Nissan เปิดตัว N6 ซีดานไฮบริดรุ่นใหม่ ขนาดเท่า Altima แต่ราคาแค่หลักแสน ถูกกว่า Versa หลายพันดอลลาร์

Nissan เดินหน้ารุกตลาดจีนต่อเนื่องหลังความสำเร็จของ N7 รถไฟฟ้าล้วน ด้วยการเปิดตัว N6 ซีดานปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่จากการร่วมทุน Dongfeng–Nissan โดยเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าแล้วในราคาเริ่มต้นเพียง 106,900 หยวน หรือประมาณ 15,000 ดอลลาร์ ซึ่งถือว่าถูกอย่างมากเมื่อเทียบกับมาตรฐานฝั่งตะวันตก และสะท้อนการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงในจีน

N6 เปิดตัวครั้งแรกในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แม้จะใช้ดีไซน์ใกล้เคียงกับ N7 แต่รุ่นซีดานทั้งสองไม่ได้ใช้ชิ้นส่วนตัวถังร่วมกัน และมีสัดส่วนแตกต่างกันเล็กน้อย N6 มีความยาว 4,831 มม. ระยะฐานล้อ 2,815 มม. พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระ 570 ลิตร ซึ่งใกล้เคียงกับ Nissan Altima ที่วางขายในสหรัฐ

จุดต่างสำคัญจาก N7 คือ N6 ใช้ระบบปลั๊กอินไฮบริด โดยยังมีเครื่องยนต์เบนซินทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า แต่การขับเคลื่อนส่วนใหญ่ยังเป็นหน้าที่ของมอเตอร์ ระบบรวมให้กำลังสูงสุด 208 แรงม้า และแรงบิด 320 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่ง 0–100 กม./ชม. ภายใน 6.8 วินาที แบตเตอรี่ LFP ขนาดใหญ่ 21.1 kWh รองรับระยะทางขับด้วยไฟฟ้าล้วนสูงสุด 180 กม. ตามมาตรฐาน CLTC

ลูกค้าสามารถเลือกรุ่นย่อยได้สามรุ่น ได้แก่ Pro, Max และ Max+ โดยรุ่น Pro ให้ล้อ 17 นิ้ว ซันรูฟไฟฟ้า ไฟตกแต่งภายใน มาตรวัดดิจิทัล 10.25 นิ้ว และหน้าจอกลาง 14.6 นิ้ว ส่วนรุ่นท็อป Max+ ได้หน้าจอขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 15.6 นิ้ว พร้อมเบาะคนขับ “AI Zero-Pressure Cloud Carpet Seat” ที่มาพร้อมเซนเซอร์กดทับ 49 จุด ปรับไฟฟ้า 14 ทิศทาง รองรับทั้งนวด ระบายอากาศ และให้การพยุงช่วงขา–หลังได้สมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีลดอาการเมารถ ระบบจดจำใบหน้า และชิป Qualcomm Snapdragon ระดับสูง (รุ่น Max+ ใช้ 8775 ส่วนรุ่นรองใช้ 8155)

ราคา N6 เริ่มต้นปกติที่ 109,900 หยวน แต่ในช่วงเปิดจอง Nissan ลดราคาพิเศษเหลือ 106,900 หยวน โดยจะเริ่มส่งมอบตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม ความคุ้มค่านี้ยิ่งชัดเจนเมื่อเทียบกับ Nissan Versa รุ่นฐานในสหรัฐ ที่ราคาแพงกว่า N6 ถึงราว 2,400 ดอลลาร์ ทั้งที่ตัวรถเล็กกว่าอย่างมาก แม้คู่แข่งจีนอย่าง Geely Galaxy A7 และ BYD Qin L จะยังตั้งราคาถูกกว่า แต่ Nissan เชื่อว่าความเนียนในการขับและเทคโนโลยีที่ครบกว่าจะตอบโจทย์ลูกค้าระดับพรีเมียมมากขึ้น

Nissan ยังเผยว่า ภายในปี 2027 จะมีการเสริมไลน์รถอเนกประสงค์อีกสี่รุ่น ทั้งแบบไฟฟ้าล้วน ปลั๊กอินไฮบริด และแบบเรนจ์เอ็กซ์เทนเดอร์ เพื่อขยายไลน์อัปในตลาดจีนให้ครบทุกเซกเมนต์

ที่มา Carscoops