2022 All New Toyota land Cruiser 300 พี่ใหญ่สายลุยค่ายสามห่วง จ่อเผยที่แอฟริกาใต้ สิงหาคม นี้ เริ่ม 2.89 ล้านบาท

เพิ่งจะเผยตัวจริงให้ชาวออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น ตะวันออกลาง ได้ยลโฉมสัมผัสก่อนขายจริงกับ All New Toyota land Cruiser 300 เจเนอเรชั่นที่ 9 นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในรอบ 14 ปี ที่งานนี้กลับมาทวงบัลลังก์รถลุย อย่างเต็มรูปแบบ

ถึงกลุ่มรถยนต์ Big Size SUV นั้น จะเหลือไม่กี่เจ้าก็ตาม แต่ยังยืนหยัดในตลาดนี้ต่อไป กับ All New Toyota land Cruiser 300 โดยทาง โตโยต้า แอฟริกาใต้ ประกาศแล้วว่าเตรียมขายจริงช่วงเดือนสิงหาคมนี้ และคาดว่าตัดหน้ากลุ่มตลาดโอชิเนียอย่าง ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ จำหน่าย ตั้งแต่รุ่น GX-R, ZX, GR-S, GR Sport หล่อหรูเน้นความใหญ่โตอลังการจากชุดกระจังหน้าพร้อมโลโก้สามห่วงขนาดใหญ่ขนาบข้างด้วยไฟหน้า LED 3 ดวง พร้อมไฟ LED DRL ขนาดใหญ่รูปตัว L นอนอยู่ในโคมเดียวกัน รับกับชุดกันชนหน้าที่ดุดันถึงใจคอลุยขนานแท้ ตัวรถมีความใหญ่โตด้วยเส้นสายการออกแบบรวมถึง เสา D ที่ใหญ่ รวมถึงบั้ทนท้ายที่ทะมัดทะแมงด้วยไฟท้าย LED และฝาท้ายที่ยังเปิดได้ 2 ส่วน เอกลักษณ์เด่นของรุ่นนี้ และล้อมีให้เลือกทั้งแบบกระทะล้อ หรือล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วพร้อมยาง Dunlop Grand Trek AT30 ขนาด 265/65R18  และยางขนาด 265/55R20 Dunlop Grand Trek AT30 พร้อมล้ออัลลอยลายหรู 20 นิ้ว นอกจากนี้ยังมีการนะนำ All New Toyota Land Cruiser GR Sport ตอบโจทย์ขาลุยที่ชอบความสปอร์ต เข้มดุดัน ทั้งสีขาว Arctic White ซึ่งจะโดดเด่นด้วยล้ออัลลอยสีเทาด้าน 18 นิ้ว ขอบภายนอกสีดำสนิท และการออกแบบส่วนหน้าสุดเข้ม พร้อมโลโก้ตัวอักษร Toyota สร้างขึ้นจากพื้นฐาน TNGA-F ยังคงเอกลักษณ์ด้วยความแกร่งจากแชสซีสขั้นบันได (ladder-frame)

พี่บิ๊กเอสยูวีรุ่นนี้ยังให้ความหรูแบบ 3 ตอน 7 ที่นั่ง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกแบบใหม่ถอดด้าม ทั้งพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น คอนโซลกลางที่ออกแบบการใช้งานให้หยิบจับง่ายขึ้น และหรูหราขึ้นด้วยวัสดุหนังคุณภาพสื่อถึงความเอาใจใส่ที่ Toyota ตั้งใจให้หรูเทียบเท่า Range Rover ด้วยจอสัมผัสขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto มาตรวัดเรืองแสงขนาดใหญ่ 7 นิ้ว และ ลำโพง JBL 14 จุด รอบคัน พร้อมพอร์ตเสียบ USB ทั้งหมด 12 จุด และจอแสดงข้อมูลการขับขี่เหนือคอนโซลหน้า Head-UP Display

เอสยูวีรุุ่นใหญ่มาพร้อมขุมพลังที่ใหม่หมด ได้แก่เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่ 3.3 ลิตร V6 รหัส F33A-FTV 309 แรงม้าที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิด 700 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,600 รอบ/นาที และยังมีเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบคู่ 3.5 ลิตร V6 รหัส V35A-FTS 415 แรงม้าที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิด 650 นิวตันเมตรที่ 2,000-3,600 รอบ/นาที สองขนาดเครื่องยนต์จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด Direct Shift-10AT มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ และโหมดการขับขี่ 4 โหมดทั้ง โหมด Sport S, Sport S+, Comfort และ Customise ช่วงล่างพัฒนาใหม่ Electronic Kinetic Dynamic Suspension System หรือ E-KDSS บนพื้นฐานของช่วงล่างหน้าและหลังเพิ่อการลุยการเกาะถนนที่ดีขึ้นในทุกสภาพถนนกว่ารุ่นเดิม รวมถึงการไต่ที่ยอดเยี่ยมด้วยมุมไต่ 32 องศา มุมจาก 24 องศา และลุยน้ำได้ 700 มม.พร้อมระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense ทั้งระบบลดความเร็วอัตโนมัติ ระบบจับหน่วงพวงมาลัยเพื่อเลี่ยงการชน เป็นต้น

Flagship SUV ระดับตำนานเตรียมขายจริงที่แอฟริกาใต้ สิงหาคมนี้เริ่ม R1,283,200 - R1,842,900 หรือราว 2,890,000 – 4,148,000 บาท ไม่รวมภาษีนำเข้าของไทย แต่ถ้ามีการนำเข้ามาขายในไทยรวมภาษีนำเข้าจะอยู่ที่ 12,369,000 – 17,754,000 บาท

ที่มา Carscoops

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com