Hyundai ทำสถิติยอดขาย Ioniq 5 พุ่งแรงเกินคาดในเดือนกรกฎาคม 2025 โดยมียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 70% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ส่วนหนึ่งคาดว่าเกิดจากผู้บริโภคเร่งตัดสินใจซื้อก่อนที่ สิทธิ์ลดหย่อนภาษีสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV tax credit)** ของสหรัฐฯ จะสิ้นสุดลงในเร็ว ๆ นี้
Tesla กำลังเผชิญกับความท้าทายอย่างหนักในรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งถือเป็นตลาดสำคัญของบริษัทมาโดยตลอด โดยในไตรมาสที่ 2 ของปี 2025 มียอดจดทะเบียนรถยนต์ใหม่อยู่ที่ 41,138 คัน ลดลง 21.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
บทสรุปยอดขายรถใหม่ครึ่งปีแรกของศักราช 2568 ยังไม่ดีขึ้น เมื่อยอดขายรวมรถยังลดลงอีกเมื่อเทียบกับปีก่อนถึง 1.7% ทั้งที่ฐานไม่สูงมาก ได้รวมเพียง 302,694 คันเท่านั้น โดยเฉพาะกลุ่มรถกระบะ 1 ตัน ที่ยังนำหน้าร่วงแบบดิ่งสุด 12.7%
หลังจากเติบโตต่อเนื่องมาหลายปี ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในสหรัฐอเมริกาเริ่มชะลอตัวอย่างน่ากังวล โดยล่าสุดข้อมูลการจดทะเบียนรถใหม่ในเดือนพฤษภาคม 2025 เผยว่า ยอดขาย EV ลดลง 5.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
สัญญาณบวกเริ่มมีอย่างต่อเนื่อง เมื่อรายงานยอดขายรถใหม่รอบล่าสุดเดือนพฤษภาคม มีจำนวนยอดขายที่มีมากกว่าเดิมเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยมียอดรวมทั้งหมด 52,229 คัน เพิ่มขึ้น 4.7% โดยยังเป็น Toyota ที่ครองยอดขายสูงสุดเช่นเคย
ในที่สุดก็ได้เห็นสัญญาณบวกยอดขายรถใหม่ในประเทศไทยบ้างแล้ว เมื่อยอดขายเดือนเมษายน 2568 เติบโตได้ 1% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่สัญญาณของรถกระบะ 1 ตันยังไม่ฟื้น เพราะยังปรับตัวลดลงอยู่ 21.4%
ยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั่วโลกยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2025 แม้จะต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนจากภาษีนำเข้าที่เพิ่งประกาศใช้ โดยยอดรวมของรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) และปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้แตะระดับ 5.6 ล้านคัน เพิ่มขึ้นเกือบ 30% จากช่วงเดียวกันของปี 2024 ตามข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์ตลาด RhoMotion
ถึงแม้ว่ายอดขายรถใหม่ในประเทศไทยช่วงเดือนมีนาคม 2568 จะยังติดลบอยู่ แต่ถือว่าเริ่มดูดีขึ้นเล็กน้อย เมื่อลดลงเพียงแค่ 0.5% เท่านั้น ยอดขายรวมทั้งหมด 55,798 คัน โดยได้ตัวเลขดีจากช่วง Motor Show 2025
Tesla รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2025 ด้วยรายได้จากการดำเนินงานที่ลดลงถึง 66% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว จากผลกระทบของยอดขายรถยนต์ทั่วโลกลดลงถึง 13%
แม้ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ในปี 2024 จะไม่หวือหวาเท่าที่คาดไว้ แต่ต้นปี 2025 กลับเริ่มต้นอย่างร้อนแรง ล่าสุดมียอดขายรวมทั่วโลกถึง 4.1 ล้านคันในไตรมาสแรกของปี เพิ่มขึ้นถึง 29% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว
ไม่นานมานี้ รถยนต์หรูจากเยอรมนีอย่างเมอร์เซเดส-เบนซ์และปอร์เช่ถือเป็นสัญลักษณ์ของความหรูหราในจีน โดยมีจีนเป็นตลาดใหญ่ที่สุดสำหรับแบรนด์เหล่านี้ และยอดขายในจีนก็สูงกว่าประเทศอื่นๆ เสมอ แต่ในช่วงหลังเมื่อแบรนด์ท้องถิ่นเริ่มเติบโต ความชอบของผู้บริโภคก็เริ่มเปลี่ยนไปและเริ่มสนใจผลิตภัณฑ์ของบริษัทจีนมากขึ้น Xiaomi คือตัวอย่างสำคัญของการเปลี่ยนแปลงนี้
ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในเม็กซิโกเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการมาถึงของรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่จากจีนที่มีราคาจับต้องได้มากขึ้น
ในปี 2024 จำนวนผู้ซื้อรถยนต์ที่วางแผนจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยผลสำรวจของ CDK Global บริษัทที่ให้บริการซอฟต์แวร์แก่ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์พบว่า ผู้ซื้อรถยนต์ที่วางแผนจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตเพิ่มขึ้นจาก 18% ในปี 2023 เป็น 31% ในปี 2024
การลดลงของยอดขาย Tesla ไม่เพียงเกิดขึ้นในตลาดยุโรปเท่านั้น แต่ยังขยายไปถึงจีนด้วย ข้อมูลยอดขายล่าสุดเผยว่า การส่งมอบรถของผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากสหรัฐฯ ลดลง 11.5% ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ขณะที่คู่แข่งในประเทศอย่าง BYD, Changan Automobile และ Xpeng กลับเติบโตขึ้น
แม้ว่าจะมีข่าวลือว่า รถเก๋ง (sedans) กำลังจะหายไปจากตลาด แต่ Kia K4 ก็พิสูจน์ให้เห็นว่า ยังมีความต้องการในตลาดรถเก๋งอยู่ไม่น้อย โดยในเดือนมกราคมที่ผ่านมา Kia K4 กลายเป็นรถที่ขายดีที่สุดของค่าย Kia