หลุดแต็มๆ!! 2022 All New Honda Civic Hatchback หลุดจริง..วิ่งทดสอบที่ต่างประเทศ
- โดย : Autodeft
- 7 ม.ค. 64
- 5,665 อ่าน
หลังเปิดตัวเวอร์ชั่นต้นแบบในร่างซีดานไปสำหรับ All New Honda Civic เจเนอเรชั่นที่ 11 ทำให้สาว ต่างรอคอยเวอร์ชั่นขายจริงอย่างใจจดใจจ่อและพร้อมที่จะเป็นเจ้าของเก๋งยอดนิยมขวัญใจทั่วโลก
ล่าสุด เว็บรถยนต์ Carscoops เผยภาพรถยนต์ที่พรางตัวทั้งคัน วิ่งทดสอบ All New Honda Civic Hatchback โดยภาพดังกล่าวมีความคล้ายคลึงกับเวอร์ชั่นสิทธิบัตรที่เคยนำเสนอไปเมื่อปีกลาย ภาพรวมอาจคล้ายเจนปัจจุบันแต่รายละเอียดนั้นใหม่หมดทั้งคันไม่ว่าจะเป็น กระจังหน้าดีไซน์คล้ายปีกนกแนวยาวสอดรับกับไฟหน้า LED ดีไซน์สุดเฉียบพร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน (Daytime Running Lights) แบบ LED กันชนหน้าทรงสปอร์ตเท่ กระจกมองข้างทรงสปูน พร้อมกระจกแบบโอเปร่าให้ความหรูแนวเดียวกับรถยุโรปชั้นนำ พร้อมหลังคารถที่ลาดลงดุจรถสปอร์ต จุดสังเกตุของรุ่น Hatchback นี้ ฝาท้ายมีการออกแบบให้ขอบฝาท้ายประชิดทับกับเสา D มากที่สุด พร้อมไฟท้าย LED ดีไซน์ยาวตลอดทั้งชิ้น
ภายในมีแผงคอนโซลหน้าดีไซน์เรียบง่าย พร้อมระบบความบันเทิงแบบจอสัมผัส 9 นิ้วอยู่ตำแหน่งเหนือคอนโซลหน้า รวมถึงช่องแอร์เป็นแนวยาวในช่องคอนโซลกลาง
ขุมพลังในเวอร์ชั่นขายจริงยังไม่มีการเปิดเผยแต่คาดว่ายังคงใช้บริการทั้งเครื่องยนต์เบนซิน VTEC Turbo ทั้งขนาด 1.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 129 แรงม้าที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิด 200 นิวตันเมตรที่ 2,250 รอบ/นาที สำหรับรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และ 180 นิวตันเมตรที่ 1,700-4,500 รอบ/นาที สำหรับรุ่นเกียร์อัตโนมัติ CVT และ VTEC Turbo 1.5 ลิตร L15B7 ให้กำลังสูงถึง 173 แรงม้าที่ 5,500 แรงบิดสูงสุด 220 นิวตันเมตร ที่ 1,700-5,500 รอบ/นาที เลือกได้เฉพาะเกียร์อัตโนมัติ CVTและอาจมีขุมพลังอื่นๆอย่างเช่น Hybrid มาด้วย ส่วน Honda Civic Type R เจนใหม่ คาดจะได้ขุมพลังเบนซินเทอร์โบ Hybrid 2.0 ลิตร โดยเครื่องยนต์ทำงานส่งกำลังไปยังล้อหน้าและจับคู่ส่งกำลังด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัวที่ล้อคู่หลัง ซึ่งหากเป็นจริงจะเป็น Civic Type R ขับสี่รุ่นแรกที่ใช้สองขุมพลังขับเคลื่อนความแรง โดยคาดว่าจะให้แรงม้ารวมทะลุ 400 แรงม้า
เบื้องต้นทาง ฮอนด้า เตรียมจะเปิดโฉมใหม่ All New Honda Civic Htachback หลังเวอร์ชั่นซีดานคาดต้นปี 2022 ส่วนเมืองไทยอาจตามหลังและน่าจะมาจำหน่ายได้เร็วที่สุดคือช่วงปลายปี 2022
ที่มา Carscoops
Photo Credits: CarPix for CarScoops
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com
