เฟอร์รารี่เตรียมเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกในปี 2026 เสียงคำรามใหม่ที่อาจไม่ถูกใจสายคลาสสิก
- โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
- 14 ต.ค. 68 20:54
- 1,032 อ่าน
เฟอร์รารี่ (Ferrari) กำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ด้วยการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกของแบรนด์ ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการในฤดูใบไม้ผลิปี 2026 โดยใช้ชื่อรหัสว่า Elettrica ซึ่งจะเป็นการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญของบริษัทจากรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน สู่โลกของพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ
แม้จะเป็นรถยนต์ไร้มลพิษคันแรกจากมาราเนลโล (Maranello) แต่ Elettrica ยังคงรักษาเอกลักษณ์ด้านสมรรถนะเอาไว้อย่างเต็มเปี่ยม ด้วยพละกำลังกว่า 986 แรงม้า (735 กิโลวัตต์) ที่ได้จาก มอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว และแบตเตอรี่ความจุสูง ซึ่งสามารถวิ่งได้ไกลกว่า 530 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง
ภายใต้โครงสร้างใหม่ เฟอร์รารี่ระบุว่าทุกองค์ประกอบหลักของรถรุ่นนี้ พัฒนาและผลิตภายในบริษัทเอง เพื่อรักษามาตรฐานสมรรถนะระดับตำนาน โดยระบบขับเคลื่อนประกอบด้วยมอเตอร์หน้าและหลังแยกกัน มอเตอร์หน้าให้กำลัง 282 แรงม้า ขณะที่มอเตอร์หลังสองตัวรวมกันให้กำลังถึง 831 แรงม้า เมื่อเปิดโหมดบูสต์ พละกำลังรวมจะทะลุเกิน 986 แรงม้า ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ใน 2.5 วินาที และความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 310 กม./ชม.
เทคโนโลยีเสียงที่ต่างจากเดิม แต่ยังคงอารมณ์เฟอร์รารี่
แม้จะไม่มีเสียงเครื่องยนต์ V8 หรือ V12 แบบดั้งเดิม แต่เฟอร์รารี่ไม่ได้เลือกใช้เสียงจำลองทั่วไปเหมือนแบรนด์อื่นๆ โดยระบบเสียงใน Elettrica จะใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับแรงสั่นสะเทือนจากอินเวอร์เตอร์ และขยายเสียงเหล่านั้นออกมาในลักษณะ "เสียงจริง" ที่เปลี่ยนไปตามรูปแบบการขับขี่ ซึ่งเฟอร์รารี่อธิบายว่าเป็นเสียงที่ "เป็นธรรมชาติและเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีอารมณ์"
ถึงอย่างนั้น การตอบรับต่อเสียงใหม่นี้ยังคงเป็นเครื่องหมายคำถาม โดยเฉพาะในกลุ่มแฟนพันธุ์แท้ที่ยึดมั่นในอารมณ์ของเครื่องยนต์สันดาปอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์
โครงสร้าง ตัวถัง และการออกแบบ
แม้ภาพสุดท้ายของรถจะยังไม่ถูกเผยแพร่อย่างเป็นทางการ แต่รถทดสอบที่ปรากฏออกมาชี้ว่ามันจะมาในรูปแบบ แกรนด์ทัวเรอร์แบบ 4 ประตู 4 ที่นั่ง คล้ายกับ Purosangue ที่ใช้เครื่องยนต์ V12
ตัวรถใช้โครงสร้างอลูมิเนียมรีไซเคิลถึง 75% พร้อมฐานล้อขนาด 2,960 มม. และตำแหน่งที่นั่งที่ถูกวางให้ใกล้กับล้อหน้า เพื่อความรู้สึกในการขับขี่แบบรถสปอร์ตแท้ ๆ ส่วนแบตเตอรี่ขนาด 122 kWh ถูกติดตั้งใต้พื้นรถ เพื่อช่วยลดจุดศูนย์ถ่วงลงกว่า 80 มม. เมื่อเทียบกับรุ่นเครื่องยนต์
นอกจากนี้ยังเป็น Ferrari รุ่นแรกที่ติดตั้ง ซับเฟรมหลังแยกส่วน ซึ่งช่วยลดแรงสั่นสะเทือนและเสียงรบกวนเข้าสู่ห้องโดยสาร พร้อมด้วยระบบกันสะเทือนแบบแอคทีฟ 48V ที่พัฒนาร่วมกับรุ่น Purosangue และ F80 โดยน้ำหนักรวมของตัวรถอยู่ที่ 2,300 กิโลกรัม นับเป็น Ferrari ที่หนักที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ Range, Tour และ Performance และยังมีระบบ Torque Shift Engagement ที่ปรับระดับแรงบิดได้ 5 ระดับจากแป้น Paddle ขวา พร้อมการปรับแรงเบรกด้วยแป้นซ้าย
การผลิตและการเปิดตัว
Elettrica จะถูกผลิตที่โรงงานแห่งใหม่ของเฟอร์รารี่ในมาราเนลโล ที่มีชื่อว่า “E-Building” ซึ่งถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าและไฮบริดโดยเฉพาะ โดยภายในปี 2025 คาดว่าจะมีการเปิดเผยภาพภายในห้องโดยสาร และเปิดตัวเต็มรูปแบบในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2026
ที่มา Carscoops
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com