2022 Honda Civic Sedan เจเนอเรชันที่ 11 เก๋งเจนใหม่ท้าทายโลกใบใหม่ เกินใครจะตามทัน เริ่ม 964,900 บาท

  • โดย : Autodeft
  • 6 ส.ค. 64
  • 11,470 อ่าน

All Honda Civic Sedan เจเนอเรชันที่ 11 ตอกย้ำความเป็นไอคอนของยนตรกรรมสปอร์ตพรีเมียมซีดานที่ทุกคนรอคอย ซึ่งได้รับการพัฒนาดีเอ็นเอความสปอร์ตอันเป็นเอกลักษณ์ให้ก้าวล้ำตลอด 10 เจเนอเรชันที่ผ่านมา ครอบคุลมทุกมิติความสปอร์ตพรีเมียม สมรรถนะทรงพลัง และเทคโนโลยีใหม่ ที่พร้อมสร้างมาตรฐานใหม่ ให้กับวงการยานยนต์อีกครั้ง ด้วยดีไซน์ภายนอกที่สปอร์ตพรีเมียมในทุกมุมมอง เสริมความโฉบเฉี่ยวเร้าใจไป อีกขั้น

All Honda Civic Sedan

ดีไซน์สปอร์ตพรีเมียมในทุกมุมมอง โดดเด่นกว่าด้วยความประณีต ในทุกรายละเอียด All Honda Civic Sedan เจเนอเรชันที่ 11 ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด "Exhilarating Civic" ที่เน้นคนเป็น ศูนย์กลาง เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด ทั้งในด้านสมรรถนะการขับขี่ และความสะดวกสบายภายในห้อง โดยสาร และยังคงไว้ซึ่งความสปอร์ตพรีเมียมในทุกมุมมองดีไซน์ภายนอกสะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นซีดานอย่างชัดเจน ด้วยการออกแบบอย่างประณีตในทุกรายละเอียด ออกแบบโดยใช้เส้นสายในแนวนอนที่ยาวต่อเนื่องจากด้านหน้าไปจนถึงด้านหลัง ให้ความรู้สึกโฉบเฉี่ยว ล้ำสมัย มาพร้อมการจัดวางโครงสร้างสไตล์ Low & Wide ที่มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ทำให้ตัวถังกว้างและยาวขึ้นกว่าเดิม เน้นให้มีพื้นที่ภายในโปร่งโล่ง และทัศนวิสัยที่ดี อีกทั้ง มีการใช้เทคโนโลยี Roof Braze ในการประกอบตัวถัง เพื่อลดรอยต่อบริเวณหลังคา

All Honda Civic Sedan

ยกระดับความสปอร์ตในรุ่น RS ด้วยดีไซน์สุดเอกซ์คลูซีฟรอบคัน โดดเด่นด้วยกระจังหน้าและกันชนหน้า ดีไซน์ใหม่ พร้อมสัญลักษณ์ RS ไฟหน้าพร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ไฟตัดหมอกคู่หน้าและไฟท้ายแบบ LED กระจกมองข้างสีดำ มือจับประตูด้านนอกสีดำ เสาอากาศแบบครีบฉลามสีดำ สปอยเลอร์หลังสีดำพร้อมสัญลักษณ์ RS ด้านท้าย ท่อไอเสียแบบคู่พร้อมปลอกท่อไอเสีย และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 17 นิ้ว เพื่อเพิ่มความสปอร์ตโฉบเฉี่ยว

All Honda Civic Sedan

All Honda Civic Sedan

All Honda Civic Sedan

All Honda Civic Sedan

All Honda Civic Sedan

ภายในออกแบบภายใต้แนวคิด “Fine Morning” เน้นการสร้างความรู้สึกที่สดชื่นของการเริ่มต้นเช้าวันใหม่ ที่มอบความสะดวกสบายทันทีเมื่อเข้าไปนั่งในห้องโดยสาร พร้อมออกเดินทางไปทำกิจกรรมต่างๆ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความแอคทีฟตลอดทั้งวันมาพร้อมกับความเรียบง่าย เน้นอรรถประโยชน์และเส้นสายที่สวยงาม ตกแต่งด้วยคุณภาพเยี่ยมในทุกผิวสัมผัส มาพร้อมคอนโซลหน้าดีไซน์ใหม่ ที่มีการจัดวางเลย์เอาท์และฟังก์ชันการใช้งานต่างๆ ให้ตอบโจทย์และใช้งานได้อย่างคล่องตัว สะดวกสบายยิ่งขึ้นกับเบาะที่นั่งผู้ขับขี่ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ มาพร้อมโครงสร้างแผ่นเรซินรองรับสรีระแบบเต็มพื้นที่ ตั้งแต่ช่วงหลังส่วนบน กระดูกเชิงกราน จนถึงต้นขา เพื่อให้ได้ความรู้สึกในการนั่งที่โอบกระชับและรับน้ำหนักได้อย่างสมดุล ให้การขับขี่ที่มั่นคงแต่ยังคงไว้ซึ่งความสะดวกสบายในทุกท่วงท่าการขับเคลื่อนที่ไม่ใช่แค่ความแรง แต่เปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง

All Honda Civic Sedan

All Honda Civic Sedan

ทุกรุ่นย่อยขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร DOHC VTEC TURBO ใหม่ 4 สูบ 16 วาล์ว ที่พัฒนาไปอีกขั้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ มาพร้อม Turbo Charger ที่อัดอากาศเข้าสู่ ห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ได้เร็วขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ได้อย่างรวดเร็ว ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที ตอบสนองได้ทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700 - 4,500 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง CVT ให้อัตราเร่งและอัตราการ ประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมสูงถึง 17.2 กิโลเมตร/ลิตร อีกทั้งยังรองรับพลังงานทางเลือก E85 พร้อมโหมด การขับขี่ที่เลือกได้ตามสไตล์ 3 โหมด ได้แก่ ECON Mode Normal Mode เพิ่มเติมด้วย Sport Mode เฉพาะรุ่น RS

มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ที่ยกระดับไปอีกขั้นกับระบบใหม่ ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead CarDeparture Notification System: LCDN) และครั้งแรกกับระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะพร้อม Honda Smart Key Card ครบครันด้วยเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบายและเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัย พร้อม (Honda CONNECT เทคโนโลยีเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ ทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน มาพร้อมหลากหลายฟังก์ชันการทำงาน โดยมี 8 ฟังก์ชันการใช้งานหลัก

All Honda Civic Sedan

All Honda Civic Sedan

All Honda Civic Sedan เจเนอเรชันที่ 11 มีให้เลือก 3 รุ่น

- รุ่น RS ราคา 1,199,900 บาท

- รุ่น EL+ ราคา 1,009,900บาท

- รุ่น EL ราคา 964,900 บาท

พร้อมสีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) พร้อมด้วย สีใหม่ สีฟ้ามอร์นิงมิสต์ (เมทัลลิก) และสีเทา เมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) อีกทั้งสีขาวแพลทินัม (มุก) สีดำ คริสตัล (มุก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) สีภายใน มีทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีดำ และสีเทาเบจ ซึ่งขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยและสีภายนอก โดยในรุ่น EL และ EL+ ที่มาพร้อมสีภายนอก สีดำคริสตัล (มุก) และสีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) จะมาพร้อม กับภายในสีเทาเบจ

 

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com 

5 เรื่องน่าสนใจ