Polestar เจอปัญหาซ้ำ เรียกคืนรถเกือบ 28,000 คัน หลังกล้องถอยหลังมีปัญหาอีกครั้ง

แม้จะเป็นแบรนด์ที่สร้างกระแสใหม่ด้วยการออกแบบรถยนต์ไร้กระจกหลัง แต่ล่าสุด Polestar กลับต้องเจอกับปัญหาเรื่องกล้องถอยหลังซึ่งกลายเป็นจุดอ่อนใหญ่ที่ทำให้ต้องเรียกคืนรถยนต์กว่า 27,800 คันในสหรัฐฯ เพื่ออัปเดตซอฟต์แวร์

Polestar 4 และแนวคิด “ไม่ต้องมีกระจกหลัง”
Polestar 4 คือรถยนต์รุ่นแรก ๆ ที่เปิดตัวมาพร้อมแนวคิดสุดล้ำ — ไม่มีหน้าต่างหลัง — โดยใช้กล้องแสดงผลผ่านจอแทนทั้งหมด แนวคิดนี้ถูกมองว่านำสมัยและช่วยให้การออกแบบตัวรถดูเรียบลื่น แต่ในทางปฏิบัติ กลับต้องพึ่งพากล้องแบบ 100% ซึ่งเป็นสิ่งที่สร้างความกังวล หากระบบกล้องมีปัญหา

แต่ปัญหานี้เกิดกับ Polestar 2 ต่างหาก
แม้การเรียกคืนนี้จะไม่เกี่ยวกับรุ่น 4 โดยตรง แต่ Polestar ได้ประกาศเรียกคืนรถรุ่น Polestar 2 จำนวน 27,816 คัน ที่ผลิตระหว่างปี 2021–2025 หลังมีผู้ใช้จำนวนหนึ่งร้องเรียนว่ากล้องถอยหลังไม่ทำงาน และหน้าจอแสดงข้อความ “camera is temporarily unavailable” แทนภาพจากกล้องเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง

Polestar ระบุว่าสาเหตุเกิดจากการซิงโครไนซ์ผิดพลาดระหว่างกล้อง Parking Assist กับระบบอินโฟเทนเมนต์ โดยซอฟต์แวร์เวอร์ชันใหม่จะช่วยแก้ปัญหา แต่จำเป็นต้องนำรถเข้าศูนย์เพื่ออัปเดต ไม่สามารถทำผ่าน OTA (Over-the-Air) ได้

ปัญหานี้เคยเกิดแล้ว — และอาจเกิดอีก
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2024 Polestar ก็เคยเรียกคืนรถรุ่นเดียวกันจำนวนเกือบ 26,000 คันด้วยปัญหากล้องคล้ายกัน ซึ่งตอนนั้นสามารถแก้ไขผ่าน OTA ได้ แต่ดูเหมือนจะยังไม่จบสิ้น เพราะเวอร์ชันใหม่ก็ยังมีบั๊กอยู่

อนาคตของรถยนต์ไร้กระจกหลัง
นอกจาก Polestar 4 แล้ว รถยนต์รุ่นใหม่อย่าง Polestar 5 ที่กำลังจะเปิดตัวในอนาคต รวมถึงรถซีดานไฟฟ้ารุ่นใหม่ของ Jaguar ก็ถูกออกแบบมาโดยไม่มีหน้าต่างหลังเช่นกัน ยิ่งทำให้เกิดคำถามว่า เทคโนโลยีจะเชื่อถือได้มากพอหรือยัง หากไม่มีระบบสำรองอย่างกระจกแบบดั้งเดิม

แม้แนวคิด "ไม่มีหน้าต่างหลัง" จะดูล้ำสมัย แต่กรณีของ Polestar ยืนยันว่า ความพึ่งพาเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีระบบสำรอง อาจสร้างปัญหาที่ยุ่งยากได้ในชีวิตจริง คำถามสำคัญคือ: ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ผู้ผลิตรถควรกลับมาคิดเรื่องความปลอดภัยพื้นฐานให้มากกว่าการออกแบบล้ำ ๆ?

ที่มา Carscoops