หุ้น Polestar ร่วงหนักจนเสี่ยงถูกถอดออกจากตลาด Nasdaq แม้ยอดขายยังโตต่อเนื่อง

แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติสวีเดน Polestar กำลังเผชิญวิกฤตครั้งสำคัญ หลังได้รับคำเตือนจากตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq ว่า “ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ราคาหุ้นขั้นต่ำ” ที่ต้องมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น ซึ่งหากไม่สามารถกลับมาปรับตัวได้ตามกำหนดภายในเวลาที่กำหนด อาจถูก ถอดออกจากการซื้อขาย (Delisting) ในที่สุด

หุ้นของ Polestar ปิดตลาดล่าสุดที่ราคา 0.84 ดอลลาร์สหรัฐ ใกล้เคียงกับจุดต่ำสุดในรอบ 52 สัปดาห์ที่ 0.82 ดอลลาร์ และห่างไกลจากจุดสูงสุดของปีที่ 1.42 ดอลลาร์ โดยราคาหุ้นได้ร่วงต่ำกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา

ตามกฎของ Nasdaq บริษัทจะต้องทำให้ราคาหุ้นกลับมาปิดที่อย่างน้อย 1 ดอลลาร์ขึ้นไปติดต่อกัน 10 วันทำการ ภายในวันที่ 29 เมษายน ปีหน้า หากไม่สามารถทำได้ อาจขอขยายเวลาได้อีก 180 วัน แต่ก็ยังไม่มีความแน่นอนว่าจะรอดพ้นจากการถูกถอดออกหรือไม่

แม้สถานการณ์ด้านการเงินจะน่ากังวล แต่ Polestar ยังมีสัญญาณบวกในเชิงธุรกิจ โดยยอดขายปลีกไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 13% อยู่ที่ 14,192 คัน และยอดขายสะสมตั้งแต่ต้นปีเพิ่มขึ้นถึง 36% รวม 44,482 คัน ทั่วโลก

ขณะเดียวกัน บริษัทเพิ่งเปิดตัวรุ่นผลิตจริงของ Polestar 5 ในงาน Munich Motor Show ซึ่งเป็นรถสปอร์ตไฟฟ้าคู่แข่งตรงของ Porsche Taycan มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 112 kWh และพละกำลังสูงสุดถึง 872 แรงม้า (650 kW)

นอกจากนี้ยังเปิดตัว Polestar 3 รุ่นปรับโฉมใหม่ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ที่มาพร้อมระบบไฟฟ้า 800 โวลต์ แบตเตอรี่รุ่นใหม่ และมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้สมรรถนะสูงขึ้น ทำให้รุ่นนี้ทั้งเร็ว แรง และมีประสิทธิภาพมากกว่ารุ่นก่อน

แม้จะมีผลิตภัณฑ์ใหม่และยอดขายเติบโตต่อเนื่อง แต่แรงกดดันจากตลาดหุ้นสะท้อนให้เห็นว่าการแข่งขันในตลาดรถยนต์ไฟฟ้ากำลังทวีความดุเดือด และ Polestar จำเป็นต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าแบรนด์สามารถยืนระยะได้ในระยะยาว ไม่ใช่แค่ในสนามทดสอบ แต่รวมถึงในสนามการเงินด้วยเช่นกัน

ที่มา Carscoops