Ford ยุติการขาย Escape ในสหรัฐฯ ดีลเลอร์กังวลกระทบความคุ้มค่าและความภักดีต่อแบรนด์ระยะยาว
- โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
- 25 ธ.ค. 68 15:54
- 1,042 อ่าน
เป็นที่ยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่า Ford Escape ได้ยุติการทำตลาดในสหรัฐอเมริกา หลังรถเอสยูวีขนาดคอมแพ็กต์รุ่นยอดนิยมคันสุดท้ายออกจากสายการผลิตที่โรงงาน Louisville Assembly เมื่อวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา ปิดตำนานยาวนานกว่า 25 ปีนับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2000 แม้ Ford จะหันไปให้ความสำคัญกับ Bronco Sport และ Maverick มากขึ้น แต่การตัดสินใจครั้งนี้กลับสร้างความไม่สบายใจให้กับดีลเลอร์จำนวนมากทั่วประเทศ

รายงานล่าสุดระบุว่าดีลเลอร์ Ford กังวลว่าการหายไปของ Escape จะผลักลูกค้าให้หันไปเลือกแบรนด์คู่แข่ง โดยเฉพาะในกลุ่มรถราคาจับต้องได้ ซึ่ง Escape เคยทำหน้าที่เป็นประตูบานแรกให้ลูกค้าเข้าสู่แบรนด์ Ford อย่างชัดเจน ย้อนกลับไปในช่วงพีคปี 2017 Escape ทำยอดขายได้มากกว่า 308,000 คัน ก่อนจะลดลงเหลือประมาณ 141,000 คันในปี 2023 และขยับขึ้นเล็กน้อยเป็นราว 147,000 คันในปี 2024 ขณะที่ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2025 Ford ขาย Escape ได้ 132,471 คัน
ตัวเลขดังกล่าวใกล้เคียงกับยอดขายของ Bronco Sport ซึ่งทำได้ 132,216 คันในช่วงเวลาเดียวกัน อย่างไรก็ตาม มีการมองว่าดีลเลอร์อาจต้องใช้โปรโมชันและส่วนลดกับ Escape มากกว่า Bronco Sport ที่มีภาพลักษณ์สไตล์ออฟโรดและตั้งราคาสูงกว่า ส่งผลให้กำไรต่อคันแตกต่างกัน
การผลิต Escape และ Lincoln Corsair ได้สิ้นสุดลงพร้อมกันที่โรงงาน Louisville Assembly เพื่อเตรียมปรับปรุงสายการผลิตมูลค่ากว่า 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการผลิตรถกระบะไฟฟ้าขนาดกลางรุ่นใหม่ บนแพลตฟอร์ม Universal EV ของ Ford ซึ่งตั้งเป้าเริ่มผลิตในปี 2027 ขณะที่ Lincoln Corsair อาจยังทำตลาดต่อไปในรูปแบบการผลิตจากประเทศจีน

ช่องว่างในตลาดรถเอสยูวีคอมแพ็กต์ที่ Escape เคยครองอยู่ คือประเด็นที่ดีลเลอร์ไม่สบายใจ Doug North ประธาน North Bros. ในเมืองดีทรอยต์ ระบุว่า Escape คือสินค้าหลักของโชว์รูม เป็นรถที่ขายง่าย ราคาเข้าถึงได้ และช่วยดึงลูกค้าใหม่เข้ามา ก่อนจะต่อยอดไปสู่รุ่นใหญ่อย่าง Explorer เพื่อรักษาลูกค้าให้อยู่กับแบรนด์ในระยะยาว เขายอมรับว่าเข้าใจเหตุผลของ Ford แต่ก็เห็นว่าบริษัทควรทบทวนการตัดสินใจครั้งนี้ใหม่
ความเห็นในทิศทางเดียวกันยังมาจาก Nick Anderson ผู้จัดการทั่วไปของ Chuck Anderson Ford ในรัฐมิสซูรี ที่ชี้ว่าประเด็นเรื่องความสามารถในการเข้าถึงราคาคือสิ่งที่ดีลเลอร์พูดถึงมากที่สุด และการยกเลิก Escape เป็นการเดินสวนทางกับเป้าหมายนั้น ขณะที่ Nathan Meckley ผู้จัดการทั่วไปของ Downtown Ford of Sacramento มองตรงไปตรงมาว่า หากเสียลูกค้าระดับเริ่มต้นไป เท่ากับเสียลูกค้าทั้งเจเนอเรชัน เพราะพวกเขาจะย้ายไปใช้แบรนด์อื่นและอาจไม่กลับมาอีก
อย่างไรก็ตาม Ford มีมุมมองที่แตกต่าง โดยยังเชื่อมั่นใน Bronco Sport และ Maverick รวมถึงยืนยันว่ามีรถรุ่นใหม่ในกลุ่มราคาจับต้องได้อีกอย่างน้อย 5 รุ่นที่อยู่ระหว่างการพัฒนา และจะทยอยเปิดตัวภายในปี 2030 ช่วงเวลานี้จึงเป็นบททดสอบสำคัญของดีลเลอร์ Ford ที่ต้องทำตลาดด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ และรักษาฐานลูกค้าไว้ให้ได้ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น
ที่มา Carscoops
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com




