก์ชั่นทั้งปุ่มเปิด/ปิดเครื่องและตัวเลือกโหมดการขับขี่ต่าง ๆ ส่วนการแสดงผลกราฟิก HMI เป็นแบบใหม่ที่ออกแบบสำหรับ Urus Performante โดยเฉพาะ

สุดยอดระบบวิศวกรรมเพื่อการขับขี่ที่เหนือระดับ

 

Urus Performante เปรียบเสมือนนักกีฬาน้ำหนักเบาที่เปี่ยมไปด้วยพละกำลัง มาพร้อมรูปทรงที่แข็งแรงบึกบึน ดีไซน์สวยงามโดดเด่น เครื่องยนต์ V8 Twin Turbo และท่อไอเสียแบบสปอร์ตน้ำหนักเบา ที่ดึงดูดทุกคู่สายตาและมอบประสบการณ์แห่งการพุ่งทะยานสุดเร้าใจทั้งในท้องถนน สนามแข่งขัน หรือแม้แต่บนเส้นทางหฤโหด ทำให้ Urus Performante เป็นสุดยอดเอสยูวีสำหรับนักขับซูเปอร์สปอร์ตคาร์ตัวจริง” รูเว็น โมห์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิค กล่าว  

 

Urus Performante มอบกำลังเครื่องยนต์เพิ่มขึ้น 16CV สูงสุดที่ 666CV และลดน้ำหนักลงถึง 47 กก. ทำให้มีอัตราส่วนน้ำหนักต่อกำลังเครื่องยนต์ดีที่สุดในคลาสที่ 3.2 กิโลกรัม/แรงม้า ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.3 วินาที และเบรกจากความเร็ว 100 กม./ชม. จนรถหยุดนิ่งได้ในระยะทางเพียง 32.9 เมตร โดย Urus Performante มีแรงบิด 850Nm ที่ความเร็วรอบ 2,300 - 2,400 รอบต่อนาที ความสามารถที่เหนือกว่ารุ่นอื่น ๆ ในเซกเมนต์เดียวกันยังรวมถึงความเร็วสูงสุดที่ 306 กม./ชม. พร้อมประสิทธิภาพการตอบสนอง การควบคุม และความเสถียรที่เหนือชั้น นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ โดยสามารถเพิ่มแรงกดรวมได้ 8% มีการเสริมแรงบิดด้วยการใช้เฟืองท้ายแบบใหม่ที่เพิ่มอัตราส่วนจาก 3.16 เป็น 3.4 ในระหว่างการขับขี่ และ 3.02 เป็น 3.33 เมื่อวิ่งลงทางลาดด้วยแรงเฉื่อย

 

ยาง Pirelli P Zero (ขนาด 258/40 R22 และ 325/35 R22) เป็นรุ่นพัฒนาต่อยอดของยางรุ่น Pirelli P Zero Trofeo R ตระกูล Urus โดยนับเป็นครั้งแรกที่มีการผลิตยาง Pirelli แบบกึ่งสลิคเพื่อให้สอดคล้องกับคาแรกเตอร์ของรถเอสยูวีซึ่งเกิดจากการร่วมมือพัฒนากับลัมโบร์กินี ผลลัพธ์ของความร่วมมือครั้งนี้ทำให้ได้ยางที่ใช้งานได้แบบอเนกประสงค์ดีขึ้น แต่ยังคงมอบประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมทั้งบนพื้นผิวแห้งที่มีอุณหภูมิสูง และบนพื้นผิวเปียกที่มีอุณหภูมิต่ำ

สำหรับระบบบังคับเลี้ยว Urus Performante มอบสัมผัสใหม่แก่ผู้ขับให้รู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับยานยนต์และท้องถนนมากขึ้น ด้วยการควบคุมที่ตอบสนองฉับไวและฟีลแบบสปอร์ตอันเร้าใจในทุกจังหวะการควบคุม การคาลิเบรตการเลี้ยวล้อหน้าแบบใหม่ช่วยเพิ่มสัมผัสเชื่อมโยงกับพื้นถนนส่งผลให้การควบคุมแม่นยำและมอบการตอบสนองได้ทันที ระบบเลี้ยวล้อหลังที่ตอบสนองเร็วขึ้นยังช่วยเพิ่มความฉับไวในการเลี้ยว ซึ่งเสริมกำลังจากเวกเตอร์แรงบิดของเฟืองท้าย ไม่ว่าจะใช้โหมดการขับขี่บนถนนหรือออฟโร้ด

 

โหมดการขับขี่ที่ถูกออกแบบใหม่ทำให้ผู้ขับขี่ Urus Performante สามารถเลือกการตั้งค่าที่เหมาะสมกับสภาพการขับขี่ที่แตกต่างได้ในทุกวัน โดยในโหมด STRADA จะมอบสัมผัสการขับขี่ที่หรูหราและสะดวกสบายด้วยการดูดซับแรงที่นุ่มนวล ส่วนในโหมด SPORT นักขับจะได้เพลิดเพลินกับการตอบสนองที่ดุดันสะใจ โดยระบบเลี้ยวล้อหลังจะเพิ่มความคล่องตัวในความเร็วต่ำและเพิ่มความเสถียรเมื่อใช้ความเร็วสูง และด้วยการปรับช่วงล่างใหม่ยังเพิ่มความสนุกสนานทั้งในระว่างการขับและในทุกการเปลี่ยนเกียร์ การตั้งค่าแชสซีเพื่อเสริมฟีลการขับขี่แบบสปอร์ตยังครอบคลุมถึงการใช้สปริงเหล็กกล้าที่แข็งขึ้นและการปรับแต่งแดมเปอร์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตอบสนองให้นักขับรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับยานยนต์ในทุก ๆ การขับขี่

โหมด CORSA นั้น Urus Performante ตอบโจทย์การแข่งขันอันดุเดือดด้วยประสิทธิภาพการควบคุมขั้นสูงสุด ทั้งเสถียรภาพเมื่อขับความเร็วสูง การเลี้ยวที่เสริมประสิทธิภาพด้วยเหล็กกันโคลงแบบแอ็กทีฟ พร้อมพลังเสียงสุดกระหึ่มของท่อไอเสียแบบสปอร์ตที่ทั้งนักขับและทุกคนในสนามได้รับรู้ถึงความเป็นยานยนต์ซูเปอร์สปอร์ตของลัมโบร์กินี

 

นอกจากโหมดการขับขี่มาตรฐานต่าง ๆ Urus Performante ยังมาพร้อมโหมดใหม่อย่าง RALLY เพื่อยกระดับการขับขี่แนวสปอร์ตที่สนุกสนานในแบบฉบับเอสยูวี และนำเสนออีกระดับของความตื่นเต้นเร้าใจในการวิ่งบนทางดิน โดยมีการเสริมสมรรถนะด้วยเหล็กกันโคลงและตัวซับแรง ซึ่งปรับปรุงให้สอดรับกับการทำงานของสปริงแม้วิ่งบนพื้นผิวขรุขระและหฤโหด ให้คุณสัมผัสมิติใหม่แห่งประสิทธิภาพซูเปอร์เอสยูวีสายพันธุ์สปอร์ตที่แท้จริง

 

สำหรับตลาดจีนจะได้รับการอัปเกรดเชิงเทคนิคใน Urus Performante รุ่นใหม่ โดยจะถูกตั้งค่ากำลังเครื่องยนต์ไว้ที่ 640CV ตามข้อกำหนด

ดาวน์โหลดรูปแบบและวิดีโอ: media.lamborghini.com
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: www.lamborghini.com
Lamborghini Bangkok’s Facebook : https://www.facebook.com/lamborghinirenazzomotor
Lamborghini Bangkok’s Instagram : www.instagram.com/lamborghinirenazzomotor/

 

Technical Data 

 

CHASSIS AND BODY  

Chassis Integral lightweight body in aluminum composite design

Body shell Outer skin made from aluminum and composite material

Suspension Multi-link front and rear

Springs and dampers Steel springs and dampers, electromechanical active roll stabilization, electronic damper control 

Electronic Stability Control (ESC) ESC/ABS characteristics can be adjusted via TAMBURO, 

ESC can be deactivated

Steering Electromechanical power steering, steering gear with different servotronic characteristics and Lamborghini Rear-wheel Steering (LRS), managed by the Tamburo drive modes

Steering wheel ratio 13.3:1

Brakes Front and Rear carbon-ceramic brakes discs with front monoblock aluminum 10 piston brake calipers  and rear cast iron floating 1 piston brake calipers with integrated electric parking brake

Brake discs Carbon ceramic discs, ventilated Ø 440 x 40 mm front Ø 370 x 30 mm rear

Tires (standard) PIRELLI PZERO 285/40 ZR22 (front) – 325/35 ZR22 (rear)

Wheels (standard) 10Jx22" ET20 (front) 11,5Jx22" ET14 (rear)

Mirrors Electrically controlled exterior mirrors 

Airbags Up to 8 Airbags: front driver and passengers airbag, front and rear side airbags, curtain airbag for head protection

 

ENGINE  

Type Eight -cylinder V, 90°

Displacement 3.996 cm3 

Bore / stroke Ø 86 mm x 86 mm 

Valve control Intake and exhaust camshafts with continually variable adjustment 

Turbocharger Bi-turbo twin-scroll

Compression 9.7: 1  

Max. power 490 kW / 666 CV at 6,000 rpm

Max. torque 850 Nm at 2,300-4,500 rpm

Emissions class EURO 6 

Exhaust treatment 4 catalyst with lambda regulation 

Cooling system Water cross flow cooling

Engine Management Bosch

 

DRIVETRAIN  

Type 4WD with integrated front differential, central differential (Torsen) and active torque vectoring rear differential 

Transmission 8-speed automatic gearbox, characteristic depending on TAMBURO drive mode

 

PERFORMANCE  

Top Speed 306 km/h

0–100 km/h 3.3 s

0–200 km/h 11.5 s

Braking (100-0 km/h) 32.9 m

 

DIMENSIONS  

Wheelbase 3,006 mm 

Length 5,137 mm 

Width 2,026 mm

Width 

(incl. ext. mirrors) 2,181 mm 

Height 1,618 mm 

Track front 1,711 mm 

Track rear 1,718 mm 

Kerb-to-kerb turning circle 11.8 m - average value, variable due to dynamic condition, thanks to Lamborghini Rear-wheel Steering (LRS)

Weight (DIN) 2,150 kg

Weight/power 3.23 kg/CV  

Weight Distribution 58% (front) – 42% (rear) 

 

CAPACITIES  

Fuel 85 liters

Trunk 616 liters

 

CONSUMPTION The vehicle is not yet offered for sale and is therefore not subject to Directive 1999/94/EC. The fuel consumption and emissions data are in the type of approval stage

 

 

# # # #

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ