ภาษีนำเข้าส่อผลักดันให้ Volvo ผลิตรถรุ่นขายดีในอเมริกา

ท่ามกลางสงครามการค้าที่ยืดเยื้อ และความเป็นไปได้ที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะกลับมาใช้มาตรการภาษีนำเข้ารอบใหม่ Volvo อาจจำเป็นต้องเร่งแผนผลิตรถรุ่นยอดนิยมในสหรัฐอเมริกาให้เร็วยิ่งขึ้น

ในปัจจุบัน โรงงานของ Volvo ที่เมืองริจวิลล์ รัฐเซาท์แคโรไลนา ผลิตรถรุ่น EX90 ซึ่งแม้จะดูเป็นรุ่นเรือธง แต่กลับมียอดขายไม่ถึงเป้าหมาย โดยในครึ่งแรกของปี 2025 มียอดขายเพียง 1,972 คัน ขณะที่ยอดขาย XC90 และ XC60 ในเดือนมิถุนายนเพียงเดือนเดียว อยู่ที่ 3,004 และ 2,421 คันตามลำดับ

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและตอบรับความต้องการของตลาดหลักอย่างอเมริกา รายงานจาก AutoNews ระบุว่า Volvo มีแผนจะเริ่มผลิตรุ่น XC60 ในโรงงานที่สหรัฐฯ ภายในเดือนมกราคม 2027 และตามด้วยรุ่น XC90 ในเดือนตุลาคม 2028 ซึ่งถือเป็นสองรุ่นที่ขายดีที่สุดในอเมริกาเมื่อปีที่แล้ว ด้วยยอดรวมมากกว่า 78,000 คัน หรือคิดเป็นเกือบ 63% ของยอดขายทั้งหมดในตลาดสหรัฐฯ

แผนนี้จะช่วยยกระดับการใช้กำลังการผลิตของโรงงาน ซึ่งในปัจจุบันใช้เพียง 13% ของศักยภาพที่มี หากแผนประสบผลสำเร็จ โรงงานจะสามารถผลิต XC60 ได้ถึง 60,000 คันต่อปี และ XC90 อีก 50,000 คันต่อปี

นอกจากนี้ ยังมีความเป็นไปได้ที่ Volvo จะย้ายการผลิตรุ่น ES90 ซึ่งปัจจุบันผลิตที่จีน มาผลิตในอเมริกา เนื่องจาก Volvo เคยระบุว่าต้นทุนจากภาษีนำเข้าสูงเกินไป ทำให้ไม่สามารถทำกำไรได้หากนำรุ่นนี้มาขายในสหรัฐฯ

แม้ Volvo จะยังไม่ยืนยันรายละเอียดทั้งหมด แต่โฆษกของบริษัทได้ให้สัมภาษณ์กับ Car & Driver ว่า “Volvo ยึดมั่นในกลยุทธ์การผลิตในพื้นที่ที่เราขายมาโดยตลอด และตอนนี้กลยุทธ์ดังกล่าวมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น เราได้สื่อสารไปก่อนหน้านี้แล้วว่า กำลังพิจารณาเพิ่มสายการผลิตรถรุ่นใหม่ที่โรงงานในสหรัฐฯ ซึ่งมีศักยภาพในการผลิต 150,000 คันต่อปี และเราจะเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมในเร็ว ๆ นี้”

ที่มา Carscoops