Mitsubishi Grandis ใหม่: SUV ไฮบริดจากฝรั่งเศสที่อาจญี่ปุ่นที่สุดแค่ตรงโลโก้
- โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
- 7 ก.ค. 68 21:09
- 1,019 อ่าน
Mitsubishi ยังคงเดินหน้าขยายไลน์อัพในยุโรปอย่างเงียบ ๆ ผ่านการร่วมมือกับ Renault ล่าสุดคือการเปิดตัว Mitsubishi Grandis ใหม่ ซึ่งแท้จริงแล้วคือ Renault Symbioz รุ่นรีแบดจ์ ที่มาในรูปแบบ SUV ขนาดคอมแพกต์แบบสองแถว พร้อมระบบขับเคลื่อนไฮบริด และห้องโดยสารที่กว้างขึ้นเมื่อเทียบกับ ASX
ชื่อ Grandis ที่หลายคนจำได้ว่าเคยเป็นรถมินิแวนสามแถวจากปี 2003–2011 ถูกนำกลับมาใช้อีกครั้งในฐานะ SUV ขนาดกลาง โดยมีฐานมาจาก Renault Captur เวอร์ชันยืดความยาว (Symbioz) เช่นเดียวกับ ASX รุ่นล่าสุดที่ใช้แพลตฟอร์ม Renault เช่นกัน
แม้รูปลักษณ์ภายนอกจะคล้ายกับ Symbioz อยู่มาก แต่ Grandis ก็มีจุดที่แตกต่างออกไป เช่น
* กระจังหน้าแบบ “Dynamic Shield” ตามสไตล์ Mitsubishi
* ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว ดีไซน์เฉพาะ
* โลโก้ Hybrid EV บนตัวรถ
* ไฟท้ายดีไซน์ใหม่ที่ดูสปอร์ตและเฉียบคมกว่า
ภายในห้องโดยสารแทบจะเหมือนกับ Renault ทุกประการ ยกเว้นโลโก้พวงมาลัย เป็นแบบ 5 ที่นั่ง มีเบาะหลังเลื่อนหน้า-หลังได้ ช่วยเพิ่มความจุสัมภาระระหว่าง 434–566 ลิตร
อุปกรณ์มาตรฐานรวมถึง
* หลังคากระจกพาโนรามาแบบเปลี่ยนความทึบได้
* จออินโฟเทนเมนต์ 10.4 นิ้ว
* ระบบช่วยขับครบครัน
* ฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า
ขุมพลังสองทางเลือก Mitsubishi Grandis ใหม่ ใช้แพลตฟอร์ม CMF-B ของ Renault–Nissan และมาพร้อมขุมพลังให้เลือก 2 แบบ:
1. ไมลด์ไฮบริด 1.3 ลิตร เทอร์โบ
* กำลัง 138 แรงม้า
* ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า
* เกียร์ธรรมดา 6 สปีด หรืออัตโนมัติ DCT 7 สปีด
2. ไฮบริดเต็มระบบ (Self-charging Hybrid)
* เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร + มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว
* กำลังรวม 154 แรงม้า
* ระบบส่งกำลังแบบ multi-mode
* แบตเตอรี่ขนาด 1.4 kWh
ผลิตในสเปน เตรียมขายปลายปีนี้ Grandis จะถูกผลิตที่โรงงาน Valladolid ของ Renault ในสเปน เคียงข้าง Symbioz และมีกำหนดเริ่มวางจำหน่ายในยุโรปปลายปีนี้
พร้อมกันนี้ Mitsubishi ยังเตรียมเปิดตัว Eclipse Cross เวอร์ชัน BEV (ไฟฟ้าล้วน) ซึ่งพัฒนาบนพื้นฐานเดียวกับ Renault Scenic E-Tech
Mitsubishi Grandis ใหม่อาจไม่ใช่รถที่ “ญี่ปุ่น” มากนักในเชิงเทคนิค แต่ก็เป็นการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ที่ชัดเจนของ Mitsubishi ในการขยายตลาดยุโรปด้วยรถยนต์ไฮบริดและไฟฟ้าที่พัฒนาเร็วขึ้นผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรฝรั่งเศส การรีแบดจ์อาจดูไม่หวือหวา แต่ก็อาจเป็นคำตอบที่มีประสิทธิภาพในยุคที่การพัฒนา EV ต้องเร็ว แข่งขันสูง และต้นทุนต่ำ
ที่มา Carscoops
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com