แม้ว่าโลกจะล้ำสมัยมากแต่แปลกใจไหมอะไรที่เราคุ้นเคยมากมายอย่างระบบเครื่องเล่น CD กลับยังมีอยู่และมันอาจจะอยู่นานต่อไปในรถยนต์ที่เรารู้จัก

เรื่องและเรียบเรียงโดย ณัฐยศ ชูบรรจง

 

ทุกวันนี้เราคงต้องยอมรับว่า รถยนต์นั้นมีการพัฒนาไปอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของระบบความบันเทิงถูกทำให้มีความทันสมัยมากขึ้นกว่าเดิม และตอบโจทย์การใช้งานมากขึ้น มันไม่ใช่เพียงเครื่องเล่นที่เพียงแค่คุณนำแผ่นซีดีมาเปิดเล่น ให้ความบันเทิง หรือฟังวิทยุผ่านคลื่น  FM   แต่ทุกวันนี้มันทำได้มากมาย ตั้งแต่เปิดเพลงให้ฟังไปจนถึงนำทางและบ้างยังสามารถใช้เชื่อมต่อโลกออนไลน์ได้แบบเรียลไทม์ด้วย

ความก้าวหน้าที่มากมายเราหลายคนอาจจะคิดว่าโลกที่เราอยู่วันนี้ช่างล้ำสมัยมากกว่ารุ่นพ่อแม่ของเรายิ่งนัก อย่างน้อยที่สุดการตายจากไปของระบบเทปคาสเซ็ทในรถยนต์ก็เป็นข้อพิสูจน์หนึ่ง และมีการคาดการณ์ว่าระบบเครื่องเล่นซีดี ก็จะเป็นอีกระบบที่เตรียมตายจากไปในอนาคตม้า แต่จนแล้วจนรอดจากการคาดการณ์ ของนักวิเคราะห์ทางด้านยานยนต์ว่าในอนาคตราวๆปี 2015  เราจะไม่เห็นระบบซีดีอีกแล้วกลับไม่ได้เป็นอย่างที่คิด

[IMAGE1]

แม้ว่าจะมีความทันสมัยเกิดขึ้นระบบเชื่อมต่อใหม่ๆทำให้เราสะดวก แน่นอนคงต้องบวกรวมในส่วนของโทรศัพท์ที่ฉลาดและอำนวยความสะดวกสุดๆ อย่าง สมาร์ทโฟนด้วย แต่ท้ายที่สุดแล้ว เครื่องเล่นซีดีกลับยังไม่ตายจากไป โดยเฉพาะรถยนต์รุ่นใหม่หลายรุ่นยังมีเครื่องเล่นซีดีประจำการอยู่ในตัวมันเอง อย่างในอเมริกาเองก็มีรถยนต์ที่มีเครื่องเล่นซีดีในโฉมปี 2014  กว่าร้อยละ   83.4  เลยทีเดียว

ถึงกว่า 20  ปี ที่  CD   ครองคอนโซลกลางซึ่งคุณเอาไว้เก็บแผ่นเพลงโปรดชั้นนำ ที่น่าสนใจคือว่า เครื่องเล่นซีดีนั้นดูจะยังไม่ตายจากไปง่ายๆ อย่างน้อยก็ยังไม่ใช้จากสถานการณ์ในปัจจุบัน  Ward Auto   ตั้งข้อสังเกตในเรื่องนี้ว่า นั่นเพราะคนส่วนใหญ่นั้นยังคงไม่สามารถใช้ระบบที่เน้นการเชื่อมระหว่างอุปกรณ์พกพาของคุณกับเครื่องเล่นความบันเทิงอัจฉริยะ และผู้ขับขี่ส่วนใหญ่นั้นไม่ได้ให้ความสำคัญกับมันเท่าเครื่องเล่นซีดี นั่นทำให้มันยังอยู่ในรถยนต์ทีเรารู้จัก แค่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงหน้าตาไปบ้างตามตัวตนที่เปลี่ยนไป

[IMAGE2]

เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ที่เกิดขึ้น   Ward Auto  กล่าวเสริมต่อไปว่า เรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้นในยุคของเทปคาสเซ็ทเช่นกัน กว่าที่เทปคาวเซ็ทจะหมดไปจริงจังก็ใช้เวลานานอยู่ อย่างในช่วงปี  2005  ในประเทศอเมริกากลับมีมากถึง  ร้อยละ  93.7  ก่อนที่ระบบสื่อดิจิตอลอย่างไฟล์   MP 3  จะเฟื่องฟู อละมันเพิ่งจะตกต่ำลงในปี 2010 ก่อนจะหายไปอย่างจริงจังในปี  2014  และนับเป็นบทเรียนที่สำคัญของผู้คาดการณ์เทคโนโลยี

ทั้งนี้เรื่องการหายไปของระบบเครื่องเล่น  CD   นั้นมีนัยยะมาจาก Frank  Homann  รองประธานโมดูลระบบขับขี่ของ   siemen VDO   ซึ่งเผยการคาดการณ์ดังกล่าว โดยเขาเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่าในท้ายที่สุดระบบความบันเทิงจะก้าวเข้าสู่ยุคของ   Wifi   และสื่อแบบ  real Time Streaming  ซึ่งสามารถเชื่อมต่อได้ตลอดเวลาทั้งภาพและเสียง ซึ่งเขาได้กล่าวไว้ที่  SAE conference  ว่า

[IMAGE3]

“เทคโนโลยีที่เราผลิตในทุกวันนี้พวกมันน่าจะคงอยู่จนถึงปี 2012 ผมเชื่อมันอย่างแรงกล้าว่าในปี 2015 เราจะไม่เห็นพวกมันแล้ว และถ้ามันไม่เป็นที่นิยมอย่างรวดเร็วเราอาจจะไม่เห็นพวกมันอีกในเร็วๆนี้ “

แม้ว่าเราคนรุ่นใหม่หลายคนอาจจะคิดว่า   CD   เป็นเรื่องล้าสมัยและเรามีวิธีที่ดีกว่าในการตอบโจทย์ในเรื่องความบันเทิงของเรา และรถยนต์ยุคใหม่สามารถทำได้หลายอย่าง ตั้งแต่ให้คุณเชื่อมต่อไปจนถึง พวกมันเริ่มสามารถที่จะทำการเล่นเพลงและวีดีโอแบบ Real Time  ได้แล้ว แต่ว่าตราบใดที่ยังมีคน อย่างน้อยก็กลุ่มผู้สูงอายุยังต้องการใช้ระบบความบันเทิงอย่าง  CD   มันจะยังไม่หายไปจากระบบความบันเทิงอย่างน้อยก็ในออพชั่นรถยนต์ทุกวันนี้ รวมถึงอนาคตเร็วนี้แน่นอน

 

เรื่องและเรียบเรียงโดย ณัฐยศ ชูบรรจง

เนื้อหาบางส่วนอ้างอิงจาก Ward Auto - CD Players Not Dead Yet

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com