Renault Twingo รุ่นใหม่โผล่ก่อนเปิดตัวจริงอย่างเป็นทางการ โฉมใหม่สไตล์เรโทร ผสานหัวใจไฟฟ้าเต็มรูปแบบ

ก่อนถึงวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 6 พฤศจิกายน ภาพหลุดของ Renault Twingo เจเนอเรชันที่ 4 ก็เผยโฉมออกมาก่อนเวลา ทำให้เราได้เห็นทั้งภายนอกและภายในของรถซิตี้คาร์สุดคลาสสิกคันนี้ ที่กำลังจะกลับมาอีกครั้งในรูปแบบ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100%

ดีไซน์ภายนอกของ Twingo รุ่นใหม่ ยังคงเอกลักษณ์ความเป็นต้นฉบับจากยุค 90s ไว้อย่างครบถ้วน โดยได้แรงบันดาลใจจากรุ่นปี 1992 ที่โด่งดังด้วยรูปลักษณ์กระทัดรัดและเส้นสายโค้งมน รุ่นใหม่นี้พัฒนาเป็นตัวถังแบบห้าประตู เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน พร้อมรายละเอียดการออกแบบที่ใกล้เคียงกับต้นแบบปี 2023 แทบทุกจุด มีเพียงการปรับเล็กน้อย เช่น มือจับประตูแบบดั้งเดิม ชุดไฟหน้า LED ทรงใหม่ ล้อแบบมีฝาครอบ และกันชนพร้อมแผงกันกระแทกเพื่อความทนทานในการขับขี่ประจำวัน

ห้องโดยสารภายในยังคงคาแรกเตอร์ของต้นแบบไว้ แต่ปรับวัสดุให้เหมาะกับการผลิตจริง ใช้พลาสติกแข็งแทนวัสดุหรูจากรถโชว์ เบาะผ้าทรงมาตรฐาน และติดตั้งหน้าจออินโฟเทนเมนท์แบบลอยเหนือคอนโซล พร้อมมาตรวัดขนาดกะทัดรัดที่ยกมาจากชิ้นส่วนของ Dacia ซึ่งอยู่ในเครือ Renault เช่นกัน จุดเด่นคือยังคงมีปุ่มควบคุมระบบปรับอากาศแบบจริงทั้งบนคอนโซลกลางและพวงมาลัย เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน พร้อมแถบสีเหลืองสดใสบนแผงแดชบอร์ด และดีเทลสีแดงเล็ก ๆ ระหว่างเบาะหน้าเพิ่มลูกเล่นให้ห้องโดยสารดูมีชีวิตชีวามากขึ้น

ด้านสมรรถนะ Renault Twingo รุ่นใหม่จะเป็น รถไฟฟ้าล้วน (EV) เต็มรูปแบบ โดยใช้แพลตฟอร์ม AmpR Small (หรือชื่อเดิม CMF-BEV) ซึ่งเป็นโครงสร้างเดียวกับ Renault R5, R4 และ Nissan Micra คาดว่าจะมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ลิเธียมไอรอนฟอสเฟต (LFP) ที่เน้นความทนทานและต้นทุนต่ำ

ในตลาดยุโรป Twingo รุ่นใหม่นี้จะลงแข่งขันในกลุ่มรถไฟฟ้าขนาดเล็ก (A-Segment) กับคู่แข่งอย่าง Dacia Spring, Leapmotor T03, และว่าที่คู่แข่งจาก Volkswagen ID.Every1 รวมถึง Nissan EV รุ่นใหม่ นอกจากนี้ยังชนตลาดกับรุ่นประหยัดในกลุ่ม B-Segment อย่าง Fiat Grande Panda และ Citroën e-C3 ด้วย

เมื่อปี 2023 Luca de Meo อดีตซีอีโอของ Renault เคยระบุว่า Twingo เจเนอเรชันใหม่จะมีราคาจำหน่ายเริ่มต้นไม่เกิน 20,000 ยูโร (ประมาณ 23,000 ดอลลาร์สหรัฐ) ก่อนหักเงินอุดหนุน และอาจมีโปรแกรมเช่ารายเดือนเริ่มต้นเพียง 100 ยูโร (ประมาณ 115 ดอลลาร์) เท่านั้น

รายละเอียดทางเทคนิคและกำหนดการวางจำหน่ายในยุโรปจะได้รับการเปิดเผยอย่างเป็นทางการในวันที่ 6 พฤศจิกายน ซึ่งคาดว่าจะเป็นอีกหนึ่งการเปิดตัวสำคัญของ Renault ที่นำความคลาสสิกของอดีตกลับมาสู่ยุคใหม่ด้วยพลังงานไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง

ที่มา Carscoops