Porsche ซุ่มพัฒนามอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Axial Flux สำหรับไฮบริดยุคใหม่ อาจเปลี่ยนเกมสมรรถนะของ 911 รุ่นต่อไป

แม้ Porsche 911 Carrera GTS T-Hybrid และ 911 Turbo S ไฮบริดรุ่นใหม่จะได้รับเสียงชมอย่างล้นหลามในด้านสมรรถนะและระบบขับเคลื่อนที่ล้ำสมัย แต่ดูเหมือนว่าค่ายรถสปอร์ตจากสตุทท์การ์ทยังไม่หยุดพัฒนา ล่าสุดมีการค้นพบเอกสารสิทธิบัตรใหม่ที่บ่งชี้ว่า Porsche กำลังเตรียมก้าวไปอีกระดับด้วยระบบไฮบริดรุ่นถัดไปที่ทั้งเบากว่าและทรงพลังยิ่งขึ้น

ปัจจุบัน Porsche ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Radial Flux ที่ติดตั้งในเกียร์ PDK 8 สปีด บนรุ่นไฮบริดของ Cayenne และ Panamera แต่เอกสารที่ยื่นต่อองค์กร WIPO เผยว่า Porsche กำลังพัฒนาโครงสร้างใหม่ โดยใช้มอเตอร์ Axial Flux ติดตั้งอยู่ระหว่างเครื่องยนต์และเกียร์แบบแยกชุดเบลล์เฮาส์ซิงโดยเฉพาะ

มอเตอร์ Axial Flux ถือเป็นเทคโนโลยีที่กำลังเป็นที่จับตามองในอุตสาหกรรม หลังถูกใช้งานโดยแบรนด์ระดับซูเปอร์คาร์อย่าง Ferrari SF90, 296 GTB, Lamborghini Revuelto, Lamborghini Temerario และ McLaren Artura รวมถึงไฮเปอร์คาร์ McLaren W1 โดยผู้พัฒนาหลักคือ YASA จากสหราชอาณาจักร ซึ่งปัจจุบันเป็นบริษัทลูกของ Mercedes-Benz มอเตอร์รุ่นล่าสุดของ YASA ให้พลังสูงถึง 1,005 แรงม้า หนาเพียง 3 นิ้ว และหนักเพียง 28 ปอนด์

อย่างไรก็ตาม Porsche ไม่ได้เลือกใช้มอเตอร์ของ YASA และกำลังพัฒนาเทคโนโลยีนี้ด้วยตัวเอง ซึ่งถือเป็นความท้าทายอย่างมาก แต่ด้วยข้อได้เปรียบด้านน้ำหนัก ความบางของตัวมอเตอร์ และประสิทธิภาพที่เหนือกว่า จึงเป็นก้าวสำคัญที่ Porsche มองว่าคุ้มกับการลงทุน เอกสารยังระบุว่ามอเตอร์จะทำงานร่วมกับเกียร์ดูอัลคลัตช์เท่านั้น พร้อมระบบหล่อเย็นรุ่นใหม่ที่ช่วยรักษาอุณหภูมิการทำงานให้เหมาะสมตลอดเวลา

แม้ว่าจะยังไม่ชัดเจนว่าระบบใหม่จะพร้อมใช้งานจริงเมื่อใด แต่เทคโนโลยีนี้อาจเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ Porsche สามารถคงเครื่องยนต์หกสูบนอนแบบไร้เทอร์โบในรุ่น 911 GT3 และ GT3 RS ต่อไป โดยไม่จำเป็นต้องหันไปใช้ระบบอัดอากาศ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ Porsche ยืนยันว่ารุ่นต่อไปของรถสปอร์ตสายสนามจำเป็นต้องมีระบบไฟฟ้าช่วยหรือใช้เทอร์โบอย่างใดอย่างหนึ่ง

หากระบบใหม่นี้เข้าสู่สายการผลิตจริง อาจเป็นก้าวใหญ่ที่ยกระดับเทคโนโลยีไฮบริดของ Porsche และอาจเปลี่ยนโฉมสมรรถนะของ 911 เจเนอเรชันถัดไปอย่างชัดเจน

ที่มา Carscoops