เผยสเปคไทย รถไฟฟ้าใหม่ NEW MG4 ELECTRIC ก่อนเปิดราคา Motor Expo 2022

  • โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
  • 14 พ.ย. 65
  • 7,512 อ่าน

หลังจากที่ปล่อยทีเซอร์ว่ารถใหม่รถไฟฟ้า NEW MG4 ELECTRIC พร้อมเตรียมเปิดให้จับจองก่อนในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 นี้ ผ่านช่องทางออนไลน์ ล่าสุดทางค่ายได้เผยรายละเอียดสเปคไทยที่จะนำเข้ามาจำหน่ายแล้วเรียบร้อย และจะเปิดราคาอย่างเป็นทางการในงาน Motor Expo 2022 ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นนี้ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2565

NEW MG4 ELECTRIC

สำหรับรถใหม่รถไฟฟ้า NEW MG4 ELECTRIC สเปคไทยนั้น จะมีจำหน่ายด้วยกัน 2 รุ่นย่อย รุ่น D และรุ่น X โดยมีสีตัวถังให้เลือกถึง 5 สี คือ สีฟ้า (Brighton Blue) สีดำ (Black Knight) สีแดง (Scarlet Red) สีเทา (Andes Grey) และสีขาว (Arctic White) ตกแต่งภายในด้วยสีดำ (Black) ในรุ่น D และสไตล์ทูโทนเทา-ดำ (Grey & Black) ในรุ่น X

NEW MG4 ELECTRIC

มาพร้อมกับแพลตฟอร์ม NEBULA PURE ELECTRIC PLATFORM มีไฟหน้า LED GALAXY TECHNOLOGY MATRIX HEADLIGHTS ไฟท้าย LED ลาย CGYNUS SYMBOL DECORATIVE LIGHT รวมไปถึงหลังคาแบบทูโทน พร้อมสปอยเลอร์หลังแบบ TWIN ARROW WING ล้ออัลลอยด์ดีไซน์ใหม่ขนาด 17 นิ้ว พร้อม AERO WHEEL COVER มีมิติตัวถัง​ 4,287 x 1,836 x 1,516 มิลลิเมตร (ยาว x กว้าง x สูง) และระยะความยาวฐานล้อ 2,705 มิลลิเมตร และมีระยะต่ำสุดจากพื้น 117 มิลลิเมตร

NEW MG4 ELECTRIC

รายละเอียดภายในห้องโดยสาร NEW MG4 ELECTRIC คอนโซลกลาง FLOATED CENTRAL CONTROL PLATFORM พร้อมอุปกรณ์ชาร์จแบบไร้สาย (Wireless charger) พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน หุ้มหนังปรับ 4 ทิศทาง กระจกมองหลังแบบตัดแสงอัตโนมัติ หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ Dual Screen แบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว (Digital Multi-function Display) และหน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว ลำโพง 6 จุด ช่องจ่ายไฟ Power Outlet 12V รองรับการเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และ สมาร์ทโฟนระบบ Android พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB TYPE A และ C ระบบกรองอากาศ PM2.5 เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง เบาะนั่งด้านหลังพนักพิง ปรับ 60:40 โหมด Intelligent Smart Access เมื่อผู้ขับขี่อยู่ในตำแหน่งคนขับ เพียงเหยียบเบรกระบบการทำงานของรถจะสตาร์ทอัตโนมัติ

NEW MG4 ELECTRIC

ด้านขุมพลังขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ที่ให้พละกำลังสูงสุดที่ 170 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหลัง แบตเตอรี่ขนาด 51 kWh สามารถวิ่งในระยะทาง 425 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC แบตเตอรี่มาตรฐานความปลอดภัย IP67 ในการป้องกันน้ำและฝุ่น 

รองรับชาร์จเร็ว Quick Charge ชาร์จไฟฟ้าจาก 10% - 80% ใช้เวลาประมาณ 35 นาที ที่ความเร็วสูงสุด 88 kWh และการชาร์จแบบธรรมดา Normal Charge ผ่าน MG HOME CHARGER 0% – 100% ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง 30 นาที ที่ 6.6 kWh รองรับระบบ V2L เปลี่ยนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้สามารถเป็นแหล่งจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า

NEW MG4 ELECTRIC

มีระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 4 ระดับ ได้แก่ ระดับต่ำ กลาง สูง และแบบแปรผันตามการขับขี่ (ADAPTIVE) ดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังแบบอิสระ 5-Link Suspension และโหมดการขับขี่ 5 รูปแบบ ได้แก่ ECO, NORMAL, SPORT, CUSTOM และ SNOW

ส่วนของระบบความปลอดภัยจัดเต็มทั้งระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame) ปรับแต่งระบบช่วงล่างแบบ EURO TUNING SUSPENSION และมีการติดตั้งระบบความปลอดภัยรอบคัน ด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐาน Advanced Synchronized Protection System 26 ระบบ ได้แก่
⦁    ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold)
⦁    ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD
⦁    ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist) 
⦁    ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
⦁    ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control)
⦁    ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System) 
⦁    ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist)
⦁    ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
⦁    ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control) 
⦁    ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
⦁    ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนพร้อมปรับองศาพวงมาลัยหากออกนอกเลน ELK (Emergency Lane Keeping System)  โดยผสานรวมระบบ LDP (Lane Departure Prevention) LKA (Lane Keep Assist) และ ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning) เข้าไว้ด้วยกัน 

NEW MG4 ELECTRIC

⦁    ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
⦁    ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking)
⦁    ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)
⦁    ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
⦁    ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
⦁    ระบบช่วยเตือนการชนด้านหลัง RCW (Rear Collision Warning)
⦁    ระบบช่วยเบรกขณะถอย RCTB (Rear Cross Traffic Braking) 
⦁    ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control)
⦁    ระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ DMS (Driver Monitor System)
⦁    ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW (Door Open Warning)

NEW MG4 ELECTRIC

นอกจากนี้ยังเสริมอุปกรณ์ความปลอดภัย อาทิ จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock) เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ (3D Around View Monitor) พร้อมสัญญาณเตือนระยะถอยหลัง ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System) และระบบไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่อง (FOLLOW ME HOME) และยังมีระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i–SMART มาให้อีกด้วย

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ