จัดระเบียบเข้ม ให้ใช้ป้ายแดงได้ไม่เกิน 30 วัน ฝ่าฝืนปรับสูงสุด 10,000 บาท

  • โดย : พิสน ลีละหุต
  • 8 ส.ค. 60
  • 8,442 อ่าน

กรมการขนส่งทางบก จับมือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวมาตรการเข้มงวดในการใช้งานป้ายแดงมากขึ้น โดยในปีหน้า จะอนุญาตให้ใช้งานป้ายแดงสำหรับรถยนต์ที่ออกจากศูนย์บริการใหม่เพียงแค่ 30 วันเท่านั้น ถ้าหากเกินกว่านี้มีโทษปรับสูงสุด 10,000 บาท

MG GS

นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เผยว่า รถยนต์ป้ายแดงคือรถที่ยังไม่ได้ทำการจดทะเบียน เป็นเพียงเครื่องหมายพิเศษที่ทำการออกให้ชั่วคราวเพื่อใช้ในการขนย้ายรถยนต์ในแต่ละครั้ง ซึ่งต้องใช้คู่กับคู่มือประจำรถและใบอนุญาตให้ใช้รถ ถ้านำมาใช้บนท้องถนนจะมีความผิดฐานนำรถยนต์ที่ไม่ได้จดทะเบียนมาใช้ ผิดตาม พรบ.รถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 6 อัตราโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท ปัจจุบันมีป้ายแดงที่ถูกต้องอยู่ในมือผู้จำหน่ายกว่า 3,000 ราย รวม 400,000 ป้าย ปัจจุบันกำลังมีกฎหมายที่ระบุให้ยกเลิกป้ายแดงอยู่ในระหว่างการพิจารณา อยู่ในขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องตามมาตรา 77 รัฐธรรมนูญแห่งราขอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ซึ่งในระหว่างที่รอกฎหมายใหม่ออกมา จึงขอความร่วมมือทุกคนที่ใช้งานรถป้ายแดงอยู่ ให้รีบจดทะเบียนแล้วเปลี่ยนป้ายให้เร็วที่สุด โดยมาตรการนี้ สำหรับรถที่ออกใหม่ตั้งแต่ 1 ตุลาคม - 31 ธันวาคม 2560 ต้องเปลี่ยนป้ายให้ได้ภายใน 60 วัน และตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 เป็นต้นไป ต้องเปลี่ยนป้ายให้ได้ภายใน 30 วัน มิฉะนั้นจะมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และทางกรมการขนส่งทางบกก็ยืนยันว่า ขั้นตอนการจดทะเบียนรถใหม่นั้น สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ภายใน 1 วัน

Ford Focus

ด้านพลตำรวจโทวิทยา ประยงค์พันธุ์ รักษาราชการแทน ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติเปิดเผยว่า การที่ใช้งานรถทะเบียนป้ายแดง จะเป็นช่องว่างที่ทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถตรวจสอบเจ้าของรถที่แท้จริงได้ จึงทำให้มิจฉาชีพนำช่องว่างนี้เอาไปประกอบอาชญากรรมที่ผิดกฎหมาย และปัจจุบันก็มีบางผู้จำหน่ายที่แอบทำซ้ำป้ายทะเบียนสีแดงขึ้นมาแทน เพราะอ้างว่าป้ายแดงมีไม่พอใช้กับความต้องการ ซึ่งการกระทำนี้จะเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายอาญา โทษฐานปลอมเอกสารทางราชการ  มีโทษจำคุก 6 เดือน - 5 ปี ปรับสูงสุด 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งขอความร่วมมือทุกท่านช่วยปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกโทษปรับ

ข้อมูลจาก JS 100

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com 

5 เรื่องน่าสนใจ