ความนิยมบริการ Connected Car ลดลงทั่วโลก ผู้ใช้ไม่อยากจ่าย-ห่วงข้อมูลส่วนตัว
- โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
- 22 ก.ค. 68 21:19
- 1,025 อ่าน
แม้เทคโนโลยี Connected Services จะกลายเป็นฟีเจอร์พื้นฐานในรถยนต์รุ่นใหม่แทบทุกคัน แต่ผลสำรวจล่าสุดโดย S&P Global Mobility กลับพบว่าความต้องการใช้งานระบบนี้กลับลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2025 มีเพียง 68% ของผู้ตอบแบบสอบถามที่ระบุว่ายินดีจ่ายค่าบริการ ซึ่งลดลงจาก 69% ในปี 2024
ระบบ Connected Services มักมาพร้อมรถใหม่โดยให้ทดลองใช้ฟรีช่วง 1–3 ปีแรก ก่อนที่ผู้ใช้งานจะต้องสมัครสมาชิกรายเดือนเพื่อใช้งานต่อ แม้ค่ายรถจะพยายามโปรโมตจุดเด่นของเทคโนโลยีนี้อย่างเต็มที่ แต่ผลสำรวจกลับชี้ว่าในหลายประเทศ เช่น สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร เยอรมนี ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น และบราซิล กลุ่มผู้ใช้ที่ไม่เชื่อมต่อกับบริการเหล่านี้ยังคงมีสัดส่วนสูงที่สุด โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ที่มีเพียง 19% อยู่ในช่วงทดลองใช้ฟรี และ 35% จ่ายเงินใช้บริการ ขณะที่ 38% ไม่ได้เชื่อมต่อเลย
ในประเทศจีน เกาหลีใต้ และอินเดีย มีผู้ใช้บริการ Connected Services สูงกว่า แต่เป็นเพราะมีผู้ใช้งานช่วงทดลองใช้ฟรีมากกว่าสหรัฐฯ อย่างน้อย 2 เท่า โดยในจีน มีเพียง 10% ที่ไม่เชื่อมต่อเลย
เหตุผลสำคัญที่ผู้ใช้ไม่ยินดีจ่ายสำหรับบริการเหล่านี้ คือการต้องเสียเงินเพิ่ม ทั้งที่ฟีเจอร์อย่างระบบนำทางสามารถใช้งานผ่านสมาร์ทโฟนที่มีอยู่แล้ว โดยสะท้อนบนหน้าจอรถยนต์ผ่าน Apple CarPlay หรือ Android Auto ได้ อีกทั้งบางระบบที่ถูกติดตั้งมาในรถ กลับถูกจำกัดการใช้งานไว้หลัง paywall ทำให้ผู้ใช้รู้สึกไม่พอใจ
ความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญ ผู้ใช้หลายรายไม่มั่นใจว่าข้อมูลพฤติกรรมการขับขี่จะถูกเก็บและใช้ไปอย่างไร โดยก่อนหน้านี้มีกรณีที่บริษัทรถยนต์ถูกฟ้องจากการแชร์ข้อมูลผู้ขับขี่ให้บริษัทประกันภัยโดยไม่ได้รับความยินยอม เช่นในกรณีของ GM ที่ถูกรัฐเท็กซัสฟ้อง
ถึงแม้ผู้ที่ได้ทดลองใช้บริการจะให้คะแนนความพึงพอใจในระดับที่ดี แต่ก็ต่ำกว่าปีก่อน ๆ ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์อย่าง GM และ Stellantis ที่เคยคาดการณ์รายได้จากบริการสมัครสมาชิกไว้สูงถึง 23–25 พันล้านดอลลาร์ต่อปี อาจต้องหากลยุทธ์ใหม่เพื่อดึงดูดลูกค้าในอนาคต
ที่มา Carscoops
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com