ภาษีนำเข้าเปลี่ยนทิศทางธุรกิจของ Volvo ในสหรัฐฯ อย่างเห็นได้ชัด

Volvo เตรียมถอดรถซีดานรุ่น S90 และแวกอนรุ่น V90 ออกจากตลาดสหรัฐฯ หลังจากได้รับผลกระทบจากนโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะรถที่ผลิตในจีนซึ่งถูกเก็บภาษีสูงถึง 100% ทำให้ Volvo ไม่สามารถทำกำไรจากการขายรุ่น S90 และรุ่นใหม่อย่าง ES90 ได้ในตลาดนี้ ขณะเดียวกัน Volvo จะลดจำนวนรุ่นที่จำหน่ายในอเมริกาเหลือเพียงครึ่งหนึ่งจากทั้งหมด 13 รุ่นทั่วโลก และส่วนใหญ่จะเหลือเพียง SUV เท่านั้น

ในเวลาเดียวกัน บริษัทก็ได้ปรับแผนการจำหน่ายรุ่น EX30 โดยจะวางจำหน่ายเฉพาะรุ่นมอเตอร์คู่ระดับท็อปเท่านั้น ตัดรุ่นมอเตอร์เดี่ยวที่ราคาย่อมเยาออก ซึ่งก่อนหน้านี้เคยถูกมองว่าอาจเป็นคู่แข่งของ Tesla Model Y

จากรายงานของ Reuters ระบุว่า Volvo มีความเปราะบางเป็นพิเศษต่อภาษีที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากฐานการผลิตหลักของบริษัทอยู่ในจีนและยุโรป แม้ว่าจะมีโรงงานในรัฐเซาท์แคโรไลนาของสหรัฐฯ ที่ใช้ผลิตรุ่น EX90 ก็ตาม ทั้งนี้รถที่นำเข้าจากยุโรปถูกเก็บภาษี 27.5% ส่วนรถจากจีนถูกเก็บถึง 100%

จากผลกระทบของภาษีนี้ Volvo จึงประกาศตั้งสำรองขาดทุน (impairment charge) เป็นมูลค่า 11.4 พันล้านโครนสวีเดน หรือประมาณ 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับผลประกอบการไตรมาสที่สองของปีนี้

อย่างไรก็ตาม การเพิ่มไลน์การผลิตรุ่น XC60 ที่โรงงานในเซาท์แคโรไลนา อาจช่วยลดผลกระทบและเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ในตลาดสหรัฐฯ ได้มากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อ XC60 เป็นรถที่ขายดีที่สุดของ Volvo ในปีนี้ คิดเป็นสัดส่วนมากกว่าหนึ่งในสามของยอดขายในอเมริกา และยังมียอดขายเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 22.9% แม้จะถือว่าเริ่มล้าสมัยเมื่อเทียบกับคู่แข่งจากยุโรป
ยังมีการคาดการณ์ว่า Volvo อาจขยายกำลังการผลิตในสหรัฐฯ เพิ่มเติม โดยมีข่าวว่ารุ่น XC90 อาจถูกผลิตที่โรงงานแห่งนี้ด้วย แต่ทางบริษัทยังไม่ได้ยืนยันแผนดังกล่าวอย่างเป็นทางการ

ที่มา Carscoops