Renault เปิดตัว Trafic E-Tech Electric รถแวนไฟฟ้าดีไซน์ล้ำที่อาจดูดีกว่ารถของคุณ

  • โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
  • 19 พ.ย. 68 10:00
  • 1,032 อ่าน

Renault เปิดตัว Trafic E-Tech Electric รุ่นใหม่ภายในงาน Solutrans 2025 ซึ่งเป็นเวอร์ชันพลังงานไฟฟ้าของ Flexis Panel Van โดยยังคงงานออกแบบภายนอกที่คล้ายกันแทบทั้งหมด แต่เพิ่มความโดดเด่นด้วยโลโก้ Renault แบบเรืองแสง ไฟนำทางดีไซน์เฉียบ และไฟเลี้ยวทรงเรียว พร้อมไฟหน้าแบบติดตั้งตำแหน่งต่ำและกันชนหน้าที่คุ้นตากันดี

Renault

แม้จะเคยเห็นภาพภายนอกมาก่อน แต่ตัวรถยังคงจุดเด่นด้านการใช้งาน เช่น ชิ้นส่วนตกแต่งสีดำ เส้นสายตัวถังแบบไดนามิก ประตูหลังแบบไม่สมมาตร ไฟท้ายทรงสามมิติ และประตูด้านข้างขนาดใหญ่ รองรับการบรรทุกพาเลตยุโรปได้อย่างลงตัว

Trafic E-Tech Electric มีให้เลือกสองขนาด เริ่มจากรุ่น L1 ความยาว 4,870 มม. รองรับพื้นที่บรรทุก 5.1 ลูกบาศก์เมตร ส่วนรุ่น L2 มาพร้อมฐานล้อยาวขึ้น 400 มม. เพิ่มความจุพื้นที่บรรทุกเป็น 5.8 ลูกบาศก์เมตร ทั้งสองรุ่นมีความสูง 1,900 มม. สามารถเข้า-ออกอาคารจอดรถใต้ดินได้อย่างไม่ติดขัด

Renault

ภายในห้องโดยสารเน้นความเรียบง่ายใช้งานจริง ประกอบด้วยเบาะสามที่นั่ง แดชบอร์ดทรงท่อ พวงมาลัยสามก้าน ช่องเก็บของหลายตำแหน่ง และเบาะลายผ้ายีนส์โทน Zeta พร้อมตัดขอบสีเทา เพิ่มความทันสมัยยิ่งขึ้น รถยังมาพร้อมหน้าจอมาตรวัดดิจิยัลขนาด 10 นิ้ว และระบบอินโฟเทนเมนต์ openR evo ขนาด 12 นิ้ว หันเข้าหาผู้ขับเพื่อความสะดวก รองรับแผนที่นำทางที่คำนวณเส้นทางตามขนาดรถและน้ำหนักบรรทุก รวมถึงตัววางแผนเส้นทางชาร์จไฟ นอกจากนี้ยังสามารถอัปเกรดเป็นระบบ Google built-in ผ่าน OTA ได้ในภายหลัง

ระบบขับเคลื่อนใช้มอเตอร์ไฟฟ้าติดตั้งด้านหลัง กำลังสูงสุด 201 แรงม้า แรงบิด 345 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มแบบสเกตบอร์ด แบตเตอรี่มีให้เลือกสองแบบ เริ่มจากแบตเตอรี่ระยะไกลชนิด NMC ที่ให้ระยะทางประมาณ 450 กม. ตามมาตรฐาน WLTP และต่อด้วยแบตเตอรี่ LFP แบบระยะใกล้ที่จะเปิดตัวตามมา ให้ระยะทางราว 350 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

Renault

เทคโนโลยี 800V ช่วยให้การชาร์จจาก 15% ถึง 80% ใช้เวลาประมาณ 20 นาที พร้อมฟังก์ชัน V2L และ V2G สำหรับจ่ายไฟกลับภายนอก รถยังให้วงเลี้ยวเทียบเท่า Renault Clio และตั้งเป้าใช้วัสดุรีไซเคิลมากกว่า 23% ของทั้งคัน

Trafic E-Tech Electric จะผลิตที่โรงงาน Sandouville ควบคู่กับรุ่นเครื่องยนต์สันดาป เริ่มสายการผลิตช่วงปลายปี 2026 และจะมีรุ่นตัวถังอื่น ๆ ตามมา เช่น ช่วงล่างห้องโดยสาร แพลตฟอร์มแชสซี รถดัมพ์ กระบะพื้นเรียบ และรุ่นกล่องบรรทุกในอนาคต

ที่มา Carscoops

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ