Rivian เตรียมใช้พวงมาลัยไฟฟ้าเต็มระบบแบบ Tesla Cybertruck พลิกประสบการณ์การขับขี่แบบที่คุณไม่เคยสัมผัส

  • โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
  • 12 ส.ค. 68 21:35
  • 1,036 อ่าน

ในขณะที่ Tesla Cybertruck กลายเป็นหนึ่งในรถรุ่นแรกที่ใช้ระบบ steer-by-wire หรือพวงมาลัยไฟฟ้าเต็มระบบที่ตัดการเชื่อมต่อทางกลกับล้อหน้าอย่างสมบูรณ์ ล่าสุดดูเหมือนว่า Rivian กำลังจะเดินตามรอยแนวคิดนี้ในรถรุ่นถัดไปของตน

Rivian

ระบบพวงมาลัยไฟฟ้าแบบใหม่มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงประสบการณ์การขับขี่อย่างสิ้นเชิง ไม่ใช่แค่เรื่องของฟีลลิ่งในการควบคุม แต่ยังรวมถึงโอกาสใหม่ในการออกแบบ และการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับยานยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่

เผยสัญญาณชัดเจนจากตำแหน่งงานใหม่ใน Rivian

ข้อมูลนี้ถูกเปิดเผยโดยชุมชน Rivian Forums ซึ่งพบว่าบนเว็บไซต์ของ Rivian มีประกาศรับสมัครตำแหน่ง Senior Staff Technical Program Manager สำหรับ “ระบบขับเคลื่อนพวงมาลัยไฟฟ้า” (Steer-By-Wire System) โดยระบุชัดว่า ผู้ได้รับตำแหน่งจะมีหน้าที่ดูแลระบบนี้แบบ "ครบวงจร" ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบโครงการ

ตำแหน่งนี้ยังมีบทบาทสำคัญด้านการจัดการซัพพลายเออร์ ความเสี่ยง การประสานงานกับทีมต่าง ๆ การตรวจสอบคุณภาพ ไปจนถึงการรายงานผลความคืบหน้าให้กับผู้บริหารและนักลงทุน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า Rivian ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีนี้อย่างมาก

ทำไม Steer-By-Wire ถึงน่าจับตา?

ระบบพวงมาลัยแบบ Steer-By-Wire ตัดการเชื่อมต่อทางกลระหว่างพวงมาลัยกับล้อหน้า โดยใช้เซ็นเซอร์และกล่องควบคุมในการแปลพฤติกรรมของผู้ขับให้กลายเป็นการหมุนล้อแบบดิจิทัล ทำให้สามารถปรับ "อัตราทดพวงมาลัย" (steering ratio) ตามความเร็วและสถานการณ์ได้อย่างแม่นยำ

Rivian

ตัวอย่างเช่น Tesla Cybertruck ใช้เซ็นเซอร์สามชุดร่วมกันในการแปลคำสั่งจากผู้ขับไปยังล้อหน้า โดยไม่จำเป็นต้องหมุนพวงมาลัยหลายรอบเหมือนรถทั่วไป ซึ่งให้ความรู้สึกแม่นยำ ฉับไว และคล่องตัวกว่าเดิม โดยเฉพาะในพื้นที่แคบหรือขณะจอด

ที่น่าสนใจกว่านั้นคือ ระบบนี้มีต้นแบบที่พิสูจน์แล้วในอุตสาหกรรมการบิน เครื่องบินพาณิชย์หลายรุ่นใช้เทคโนโลยี fly-by-wire ซึ่งเป็นแนวคิดเดียวกัน และถือว่ามีความเสถียรสูง

เมื่อไหร่เราจะได้เห็นในรถ Rivian รุ่นใหม่?

แม้ Rivian จะยังไม่ประกาศวันเปิดตัวระบบนี้อย่างเป็นทางการ แต่จากลักษณะงานที่ประกาศรับสมัคร คาดว่าต้องใช้เวลาอีก 1-2 ปีในการพัฒนา และเมื่อพร้อมใช้งาน จะไม่ถูกจำกัดแค่ในรุ่นใดรุ่นหนึ่งเท่านั้น เพราะ Rivian เรียกระบบนี้ว่า "เทคโนโลยีสำคัญที่จะนิยามอนาคตรถยนต์ของเรา"

ที่มา Carscoops

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ