All New GWM TANK 500 รถ SUV Hybrid พร้อมแล้วสำหรับชาวไทย เตรียมเปิดราคาอย่างเป็นทางการ 28 กันยายนนี้

  • โดย : พิสน ลีละหุต
  • 18 ก.ย. 66
  • 4,254 อ่าน

รถอเนกประสงค์ SUV ตัวหรูจากค่าย GWM อย่าง All New GWM TANK 500 รถใหม่พลังงาน Hybrid เตรียมพร้อมให้ชาวไทยได้เป็นเจ้าของแล้ว กำหนดวันเปิดราคาอย่างเป็นทางการ 28 กันยายนนี้

GWM Tank 500

All New GWM TANK 500 รถยนต์เอสยูวีรุ่นล่าสุดจาก เกรท วอลล์ มอเตอร์ เป็นรถยนต์ที่ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มออฟโรดอัจฉริยะ TANK ที่ทรงประสิทธิภาพทั้งด้านพละกำลัง สมรรถนะ และเทคโลยีที่ล้ำสมัย มาพร้อมกับดีไซน์ที่บึกบึนและแข็งแกร่ง ในขณะที่แฝงไปด้วยความเรียบง่ายและหรูหรา ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร พร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน (VGT) ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ความจุ 1.76 กิโลวัตต์ ให้กำลังเครื่องยนต์สูงสุด 244 แรงม้า พร้อมแรงบิดเครื่องยนต์สูงสุด 380 นิวตัน–เมตร  และกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 106 แรงม้า พร้อมแรงบิดมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 268 นิวตัน-เมตร ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ 9 สปีด (9HAT) ที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับระบบการขับเคลื่อนที่หลากหลาย ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ถึง 11 รูปแบบ ได้แก่ โหมดปกติ โหมดสปอร์ต โหมดประหยัด โหมดอัตโนมัติ และโหมดออฟโรด ได้แก่ โหมดพื้นโคลน โหมดพื้นทราย โหมดพื้นหิน โหมด4L โหมด4H โหมดพื้นหิมะ และโหมดเชี่ยวชาญ

GWM Tank 500

All New GWM TANK 500 มีมิติตัวรถที่ 1,934 x 5,078 x 1,905 มม. (กว้าง x ยาว x สูง) มาพร้อมระยะฐานล้อ 2850 มม. ระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระ ดับเบิ้ล ครอส อาร์ม และระบบกันสะเทือนหลังแบบมัลติลิงค์ ให้การขับขี่ที่ยึดเกาะถนนและนั่งสบายเพื่อตอบสนองการขับขี่ทั้งในเมืองและนอกเมือง นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการลุยน้ำที่ระดับความลึก 800 มม. ทำให้ผู้ขับขี่พร้อมทะยานอย่างไม่มีขีดจำกัดในทุกสถานการณ์ กระจังหน้าขนาดใหญ่ผสานช่องระบายอากาศแนวนอนและโลโก้ TANK ที่รับเส้นสายที่นูนขึ้นของฝากระโปรง ไฟหน้า Intelligent LED โดดเด่นทั้งในเรื่องให้ความสว่างและความปลอดภัยด้วยระบบอัจฉริยะ อาทิ ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ และฟังก์ชันหน่วงเวลาไฟส่องทางหลังดับเครื่อง (Follow Me Home) พร้อม Daytime Running Light และไฟตัดหมอกด้านหน้าและหลังแบบ LED ในขณะที่ดีไซน์ด้านหลังนั้นถูกออกแบบภายใต้แนวคิดออฟโรด ด้วยประตูท้ายแบบ Horizontal ที่มาควบคู่กับระบบดูดไฟฟ้าเพื่อผ่อนแรงและอำนวยความสะดวกสบายในการปิดประตูท้าย ไฟท้าย Vertical LED ที่มาพร้อมไฟเบรกดวงที่สามและไฟตัดหมอกแบบ LED อย่างเต็มระบบ ตอบโจทย์ทั้งแฟชันและฟังก์ชันได้อย่างลงตัว บันไดข้างที่เปิด–ปิดด้วยระบบไฟฟ้า หลังคาซันรูฟระบบไฟฟ้าแบบพาโนรามิคขนาดใหญ่ที่มาพร้อมราวหลังคา เพื่อเพิ่มการใช้งานเสาอากาศแบบ Shark Fin และสปอยเลอร์ท้าย ยกระดับภาพลักษณ์การขับขี่ที่หรูหรามั่นใจด้วยล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว และยางขนาด 265/50 R20

GWM Tank 500

การออกแบบทั้งภายนอกและภายในของ All New GWM TANK 500 รถใหม่ 2023 มาพร้อมกับแนวคิด Luxury ที่ให้ทั้งความหรูหรา กว้างขวาง และสะดวกสบาย ใส่ใจทุกรายละเอียดด้วยวัสดุสีดำ สีดำเงา สีโครเมียม และสีเงิน แผงคอนโซลหน้าและชุดเกียร์แบบ Electronic Shifter สีทูโทน นาฬิกาแบบคลาสสิก เบาะหนัง NAPPA ลำโพง Infinity 12 ตัวที่พร้อมมอบความบันเทิงอย่างเต็มรูปแบบร่วมกับระบบแอมพลิฟายเออร์อิสระและระบบปรับระดับเสียงอัตโนมัติตามความเร็วรถ ฟังก์ชันไฟตกแต่งห้องโดยสารแบบหลากสีและเป็นจังหวะ เพื่อสร้างบรรยากาศภายในให้เพลิดเพลิน ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา ระบบกรองอากาศ PM2.5 และระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย เพื่อช่วยให้การชาร์จโทรศัพท์มือถือเป็นไปได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

GWM TANK 500

All New GWM TANK 500 มาพร้อมกับเบาะนั่งไฟฟ้าคู่หน้า ระบบเบาะนวดไฟฟ้า ระบบดันหลังปรับด้วยไฟฟ้า ระบบระบายอากาศ และเบาะหนัง NAPPA เพื่อช่วยผ่อนคลายความเมื่อยล้าให้ผู้ขับขี่ เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง มีระบบ Memory Seat และระบบ Welcome Seat เพิ่มความสะดวกในการขึ้น-ลงรถ เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับแบบไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง มีปุ่มปรับตำแหน่งเบาะผู้โดยสารด้านหน้าจากด้านคนขับ เบาะนั่งโดยสารแถวที่ 2 มีหน้าจอควบคุมระบบระบายอากาศ และเบาะระบายอากาศ เบาะนั่งโดยสารแถวที่ 3 มีพนักพิงปรับแบบไฟฟ้าที่เพิ่มความสะดวกด้วยตำแหน่งปรับพนักพิงบริเวณข้างประตูผู้โดยสารแถวที่ 2 และประตูท้าย ยิ่งไปกว่านั้น ส่วนของเบาะนั่งโดยสารแถวที่ 2 สามารถแยกพับเบาะได้แบบ 60:40 และเบาะนั่งแถวที่ 3 สามารถพับเรียบ เพื่อเพิ่มพื้นที่และความสะดวกในการใช้สอยตามอเนกประสงค์ได้อย่างเต็มที่

GWM TANK500

All New GWM TANK 500 มีหน้าจอกลางอัจฉริยะแบบสัมผัสขนาด 14.6 นิ้ว ซึ่งรองรับความบันเทิงได้ทั้ง Apple CarPlay, Android Auto, MP5, Bluetooth, ระบบนำทาง, และแสดงข้อมูลการขับขี่ โดยหน้าจอกลางอัจฉริยะนี้สามารถเชื่อมต่อกับหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกด้านหน้า เพื่อเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างปลอดภัยและง่ายดาย อีกทั้งรถยนต์รุ่นนี้ยังช่วยเพิ่มความคล่องตัวของการขับขี่ด้วยพวงมาลัยปรับแบบไฟฟ้า 4 ทิศทาง ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ (Paddle Shift) พร้อมสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงและสวิตช์ควบคุมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ ระบบเปิด-ปิดล็อกประตูอัตโนมัติเมื่อเข้าใกล้และออกห่างจากรถ ระบบกุญแจ Smart Key และระบบ Push Start

GWM TANK500

นอกจากนี้  All New GWM TANK 500 ยังเพรียบพร้อมไปด้วยระบบช่วยเหลือการขับขี่แบบออฟโรดอันชาญฉลาดและล้ำสมัย ช่วยสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยและความมั่นใจในทุกการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็น

  • ระบบล็อกเฟืองขับด้านหน้าและด้านหลัง (Front & Rear Electric Differential Locks) ช่วยเพิ่มความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรดของยานพาหนะเมื่อเผชิญกับทางลาดชัน โคลน ทะเลทราย และภูมิประเทศที่ซับซ้อนอื่น ๆ ด้วยกลไกการถ่ายโอนกำลัง ทำงานร่วมกันกับกลไกล็อกของกล่องถ่ายโอนทั้งล้อหน้าและล้อหลัง สร้างระบบขับเคลื่อนออฟโรดแบบ 3 locks เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ออฟโรดที่ดีเยี่ยม
  • ระบบช่วยกลับรถในพื้นที่แคบ (TANK Turn) ทันทีที่เปิดฟังก์ชัน เมื่อระบบตรวจพบความตั้งใจในการบังคับเลี้ยวมากเกินไป ระบบจะส่งแรงเบรกไปที่ล้อหลังด้านในเพื่อลดรัศมีวงเลี้ยว เพื่อช่วยให้รถสามารถเลี้ยวในวงแคบได้
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบ Off-road (Offroad Cruise Control) ทันทีที่เปิดฟังก์ชัน ระบบจะควบคุมเครื่องยนต์และระบบเบรกโดยอัตโนมัติให้รถวิ่งด้วยความเร็วต่ำและความเร็วสม่ำเสมอ เพื่อให้ผู้ขับขี่ไม่เสียสมาธิและเพิ่มความปลอดภัยจากการควบคุมรถบนสภาพถนนที่ซับซ้อน
  • ระบบตรวจจับความลึกของน้ำ (Wading Depth Detection) ทันทีที่เปิดฟังก์ชัน ระบบจะประเมินความลึกของระดับน้ำและแสดงผลของระดับน้ำประกอบภาพรถบนหน้าจอกลาง เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่เมื่อขับผ่านสภาพถนนที่มีน้ำท่วมขัง
  • ระบบแสดงภาพใต้ท้องรถ (Body Transparent) ทันทีที่เปิดฟังก์ชัน ระบบจะจดจำข้อมูลของพื้นที่รอบเส้นทางการขับขี่ของกล้องรอบตัวรถและสร้างภาพเสมือนแบบ 360 องศา จากมุมมองด้านบนของตัวรถ ในลักษณะแบบโปร่งใสเห็นพื้นผิวถนนด้านล่าง และแสดงภาพด้านหน้าของรถ ช่วยให้ผู้ขับขี่ทราบถึงสภาพถนนใต้ท้องรถ เพิ่มความปลอดภัยและประสบการณ์การขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น

GWM TANK500

ยิ่งไปกว่านั้น All New GWM TANK 500 มาพร้อมกับระบบช่วยเหลือการขับขี่และระบบความปลอดภัยมากมาย ให้ทุกการเดินทางปลอดภัยไร้กังวล ได้แก่

  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ (Intelligent ACC)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA)
  • ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ (IIP)
  • ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (ARA)
  • กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา
  • ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก (AEBI) และระบบช่วยเบรกฉุกเฉินที่ความเร็วต่ำ (MEB)
  • ระบบช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA/ RCTB)
  • ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)
  • ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน (LCA)
  • ระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการเกิดการชนซ้ำครั้งที่ 2 (SCM)
  • ระบบช่วยลงทางลาดชัน (HDC) และระบบช่วยออกตัวบนทางชัน (HSA)
  • ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู (DOW)
  • ระบบตรวจความดันลมยาง (TPMS)

GWM TANK500

 All New GWM TANK 500 ยังจัดเต็มไปด้วยฟังก์ชันอัจฉริยะ (Intelligent Functions) ที่มาช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้งานของผู้ขับขี่อย่างครบวงจรในทุกมิติ แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยียนตกรรมของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ไม่ว่าจะเป็น การอัปเกรดเฟิร์มแวร์ผ่านระบบออนไลน์อัจฉริยะ (FOTA) การสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะ (Voice Command) และ การควบคุมและเชื่อมต่อฟังก์ชันของรถยนต์ผ่าน GWM Application แม้ในขณะผู้ขับขี่จะอยู่ในระยะที่ไกลจากตัวรถ เช่น การควบคุมระบบปรับอากาศ การล็อกและปลดล็อกประตู การค้นหารถยนต์ การปิดหน้าต่าง การปิดซันรูฟ การควบคุมระบบระบายความร้อนของเบาะ การแสดงตำแหน่งรถยนต์ การกำหนดรัศมีการใช้งานรถ และระบบตรวจสอบสถานะอื่น ๆ

GWM TANK500

All New GWM TANK 500 รถยนต์ใหม่ 2023 มาพร้อมกับ 2 รุ่นย่อยให้แฟน ๆ ชาวไทยได้จับจอง ได้แก่ รุ่น ULTRA และรุ่น PRO โดยมีเฉดสีรถภายนอกทั้งหมด 4 เฉดสี ได้แก่ สีขาว สีดำ สีเทา และสีใหม่เทาคริสตัล (เฉพาะรุ่น ULTRA) และเฉดสีรถภายในทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีดำ และทูโทนสีน้ำเงิน-เบจ (เฉพาะรุ่น ULTRA และตัวรถสีเทาคริสตัล) โดยจะเปิดราคาอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 กันยายนนี้

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ